ขอนแก่น(ชมคลิป)มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประสบความสำเร็จใช้รังไหมผลิตเสื้อเกราะกันกระสุน M16 ยิงไม่ทะลุ

ที่ห้องรับรองพิเศษ ศาลาช่อกาลพฤกษ์ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วย ผศ.ดร.พนมกร ขวาของ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะ วิศวกรรมศาสตร์และ อ. สุธา ลอยเดือนฉาย ร่วมกันแถลงการวิจัยแผ่นรังไหมรับแรงกระสุนปืน จากเดิมที่สามารถป้องกัน กระสุนปืนสั้นได้ทุกชนิด พัฒนาต่อยอดสู่แผ่นรังไหมรับแรงกระสุนปืนขนาด 5.56 มิลลิเมตร กระสุนปืน M16 ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ ทางทหารได้สำเร็จ เพื่อรองรับการปฏิบัติงานสำหรับกลุ่มอาวุธสงคราม โดยมี 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นน้ำหนัก  2  กิโลกรัม และรุ่นน้ำหนัก 1.6 กิโลกรัม ซึ่งเบากว่าแผ่นเหล็กหนาขนาด 9 มิลลิเมตร ที่ใช้ในเสื้อเกราะกันกระสุน ทั่วไปในปัจจุบัน 2-3 เท่า

นอกจากน้ำหนักเบาแล้ว คุณสมบัติเด่นของแผ่นรังไหมรับแรง คือ การหยุดจับกระสุนไม่ให้เกิดการแฉลบ เนื่องจากพบว่าการใช้แผ่นโลหะทำให้กระสุนเกิดการแฉลบ ซึ่งอาจไปโดนอวัยวะอื่น หรือผู้อื่นที่อยู่ข้างเคียงได้ และหากเปรียบเทียบคุณสมบัติที่ดีกว่าเกราะอ่อนกันกระสุนที่ทำจากเคฟลาร์ พบว่าแผ่นรังไหมรับแรงมีราคาถูกกว่า และยังสามารถป้องกันอาวุธมีคม อาทิ มีด ซึ่งไม่สามารถแทงทะลุแผ่นรังไหมได้ แต่สามารถแทงทะลุเกราะอ่อนได้

ผศ.ดร.พนมกร ขวาของ เผยว่า กระบวนการผลิตแผ่นรังไหมรับแรงกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จะมี กระบวนผลิตแตกต่างจากแผ่นรังไหมรับแรงกระสุนปืนสั้น โดยยังใช้รังไหมที่มีความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา ต้านทาน แรงกระแทกได้ดีแต่เพิ่มวัสดุที่สามารถรับและกระจายแรงเข้าไป พร้อมทั้งพัฒนาปรับปรุงน้ำยาชนิดพิเศษ เพื่อให้ วัสดุต่าง ๆ ยึดเกาะกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ได้แผ่นรังไหมที่สามารถรับแรงกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. หรือ กระสุนปืน M16 ได้ ซึ่งแตกต่างจากแผ่นรังไหมเดิม ที่รับได้เฉพาะแรงกระสุนปืนสั้นเท่านั้น แม้ว่าจะนำมาซ้อนกัน ถึง 4 แผ่น แต่กระสุนปืนขนาด 5.56 มม. ก็สามารถทะลุได้

ต่างจากแผ่นรังไหมรับแรงที่เพิ่งคิดค้นสำเร็จนี้โดยได้ จดสิทธิบัตรเป็นทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว ตอนนี้แผ่นรังไหมรับแรงมี 2 แบบ คือ แผ่นรังไหมรับแรงกระสุนปืนสั้น ซึ่งมี 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นน้ำหนัก 0.9 0.75 และ 0.55 กิโลกรัม และแผ่นรังไหมรับแรงกระสุนปืนขนาด 5.56 มิลลิเมตร ซึ่งมี 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นน้ำหนัก 2 และ 1.6 กิโลกรัม เพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ อาทิ ทหาร ตำรวจ ตำรวจตระเวนชายเดน หรือเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงชายแดนภาคใต้ สำหรับเจ้าหน้าที่ที่สนใจ สามารถติดต่อ ได้ที่ 089-8406586 ผศ.ดร. พนมกร ขวาของ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเคมี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ อาจารย์สุธา ลอยเดือนฉาย

ทั้งนี้โดยในการทดสอบแรงรับกระสุนของแผ่นรังไหมในสนามจริง พบว่ารุ่น 5.56 และรุ่น 2.1 กิโลกรัม สามารถรับแรงกระสุนได้จำนวน 5 นัด ซึ่งหัวกระสุนไม่ทะลุ จะฝังอยู่ในเนื้อเกราะรังไหม ส่วนรุ่น 1.6 กิโลกรัม รับกระสุนได้ 2 นัด ซึ่งเมื่อเกราะกันกระสุนรังไหมเมื่อถูกยิงแล้ว จะไม่สามารถนำกลับมาใช้อีก ซึ่งราคายังไม่ได้กำหนด แต่รับรองว่าถูกกว่าราคาทั่วไป 2-3 เท่าตัว