ชมรมครูประถมฯศรีสะเกษ ลุกฮือต้าน ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาฯใหม่

ชมรมครูประถมฯศรีสะเกษ ลุกฮือต้าน ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาฯใหม่ หวั่นเปิดช่องบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ วอนรัฐคิดทบทวน เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูศรีสะเกษ ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายสุนทร กุมรีจิตร ประธานชมรมครูประถมศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ ออกแถลงการณ์ชมรมครูประถมศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ เรื่องคัดค้านการนำเข้า ร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ในการประชุมรัฐสภาวาระ 3 โดย นายสุนทร กล่าวว่า จากการที่รัฐสภามีการนัดประชุมสมาชิกสภาและมีบรรจุในวาระพิจารณา เรื่องร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. .. (ฉบับผ่านการพิจารณาของกรรมาธิการวิสามัญฯ) เข้าพิจารณาในวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันที่ 10-11 ม.ค. 66 นี้ ซึ่งทางชมรมครูประถมศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ ได้รวมตัวกันแต่งกายชุดดำออกแถลงจุดยืนความจำเป็นต้องปรับแก้ประเด็นสำคัญในหลายมาตรา ที่จะส่งผลกระทบต่อความเดือดร้อนของเด็กนักเรียน ผู้ปกครอง ประชาชนและประเทศชาติ อันเนื่องด้วยร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ไม่ส่งผลต่อโอกาสทางการศึกษาที่จะพัฒนาประเทศ และไม่ส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักสำคัญของชาติ ไม่ก่อให้เกิดการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อความสามัคคี มั่นคง และสงบสุข ในสาระสำคัญร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ…. หลายประเด็นมาตรา อาทิ ไม่ให้ครูเป็นวิชาชีพควบคุม/วิชาชีพชั้นสูงเหมือนดังเช่น พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 เมื่อบุคคลธรรมดา ใครก็จัดการศึกษาได้ ตามมาตรา 11,13,14(9) และมาตรา 48 วรรค 2 อีกทั้งยังไม่ให้รัฐจัดการศึกษาภาคบังคับตามมาตรา 48 และมาตรา 11 ข้าราชการครูผู้จัดการศึกษา (ผู้สอนและผู้บริหาร) ชั้นปฐมวัย ประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น จะต้องถูกให้ออกจากราชการในไม่ช้า ในที่สุด ซึ่งเด็กนักเรียนบ้านนอกยากจนด้อยโอกาสทั่วประเทศหมื่นกว่าโรงเรียน ต้องออกเดินทางไปเรียนโรงเรียนที่อยู่หมู่บ้านอื่นตามมาตรา 14 (9) เด็กๆจะออกกลางคันไม่จบการศึกษาภาคบังคับเป็นจำนวนมาก รวมทั้งไม่ส่งเสริมผู้เรียนสู่สัมมาชีพที่ตนถนัด บังคับให้เด็กๆเรียนเหมือนกัน เรียนอย่างเดียวกัน และเรียนเท่าๆกัน เพื่อให้เป็นคนมีคุณภาพเหมือนๆกัน ตามมาตรา…

Read More

กาฬสินธุ์ (ชมคลิป) นักวิ่งกว่าพันคนร่วมเดิน วิ่ง ฆ้อง ซิ่ง เลาะ ชี ครั้งที่ 1

  นักวิ่งจากจังหวัดกาฬสินธุ์ และใกล้เคียง กว่า 1,000 คน ร่วมกิจกรรม “เดิน วิ่ง ฆ้อง ซิ่ง เลาะชี ครั้งที่ 1” ซึ่งอำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกาย และหาทุนการศึกษาเรียนดีแต่ยากจนตามโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน วันที่ 8 มกราคม 2566 เวลา 06.00 น. นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ปล่อยตัวนักวิ่งที่เข้าร่วมการแข่งขัน “เดิน-วิ่ง ฆ้อง ซิ่ง เลาะ ชี ครั้งที่ 1” ซึ่งอำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการออกกำลังกาย และหาทุนสำหรับทุนการศึกษาเรียนดีแต่ยากจนตามโครงการ 1 ทุน 1 อำเภอ โดยการแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ Fun Run ระยะทาง 5.5 กม. และขง Mini Marathon ระยะทาง 10.5 กม. โดยมีนักวิ่งจากจังหวัดกาฬสินธุ์ และใกล้เคียงเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 1,000 คน นายเอกรัตน์ มิสา นายอำเภอฆ้องชัย กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของอำเภอฆ้องชัยเพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายภายใต้นโยบาย “คนฆ้องชัยร่ำรวยสุขภาพ หาทุนส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิต ครัวเรือนยากจน ตามโครงการ Kalasin Happiness Model คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และเพื่อหาทุนสำหรับเป็นทุนการศึกษาเรียนดีแต่ยากจนตามโครงการ 1 ทุน 1 อเภอ โดยระยะทางเริ่มจากหน้าลานฆ้องชัยมหามงคล ไปเส้นทางตำบลลำชี และกลับมาเข้าเส้นชัยที่ลานฆ้องชัยมหามงคล ณ…

