แม่ทัพภาค 2 เล่าเรื่องราวจากแนวหน้าและการรักษาอธิปไตยปลูกฝังจิตสำนึกรักชาติให้ต้นกล้าเยาวชน
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 12 กันยายน พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางมาเป็นวิทยากรพิเศษในการเสวนา ในหัวข้อ “เรื่องเล่าจากแนวหน้า และการรักษาอธิปไตยของชาติ” ที่หอประชุมอาคารกิจกรรมนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี โดยมีนักเรียน นักศึกษา นักศึกษาวิชาทหาร ประชาชนชาวอุดรธานี ประมาณ 3,000 คน เข้าร่วมกิจกรรม โดยมี พลตรี ประเสริฐ ข่าทิพย์พาที ผบ.มทบ.24 นายพิสิษฐ์ชัย อภัยปิยะกุล รอง ผวจ.อุดรธานี ผศ.คณิศรา ธัญสุนทรสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี นำข้าราชการ ทหาร ตำรวจ มาให้การต้อนรับ
เมื่อพลโทบุญสิน เดินทางมาถึง ได้การต้อนรับด้วยมอบดอกกุหลาบ และช่อดอกไม้ โดยเฉพาะนักเรียนชายโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 4 คน ได้มายืนต่อแถวถือดอกกุหลาบรอต้อนรับ ซึ่งนักเรียนชายบอกว่าท่านแม่ทัพเป็นวีรบุรุษในดวงใจ รู้สึกตื่นเต้นดีใจที่จะได้พบท่านแม่ทัพ และวันนี้จะขอกอดแม่ทัพ เมื่อแม่ทัพเดินมาถึง นักเรียนคนดังกล่าวก็มอบดอกกุหลาบและขอกอดซึ่งท่านแม่ทัพก็อนุญาตและกอดตอบ พร้อมกับถ่ายรูปกับกลุ่มนักเรียนชายเป็นที่ระลึก เมื่อเดินเข้าห้องประชุม ก็ได้ยินเสียงตบมือต้อนรับและเสียงกรี๊ดจากเยาวชน พร้อมเสียงเพลง “แผ่นดินไทย” สร้างความรอยยิ้มและความฮึกเหิมให้กับผู้ร่วมกิจกรรม
จากนั้นนายพิสิษฐ์ชัย อภัยปิยะกุล รอง ผวจ.อุดรธานี และ ผศ.ดร.คณิศรา ธัญสุนทรสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี ได้กล่าวต้อนรับพลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กิจกรรมครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เยาวชนอุดรรวมใจรวมใจสู่แนวหน้าปลูกต้นกล้าแทนคุณแผ่นดิน” โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อปลูกฝังความรักชาติ สร้างสำนึกในหน้าที่ การเป็นพลเมืองที่ดี และส่งเสริมอุดมการณ์ที่ถูกต้องให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ในโอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ได้นำคณะยืนตรงเคารพธงชาติ และร่วมร้องเพลงชาติไทย เพื่อปลุกจิตสำนึกที่ดีต่อความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และยืนตรงสงบนิ่ง เพื่อรำลึกและสดุดีวีรกรรมทหารกล้า ทั้ง 15 นายที่พลีชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยไทย
ต่อด้วยการแสดง “เราสู้” ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี พิธีกรได้เชิญท่านแม่ทัพภาคที่ 2 ร่วมได้ถ่ายทอดประสบการณ์จริงจากแนวหน้า เพื่อสร้างความเข้าใจในภารกิจของทหารในการปกป้องอธิปไตยของชาติ รวมถึงความสำคัญของการเป็นพลเมืองที่ดีในการพัฒนาประเทศ ซึ่งได้เล่าถึงเป็นลูกตำรวจชั้นผู้น้อย เรียนหนังสือชั้นประถมและมัธยมศึกษาตอนต้นที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี และเข้ามาเรียนต่อที่วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี ดีใจที่ได้มาบ้าน วันนี้แม่ทัพไม่มีอะไรมา ไม่มีสคลิป นอกจากตัวกับหัวใจ มาพูดนิดเดียว 10 นาที ตอบคำถาม 30 นาที เพราะอยากฟังเสียงเยาวชนถาม ข้องใจอะไรกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา และถ่ายรูปอีก 2 ชั่วโมง สร้างรอยยิ้มและเสียงปรบมืออย่างกึกก้องจากน้องเยาวชน ได้มีเยาวชน 4 คนได้ถามแม่ทัพและได้รางวัลจากแม่ทัพกลับไปด้วย
พลโทบุญสิน ได้ตอบคำถามที่ถามว่า “มีทหารไว้ทำไม” นั้นว่า ทหารคือรั้วของชาติ ประเทศใดไม่มีทหาร จะขาดความเกรงใจจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำไมทุกประเทศต้องเกรงใจ จีน เกาหลี อิสราเอล ถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศเล็กก็เกรงใจ ส่วนแม่ทัพ จะใหญ่มาจากไหน กวนตีนเมื่อไหร่ หวดทันทีเพราะหมั่นใส้ รบ 4 คืน 5 วัน สู้ศึกกับเขมร จะใช้กำลังทหารจำนวนมาก ทหารจากอุดรธานีไปหมด เหลือทหารแก่เฝ้าค่ายไม่กี่คน เขายิงจรวดใส่ เราก็บุกยึดภูมะเขือทันที เอาทหารไปไล่เขมร ทหารