หนองคาย- ผลิตดอกไม้เทียนหลากสี จากเทียนไขและน้ำตาเทียนที่ใช้แล้ว แทนดอกไม้สดที่ราคาแพง

ประดับกระทงกาบกล้วยจำหน่ายในวันลอยกระทง เพื่อลดต้นทุนการผลิตกระทงและสร้างรายได้เข้าวัด
นางนันทวัน เดชดารา ฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ท่องเที่ยวโอทอปนวัติวิถีปะโคเหนือ กล่าวว่า ในช่วงวันลอยกระทงของทุกปี ดอกไม้ที่ใช้ในการประดับกระทงกาบกล้วย จะมีราคาแพง จึงได้ร่วมกันกับนายสมเกียรติ เดชสุต ผู้ใหญ่บ้านปะโคเหนือ/ประธานชุมชน และชาวบ้าน หาแนวทางลดต้นทุนในการซื้อวัตถุดิบที่มาประดับกระทงแทนดอกไม้ ซึ่งซึ่งราคาแพง โดยเฉพาะดอกดาวเรือง ได้เห็นเทียนไขและน้ำตาเทียนที่ใช้แล้วของทางวัดอุดมสรรพผล หรือ วัดโพนบก ที่ชาวบ้านนำมาจุดบูชาพระ มีจำนวนมาก จึงได้ขอรับบริจาคจากทางวัด มาแปรรูป เป็นดอกไม้หลากสีสวยงาม ดีกว่านำไปทิ้ง โดยได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านที่ว่างจากภารกิจประจำวัน ในช่วงเย็นมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ช่วยกันทำดอกไม้เทียน สีสันสวยงาม โดยใช้ลูกมะละกอที่หาได้ในชุมชนมาแกะสลักเป็นแม่พิมพ์ จากนั้นเมื่อได้ดอกไม้เทียนแล้วก็จะนำไปประดับตกแต่งในกระทงกาบกล้วย ชาวบ้านปะโคเหนือจะเรียกกระทงกาบกล้วยนี้ว่า “กระทงหงส์เสี่ยงรักนางอุสา” ซึ่งชื่อนี่มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ ชาวชุมชนปะโคเหนือจะพร้อมใจกันทำขึ้นในวันลอยกระทงของทุกปี ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม 2563 โดยมีจำหน่ายตั้งแต่ราคา 20-50 บาท เพื่อหารายได้ถวายวัดอุดมสรรพผล ซึ่งมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวปะโคหรือชาวเมืองพะโคและใกล้เคียงนับถือ ประดิษฐานอยู่ในวิหารศิลปะล้านช้างที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในจังหวัดหนองคาย
ตามตำนายอุสา-บารส คือท้าวบารส พระราชโอรสของเจ้าเมืองพะโคลงสรงน้ำที่แม่น้ำโขงหน้าวัดแห่งนี้ และได้พบกับกระทงมาลัยของนางอุสา ธิดาเมืองพานที่เสี่ยงทายหาคู่รัก และท้าวบารสได้ออกติดตามหาเจ้าของกระทรงจนพบ และเกิดเป็นรักอมตะ จนเป็นตำนานอุสา-บารสให้ลูกหลานได้เล่าสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน (ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ บ้านปะโคเหนือ หมู่ที่ ๒ ตำบลปะโค อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย) จึงเป็นความเชื่อของชาวบ้านปะโคเหนือ ที่ผู้ใดได้ลอยกระทงหงส์เสี่ยงรักนางอุสา แล้ว จะพบรักแท้ แน่นอน

:ฤาษีลภ-ปวีณา//จ.หนองคาย