Read More

กาฬสินธุ์ (ชมคลิป) พบป้ายมือมืดเขียนด่าคำหยาบริมถนนปากทางเขื่อนลำปาว

  พบป้ายแผ่นเหล็กของส่วนราชการ ริมถนนหลวงสายปากทาง-เขื่อนลำปาว ตำบลดอนสมบูรณ์ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ถูกมือมืดใช้สีดำเพ้นท์ตัวอักษรไทย “ค ว ย” สื่อถึงความหยาบคาย ตามความหมายของคนอีสานหมายถึงคำด่า เหยียดหยาม ระบุปรากฏเห็นข้อความดังกล่าวก่อนปีใหม่ แต่ถึงวันนี้ยังถูกปล่อยทิ้งไว้เหมือนถูกเมิน ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว เห็นแล้วรับไม่ได้ วอนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องแก้ไขด่วน วันที่ 8 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง พบป้ายเหล็กพื้นสีเขียว ที่ปักอยู่ริมคลองชลประทาน ข้างทางหลวงสายปากทาง-เขื่อนลำปาว ใกล้ทางเข้าบ้านโนนสามัคคี หมู่ 10 ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ถูกบุคคลนิรนามใช้สเปรย์สีดำพ่นเป็นตัวอักษรไทย “ค ว ย” ขนาดใหญ่ บดบังข้อความเดิมที่ปรากฏอยู่บนแผ่นป้ายเกือบมิด ทั้งนี้ ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว ผู้สัญจรผ่านไปมา เห็นแล้วรู้สึกไม่ดี ไม่รู้มือมืดหรือคนมือบอนเขียนด่าใคร มีเจตนาอะไรถึงลงมือเพ้นท์ข้อความดังกล่าวบนแผ่นป้าย และไม่รู้แอบมาเพ้นท์เมื่อไหร่ รู้แต่ว่าเห็นก่อนเทศกาลปีใหม่ ผ่านไปมามองเห็นเด่นหรา ชัดเจน เพราะตั้งอยู่ข้างถนนสายหลัก หรือถนนยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวสู่เขื่อนลำปาว มีรถยนต์ในพื้นที่และต่างถิ่นสัญจรผ่านวันละกว่า 2,000 คัน ทั้งนี้ ต้องการบอกผ่านสื่อมวลชน ช่วยเป็นกระบอกเสียงฝากถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรีบแก้ไข และฝากไปถึงเจ้าของตัวอักษรดังกล่าว ออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วย เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมที่สุด ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ พบป้ายดังกล่าว ขนาด 1×2 เมตร ซึ่งเป็นป้ายประกาศข้อความว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดปลูกสร้าง แก้ไข หรือต่อเติมสิ่งก่อสร้าง หรือปลูกปักสิ่งใด หรือทำการเพาะปลูก รุกล้ำทางน้ำชลประทาน ชานคลอง เขตคันคลอง หรือเขตพนัง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากกรมชลประทาน ผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา 23 และต้องระวางโทษจำคุก หรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง พ.ศ.2485 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว” โดยเป็นตัวอักษรสีขาวบนแผ่นป้ายสีเขียว ก่อนที่จะมีมือมืดใช้สเปรย์สีดำพ่นอักษร “ค…

