หนองบัวลำภู (ชมคลิป) ชาวบ้านดอนเข็ม จัดงานบุญเดือนสี่ ‘ขี่ช้างแห่ผะเหวด’ เข้าเมืองสืบสานวัฒนธรรมไทย

หลวงพ่อทองโต โลกเทพอุดร เกจิสายมูนั่งบนหลังช้างนำชาวบ้านดอนเข็มพร้อมขบวนแห่พระเวสสันดรเข้าเมือง ร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวอลังการงานช้าง


บรรยากาศพลังศรัทธาพุทธศาสนิกชนทั้งใกล้และไกลหลั่งไหลมาร่วมงานทอดผ้าป่าสามัคคี สมทบทุนก่อสร้างศาลาการเปรียญ พร้อมประเพณีบุญผะเหวด ฉลองศาลาการเปรียญ และกิจกรรมเสริมโชคชะตา โดยมีหลวงพ่อทองโต โลกเทพอุดร เกจิอาจารย์สายมู วัดภูฝอยลม อำเภอหนองแสง จังหวัดอุดรธานี ที่มีลูกศิษย์เคารพและศรัทธา ตลอดจนของชาวบ้านข่าดอนเข็มเหนือ ตำบลหัวนา อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู


พร้อมด้วย นายสุวิทย์ จันทร์หวร ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู นายสันติ ป่าหวาย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุรพล มิ่งชัย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดหนองบัวลำภู นายชยานันท์ เกตุเมฆ รองนายก อบจ.หนองบัวลำภู นางศรัณยา สุวรรณพรหม ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู นายนนทศักดิ์ สุดจิตร นายก อบต.หัวนา ขึ้นนั่งบนหลังช้างแสนรู้ จำนวน 6 เชือก พร้อมขบวนแห่ผ้าพระเวสสันดร ขบวนกลองยาว ขบวนฟ้อนรำ เริ่มต้นจากโรงเรียนบ้านดอนเข็ม ไปตามถนนภายในหมู่บ้านไปยังวัดดอนเข็มเหนือ ท่ามกลางพุทธศาสนิกชนรอชมขบวน 2 ข้างทางหลายพันคน
โดยก่อนหน้านี้ที่สนามฟุตบอลโรงเรียนบ้านข่าดอนเข็ม คณะกรรมการจัดงานจัดให้มีพิธีเปิดงานโดยมี นายประยูร อรัญรุท ปลัดจังหวัดหนองบัวลำภู ดร.วุฒิพงษ์ ศิริสถิตย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู นายนิติปกรณ์ แสงสุวรรณ นายอำเภอเมืองหนองบัวลำภู หัวหน้าส่วนราชการในระดับจังหวัดหนองบัวลำภู คณะผู้บริหาร อบต.หัวนา กำนันผู้ใหญ่บ้านในตำบลหัวนา ชาวบ้านข่าดอนเข็ม พร้อมช้างจำนวน 7 เชือกร่วมในพิธี


จากนั้น นายสุวิทย์ จันทร์หวร ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู และ นายสันติ ป่าหวาย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกันเปิดจัดกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวสระน้ำหนองทามปลาปิ้งขององค์การบริหารส่วนตำบลหัวนา ร่วมกับท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดหนองบัวลำภู และ บุญผะเหวดหรือบุญผะเวสหรือบุญมหาชาติ คืองานบุญของชาวอีสานที่จะเริ่มทำบุญกันในช่วงเดือนสี่ ซึ่งในงานนี้ชาวบ้านข่าดอนเข็มและชาวตำบลหัวนา ได้ร่วมจัดงานบุญประเพณีเพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมเก่าแก่ไว้ให้กับลูกหลานได้เรียนรู้เห็นภาพแห่งพัฒนาการวัฒนธรรมจากบรรพบุรุษ โดยมี ขบวนแห่ด้วยช้าง จำนวนหลายเชือก กลองยาว ขบวนฟ้อนรำ สร้างความคึกคักให้กับงานบุญประเพณีเป็นอย่างมากอีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว หรือ Sports Tourism อีกด้วย


ทั้งนี้ สืบเนื่องจากพระอุทิศ อคฺคธมฺโม(อัคคธัมโม) เจ้าอาวาสวัดดอนเข็มเหนือ ร่วมกับ ชาวบ้านดอนเข็มเหนือ จัดฉลองศาลาการเปรียญภายในวัดดอนเข็ม และบุญผะเหวดหรือบุญมหาชาติ ประจำปี 2567 ขึ้น ในระหว่างวันที่ 2 – 5 มีนาคม 2567 ณ วัดดอนเข็มเหนือ บ้านข่าดอนเข็ม หมู่ที่ 2 ตำบลหัวนา อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู ในขณะที่ อบต.หัวนา ร่วมกับ อบจ.หนองบัวลำภู และ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดหนองบัวลำภู จัดกิจกรรมส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวตามนโยบายของทางรัฐบาลในการส่งเสริมกิจกรรม Soft Power จากงานประเพณีวัฒนธรรมและสนับสนุนจารีตประเพณีท้องถิ่นให้คงสืบไป โดยมีสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมดำเนินงานตามโครงการดังกล่าว ด้วยการสนับสนุนกิจกรรม กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว หรือ Sports Tourism นำทีมพารามิเตอร์บินแสดงโชว์ในพิธีเปิดงานและจะมีการแสดงโชว์เจ็ทสกี ณ สระน้ำหนองทามปลาปิ้ง ตำบลหัวนา อีกด้วย


สำหรับ ประเพณีบุญผะเหวด หรือบุญพระเวส หมายถึง บุญพระเวสสันดร เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า บุญมหาชาติ ชาวอีสานจะนิยมจัดขึ้นในเดือนสี่ หรือช่วงเดือนมีนาคม เป็นบุญประจำปีในฮีตสิบสองคลองสิบสี่ ของชาวอีสาน ซึ่งบุญผะเหวดของชาวอีสานถือเป็นงานบุญสำคัญ ชาวบ้านจะร่วมแรงร่วมใจกันจัดเตรียมสถานที่ภายในศาลาวัด และงานกันจัดให้มีพิธีอย่างใหญ่โต งานบุญต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 2-3 วัน อันเป็นความเชื่อ ที่ว่า มาจากเรื่อง พระมาลัยสูตรว่า “พระมาลัยได้ขึ้นไปไหว้พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พบพระศรีอริยเมตไตรย์ องค์พระศรีอริยเมตไตรย์ได้ดำรัสสั่งกับพระมาลัยว่า ถ้ามนุษย์อยากพบพระองค์ จงอย่าได้ทำบาปหนัก อนึ่งให้ฟังเทศน์เรื่องราวมหาเวสสันดรชาดกให้จบในวันเดียวกัน ฟังแล้วให้นำไปประพฤติปฏิบัติจะได้รับอานิสงส์มาก และจะได้พบพระศาสนาของพระศรีอริยเมตไตรย์ เมื่อพระมาลัยกลับมาถึงโลกมนุษย์ จึงได้บอกเรื่องราวให้มนุษย์ทราบ ด้วยเหตุนี้ชาวอีสานผู้ปรารถนาจะพบศาสนาพระศรีอริยเมตไตรย์ จึงพากันทำบุญพระเวสสันดรสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน”


ในปัจจุบันประเพณีบุญผะเหวดของภาคอีสานนิยมทำกันทุกหมู่บ้าน เป็นการสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่บ้านและเป็นการค้ำจุนพระพุทธศาสนาไปอีกทางหนึ่งด้วย


สุภัชกานต์ แก้วสิงห์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดหนองบัวลำภู