เลย(ชมคลิป)กฟผ.มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ต้าน COVID-19 ให้จังหวัดเลย

กฟผ.มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ต้าน COVID-19 ให้จังหวัดเลย เพื่อให้เป็นเมืองปราศจากโควิด รองรับนักท่องเที่ยวในอนาคต
วันที่ 4 เมษายน 2564 ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย ต.นาอาน อ.เมืองเลย จ.เลย นายโสภณ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นพ.สมชาย ชมภูคำ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย นายสุทธิชัย จูประเสริฐพร รองผู้ว่าการบริหาร ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมแถลงข่าวการมอบอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อสนับสนุนการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ให้กับจังหวัดเลย โดยมีนายพัฒนา แสงศรีโรจน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการการะทรวงพลังงานเป็นประธาน
นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานมีนโยบายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ (Carbon Neutral) ซึ่งสอดคล้องกับศักยภาพของจังหวัดเลยที่เป็นเมืองคาร์บอนต่ำ เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และเกษตรอินทรีย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ กฟผ.นำมามอบในวันนี้หวังว่าจะช่วยให้จังหวัดเลยเป็นจังหวัดที่ปราศจากโควิด เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเที่ยว มาสัมผัสกับความสวยงามและธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของจังหวัดเลยต่อไป
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลยกล่าวว่า ขอขอบคุณ กฟผ. ที่ร่วมสนับสนุนอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลจังหวัดเลยในครั้งนี้ โดยจะนำไปใช้ในโรงพยาบาลเลย โรงพยาบาลท่าลี่ และสาธารณสุขจังหวัดเลย ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดเลย ได้กำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างเคร่งครัด โดยมีโรงพยาบาลเลยเป็นสถานบริการสุขภาพที่ให้การรับรองการส่งต่อผู้ป่วยกลุ่มโรคต่าง ๆ จากโรงพยาบาลระดับอําเภอ และสถานบริการสุขภาพอื่น ๆ ซึ่งเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มามอบนี้ จะมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการใช้เฝ้าระวังและตรวจรักษาประชาชน
ด้านนายสุทธิชัย จูประเสริฐพรรองผู้ว่าการบริหาร กฟผ. กล่าวว่า จังหวัดเลย และ กฟผ. ดำเนินการพัฒนาเศรษฐกิจและประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาลซึ่งคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของประชาชนและการเติบโตของประเทศเป็นหลัก ในเรื่องการรักษาความมั่นคงระบบไฟฟ้าของจังหวัดเลยและพื้นที่ใกล้เคียงในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ร่วมดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับในช่วงสถานการณ์ COVID-19 กฟผ.มีฝ่ายเคมีและมีพนักงานที่สามารถค้นคิดนวัตกรรมและใช้ได้ผลดี โดย กฟผ.ได้แจกจ่ายไปยังโรงพยาบาลต่างๆ มากมาย และในวันนี้รู้สึกยินดีมากที่ได้มามอบให้กับจังหวัดเลย สำหรับอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ที่นำมามอบในครั้งนี้ ประกอบด้วย ตู้เก็บสิ่งส่งตรวจความดันบวก จำนวน 5 ตู้ ตู้เก็บสิ่งส่งตรวจความดันลบ จำนวน 2 ตู้ หน้ากากชนิด KN 95 จำนวน 1,500 ชิ้น หน้ากากอนามัย จำนวน 400 กล่อง ถุงมือยาง จำนวน 120 กล่อง หมวกผ่าตัด จำนวน 5,000 ใบ ชุดกาวน์กันน้ำ จำนวน 1,200 ชุด เสากดเจลแอลกอฮอล์แบบเท้าเหยียบ จำนวน 55 ชุด เจลอนามัยน้ำใจ กฟผ. 460 ลิตร สเปรย์แอลกอฮอล์น้ำใจ กฟผ. 130 ลิตร และน้ำดื่มตรา “น้ำใจ กฟผ.” จำนวน 960 ขวด มียอดรวมทั้งสิ้น 11,717 ชิ้น และก่อนหน้านี้ในปี 2563 กฟผ. ได้สบับสนุนงบประมาณสำหรับโรงพยาบาล 100,000 บาท และตู้เก็บสิ่งส่งตรวจความดันลบ จำนวน 1 ตู้ ให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย และหวังว่าอุปกรณ์การแพทย์นี้จะช่วยให้ประชาชนห่างไกลและหายจาก COVID-19
ด้าน นพ.สมชาย ชมภูคำ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย ด้านเวชกรรมป้องกัน กล่าวว่า สิ่งของที่มอบนี้จะช่วยให้ประชาชนจังหวัดเลยได้มีเครื่องมือในการป้องกันและรักษาได้พร้อมมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนมีวิถีชีวิตที่ปกติโดยเร็ว ส่งผลดีต่อประเทศโดยรวม
ท้ายสุด ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. กล่าวว่า ปัจจุบันได้ดำเนินโครงการพัฒนาระบบส่งไฟฟ้าบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู และขอนแก่น เพื่อรองรับไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนไชยะบุรี ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยกำลังดำเนินการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าแรงสูงท่าลี่คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2564 จะช่วยเสริมให้ระบบไฟฟ้าของจังหวัดเลยและภาคอิสานมีความมั่นคงและเชื่อถือได้ ซึ่งจะช่วยเสริมให้จังหวัดเลยเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว เมืองแห่งการค้าและการลงทุนได้อย่างยั่งยืนในอนาคต ทั้งยังรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งยังสามารถส่งต่อพลังงานไฟฟ้าที่เหลือเข้าสู่ระบบไฟฟ้า เพื่อส่งจ่ายไปยังภาคกลาง พร้อมทั้งขอความร่มมือประชาชนช่วยระวังการเผาไร่อ้อยและพืชผลทางการเกษตรใต้แนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เพราะนอกจากจะเป็นสาเหตุของฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 แล้วยังส่งผลกระทบถึงความมั่นคงในระบบไฟฟ้าอีกด้วย


ดำรงค์ รักษ์จรรยาวงศ์/ จ.เลย