Read More

ชัยภูมิ (ชมคลิป) ดีเจดัง ผันชีวิตมาเลี้ยงควายไทย ราคากว่า15ล้าน

ดีเจดังเมืองชัยภูมิผันชีวิตมาเลี้ยงควายไทย มูลค่าตัวล่ะกว่า15ล้าน หลังทำธุรกิจหมุนเวียน มาทั้งชีวิตและปัจจุบันได้หันมาเอาดีในการทำฟาร์มเลี้ยงกระบือหรือควายไทยตอนนี้มีประมาณ 35 ตัวมูลค่าอยู่ประมาณ 100 ล้านบาท วันนี้ 8 ม.ค.66 นาย โสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดชัยภูมิ ลงพื้นที่ ที่ บ้านเลขที่ 434 หมู่ที่ 10 บ้านเล่า ตำบลบ้านเล่า อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ได้พบกับ นางสาว วิรัญญา ผาแดง อายุ 45 ปี ดีเจดังเมืองชัยภูมิ กล่าวว่า เดิมทีตนมีอาชีพ ทำนา รายได้ไม่พอเลี้ยงชีพ จึงได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปหางานและได้ทำงานเป็นสาวโรงงานที่กรุงเทพฯ อยู่ประมาณ 7 ปี พอมีเงินเก็บได้พอประมาณ ตนอยากจะกลับมาอยู่บ้านเกิดและอยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง โดยได้เริ่มต้นจากการไปรับงานเย็บปักเสื้อผ้าจากโรงงานในกรุงเทพฯ เพื่อมาเย็บที่จังหวัดชัยภูมิ แล้วส่งให้โรงงานโดยในช่วงแรกก็ทำเพียง คนเดียว ต่อมาเริ่มหาเครือข่ายมาช่วยเย็บอยู่ที่บ้านของตน บางคนก็นำไปเย็บที่บ้าน ของเครือข่าย จนธุรกิจตัวนี้เริ่มโตขึ้นมาเรื่อยๆ ต่อมาตนคิดต่อว่าถ้าจะให้ธุรกิจดีขึ้น ต้องหาแนวทางประชาสัมพันธ์ให้ธุรกิจของตนให้มีคนรู้จักกว้างขึ้น จะทำอย่างไรต่อจึงได้เกิดความคิดขึ้นโดยได้ตั้งสถานีวิทยุชุมชน ขึ้นเป็นของตนเอง และขายโฆษณาให้กับลูกค้าทั่วๆไป โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการรับโฆษณาจากลูกค้า ต่อมาได้มีความคิดว่าอยากจะมีสินค้าทำของตนเอง เพื่อมาโฆษณาขายเองตนจึงได้ติดต่อโรงงานเพื่อผลิตสินค้าจำหน่ายเอง ผลออกมายอดขายสินค้าที่เป็นของตนเอง ขายได้ดี เกินความคาดหมายเพราะดีขึ้นมากๆ หลังจากเก็บเงินได้พอสมควรจึงได้หาซื้อที่ดินเพื่อเก็บไว้ เป็นของตนเองอีก ต่อมาเห็นพื้นที่ที่ดินที่ซื้อทิ้งไว้ของตนมีพวกวัชพืชหรือหญ้าขึ้นเต็มพื้นที่ไปหมด จึงเกิดความคิดว่าอยากจะหาสัตว์อะไรมาเลี้ยงดีที่มันกินหญ้าเป็นอาหาร โดยตนเองไม่ต้องจ้างคนงานมาตัดหญ้าที่เกิดขึ้น ตน เห็นว่าสัตว์ที่มันกินหญ้าก็คือวัวมันกินหญ้า จึงได้ซื้อวัวมาเลี้ยง และเห็นว่ามีคนจำนวนมาก เขานิยมเลี้ยงวัวกันและถ้าตนเลิกเลี้ยงก็สามารถขายให้คนอื่นๆได้ มีราคาด้วย ไม่ว่าจะเป็นวัวไทยหรือนำวัวจากต่างประเทศมาเลี้ยงก็ได้ราคาดี หลังจากที่เลี้ยงวัวได้ช่วงหนึ่ง ตนเองได้มีการขยายกิจการเพิ่มขึ้นโดยได้ซื้อวัวเพิ่มจนถึง ณ เวลานี้มีวัวอยู่ประมาณ 30 ตัวแต่ ณ เวลานี้ ตลาดวัวเริ่มราคาไม่ดี ตนจึงมีความคิดต่อยอดว่าเอาอะไรมาทำต่อเพื่อเพิ่มรายได้ จึงมองเห็นว่าน่าจะทำเป็นฟาร์ม โดยได้ตั้งชื่อฟาร์มว่า กุ้งนาง ควายงาม…

Read More

หนองบัวลำภู – สะเทือนใจสองแม่ลูกหวุดหวิดชะตาขาด

สะเทือนใจสองแม่ลูกหวุดหวิดชะตาขาด บึง จยย.ลอยละลิ่วข้ามคันคูอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ขาดร่วม 15 ม.จยย.พร้อม2 แม่ลูกกองกับพื้นร่วม 10 ม.ก่อนที่ญาติและชาวบ้านมาพบร่วมชั่วโมง อาการของผู้เป็นแม่สาหัส นำส่ง รพ.อุดรธานี ขณะลูกวัย 9 ปีนอนพักรักษาตัว รพ.ศรีบุญเรือง สาเหตุอาจไม่รู้เส้นทางว่ามันขาดหรือไม่มีแผงกั้นจราจร บริเวณสันคูที่ขาดของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ภายหลังเจอมรสุมทำให้คันคูขาดเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา วันที่ 8 มค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 7 มค.66ได้รับแจ้งจากนายบุญลือ ศรีภูวงษ์ ส.อบจ.จังหวัดหนองบัวลำภู เขตอำเภอศรีบุญเรือง ว่าภายหลังรับแจ้งเหตุจึงรุดไปตรวจสอบร่วมกับชาวบ้านที่กำลังช่วยกันนำร่างของ 2 แม่ลูกขึ้นมาจากพื้นร่องคันคูน้ำที่ขาด ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นชาวบ้านจึงแจ้งกู้ชีพกู้ภัยของเทศบาลตำบลโนนสะอาด อำเภอศรีบุญเรือง มานำ 2 แม่ลูกนำส่งรพ.ศรีบุญเรือง จากการสอบถามญาติของ 2 แม่ลูกทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ นางปรางค์ฤดี อ่อนน้อม อยู่บ้านเลขที่ 35 ม.11 อายุ 27 ปี พร้อม ดช.จักรี อ่อนน้อม อายุ 9 ปี ราษฏรบ้านคึมน้ำเกลี้ยง ต.โนนสะอาด อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู โดยก่อนเหตุทราบว่า 2 แม่ลูกขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินขาว 125 ซีซี ทะเบียน 1 กบ.3003 ระยอง ออกจากบ้านพัก เพื่อมาพบหมอที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านหินตลาด ตำบลโนนสะอาด ระยะทางประมาณ 2 กมโดยขามา รพ.สต.ขับออกจากบ้านผ่านหน้าโรงเรียนบ้านหินตลาด ซึ่งอยู่แนวเดียวกับฝั่งอ่างเก็บน้ำหินตลาด หลังจากพบหมอแล้วจึงขับรถกลับมาอีกเส้นทางคันคูอ่างเก็บน้ำอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อกลับบ้านพัก ส่วนสาเหตุคาดว่าคนขับคงไม่ทราบว่าถนนที่ขับกลับมีคันคูของอ่างเก็บน้ำบ้านหินตลาดขาดจากมรสุมของพายุเมื่อปลายเดือนกันยายน ที่ผ่านมา หรือบริเวณนั้นไม่มีแผงกั้นจราจร ที่ห้ามรถจักรยานยนต์ผ่านบริเวณนั้น หรืออาจจะเป็นเพราะสาเหตุเรื่องสุขภาพเนื่องจากทราบว่านางปรางค์ฤดีฯมีอาการที่มาพบหมอเนื่องจากเป็นโรคเบาหวาน และสายตาฟ้าฟาง จึงอาจจะเป็นสาเหตุที่ขับจักรยานยนต์มาโดยไม่เห็นหรือไม่ทราบว่าคันคูขาด หรือเบรกรถจักรยานยนต์ไม่อยู่ จึงทำให้จักรยานยนต์นำ 2 แม่ลูกลอยละลิ่วตกลงไปในร่องน้ำที่คันคูขาด ร่วม 10…

Read More

ศรีสะเกษ – เผาแล้วเหยื่อรถเหินฟ้าข้ามเลนเสยเก๋งดับยกครัว 5 ศพ พ่อเศร้าไร้เงาคู่กรณีร่วมงาน

จากกรณีเกิดอุบัติเหตุหมู่รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น ยารีส สีขาว ทะเบียน ขง 1252 อุบลราชธานี มีนายลิขิต ตารัตน์ อายุ 30 ปี ชาว ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เป็นคนขับ มาพร้อมผู้โดยสารด้วยรวม 4 คน พุ่งชนท้าย รถ จยย. ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีแดง ทะเบียน 2 กค 5045 อุบลราชธานี ก่อนที่จะเสียหลักปีนเกาะกลางถนนด้วยความเร็วสูงจนรถยนต์เหินฟ้าลอยข้ามเลนไปตกใส่รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ขจ 768 อุดรธานี อีกคันหนึ่ง ที่กำลังวิ่งสวนทางมาอยู่บนถนน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย คือ นายเสงี่ยม จันทอง อายุ 50 ปี เป็นคนขับรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีดำ นางเสงี่ยม จันทอง อายุ 44 ปี ภรรยาคนขับ นายศุภชัย จันทอง อายุ 19 ปี ลูกชาย น.ส.ศิริวรรณ จันทอง อายุ 18 ปี ลูกสาว และ ด.ญ.นารีรัตน์ จันทอง อายุ 12 ปี ลูกสาว ซึ่งทั้งหมดเป็นพ่อแม่ลูก ครอบครัวเดียวกัน เสียชีวิตทั้งหมด และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย  …

Read More

ชัยภูมิ (ชมคลิป) เกษตรกรซับใหญ่ พลิกชีวิตปลูกฟักทองขายทำเงินปีละล้าน

เกษตรกรสาวชาว ซับใหญ่ พลิกชีวิตปลูกฟักทองขายทำเงินกว่าปีล่ะล้านบาท จากเดิมที่เคยปลูกมันสำประหลังได้เงินน้อย ชัยภูมิจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นและมีหมอกในช่วงเช้าทำให้พืชผักชนิดต่างๆมีผลผลิตที่งดงามส่งขายได้ราคาดี ขณะเดียวกันเกษตรกรที่เคยปลูกมันสำประหลังพลิกวิกฤตหันมาปลูกฟักทองขายส่งตลาด สร้างรายได้เข้าครอบครัวอย่างงามมีรายได้ปีล่ะนับล้านบาท เกษตรกรสาวบ้านวังกุง ต.ท่ากูบ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ ได้พลิกชีวิต นำพื้นที่ไร่ซึ่งปลูกมันสำประหลังและหันมาปรับเปลี่ยนแนวคิดปรับพื้นที่ไร่มันสำประหลังให้เป็นแปลงปลูกฟักทองขายส่งพ่อพ่อค้าที่วิ่งมารับซื้อถึงไร่ ไม่ต้องเสียค่าขนส่งเช่นมันสำประหลังประหยัดค่าใช้จ่ายแถมได้ราคาดี โดยเฉพาะปีนี้ ราคา รับซื้อพุ่งถึง กิโลกรัมล่ะ 15 บาทเลยทีเดียว ทำให้เกษตรเกษตรต้องเร่งเก็บผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นการด่วน โดยเฉพาะผลผลิตลูกฟักทองที่เกษตรกรเก็บออกสู่ตลาด ในช่วงนี้ ราคา กิโลกรัมล่ะ 15 บาท หนึ่งไร่สารมารถทำเงินให้เกษตรกรมีรายได้เฉลี่ยต่อไร่ 3-4หมื่นบาท ในระยะเวลาในการปลูกเพียง 70-80วันเท่านั้นเองก็สามารถเก็บผลผลิตออกขายสู่ตลาดสร้างรายอย่างงดงามให้กับเกษตรได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวในระยะนี้ ด้านน.ส.สุภาวนี รวดชัยภูมิ อายุ 30ปี หนึ่งในเกษตรกร บ้านวังกุง หมู่ 4 ตำบลท่ากูบ อำเภอซับใหญ่ จังหวัดชัยภูมิ ที่เคยปลูกมันสำประหลังเป็นหลัก และให้หันมาปลูกฟักทองอย่างจริงจังพร้อมเผยว่าตนเองเดิมทีเคยปลูกมันสำประหลัง แต่เนื่องด้วยค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงการลงทุน ค่อนข้างสูง หักค่าใช้จ่ายแล้วในแต่ล่ะปีทำให้ตนมีเงินเหลือน้อย ดังนั้นตนและครอบครัวจึงได้คิดหันหาแนวทางในการทำการเกษตร หันหลังให้กับการทำไร่มันสำประหลัง จึงหันมาปลูกฟักทองขายโดยในช่วงแรก ตนได้ทดลองปลูกก่อน 15 ไร่ โดยเก็บลูกอ่อนออกขายส่งให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดในอ.จัตุรัสและขายเร่ตามชุมชน จนต่อมาทำให้ได้รู้จักกับพ่อค้าที่วิ่งรับซื้อฟักทองแก่ จึงได้แนะนำให้ตน ปลูกฟักทองแก่ขายเพราะจะได้น้ำหนักมากกว่าฟักทองอ่อน ตนจึงได้หันมาลงทุนปลูกฟักฟองอย่างจริงจัง บนพื้นที่ กว่า 40ไร่ ซึ่งปัจจุบัน ตนและครอบครัวมีรายรายได้จากการขายฟักทองเฉลี่ยปีล่ะนับล้านบาทเลยทีเดียว โดยตนเองได้ปลูกฟักทองติดต่อกันมาแล้วกว่า4ปีจึงทำให้เป็นที่รู้จักของพ่อค้าที่รับซื้อฟักทองไปแล้วในระยะนี้ โดยในปัจจุบันนี้ได้มีพ่อค้ารายใหญ่ติดต่อมาขอซื้อถึงสวน ในราคา กิโลกรัมล่ะ 15บาท ซึ่งตนกำลังทยอยเก็บขายวันล่ะ 8-10 ตัน ต่อวัน โดยปีนี้คาดว่าเมื่อเก็บผลผลิตเสร็จจะมีรายได้นับล้านบาทอย่างแน่นอน เพราะขายได้ราคาดีกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากเก็บผลผลิตของฟักทองเสร็จตนก็จะทำการปลูกข้าวโพดต่อไปสลับหมุนเวียนกันไปซึ่งในหนึ่งปีจะสามารถทำประโยชน์จากไร่ได้ ถึงสองครั้งในปีเดียวกันแตกต่างจากมันสำประหลังมากหนึ่งปีถึงเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ แต่หัวใจสำคัญ ในการปลูกฟักทอง ต้องไม่ขาดน้ำ เกษตรกรควรคำนึงถึงแหล่งน้ำเป็นสำคัญเพราะจะทำให้ผลผลิตมีลูกสวยสมบูรณ์ขายได้ราคาดี หากใครสนใจที่จะมาศึกษาเพื่อเป็นแนวทางได้ไม่หวงเพราะอยากให้เกษตรกรมีรายได้เช่นกันสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร 062 -1799558 ด้านนายวาสุเทพ ศรีคำแหง อายุ 43ปี พ่อค้ารับซื้อฟักทอง กล่าวว่า…

Read More

ขอนแก่น (ชมคลิป) ตำรวจเมืองหมอแคน ตามรวบตัวผู้ต้องหาที่ตระเวนลักตะกร้าพลาสติก ร้านสะดวกซัก

ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ตามรวบตัวผู้ต้องหาที่ตระเวนก่อเหตุ ลักทรัพย์ตะกร้าพลาสติก ร้านซักผ้าในเขตเมืองขอนแก่น เพื่อนำไปขายก่อนจะนำเงินไปซื้อสุรามาดื่ม             8 ม.ค. 66  พ.ต.ท.เมธี  ศรีวันนา สวป.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วย ร.ต.อ.สิทธิพงษ์  พลแสน  รอง สวป.สภ.เมืองขอนแก่น  ด.ต.แสงตะวัน  จำปาศรีขวัญสกุล  ,ส.ต.ท.ชนม์สวัสดิ์  เสริมทรง ผบ.หมู่ (ป.)สภ.เมืองขอนแก่น นำหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 448/2565 ข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดฯ เข้าจับกุมตัวนายสราวุธ เนาว์โสภา อายุ 53 ปี ที่อยู่ 79 ม.11 ต.ศรีสุข  อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม หน้าร้านขายของชำ บ้านเลขที่ 4/7 หมู่ 3 ถ.โพธิสาร ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น พร้อมของกลาง รถจักรยานจำนวน 1 คัน  เสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุ จำนวน 1 ชุด ประกอบด้วยหมวกดำ แว่นตาสีทอง เสื้อสีดำแถบส้ม กระเป๋าคาดเอว และกางเกงวอม แถบฟ้า                 พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า ของนายสราวุธ จะตระเวนก่อเหตุขโมยตะกร้าภายในร้านซักผ้าแบบหยอดเหรียญ โดยได้ก่อเหตุมาแล้วถึง 6 ครั้ง เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 65 เวลา 03.33 น. ได้ลักเอาตะกร้าผ้าพลาสติก สีขาว จำนวน 1 ใบ ราคา 300 บาท วันที่ 11 พ.ย. 65 เวลา 22.05 น. คนร้ายได้ลักเอาตะกร้าผ้าพลาสติก…

Read More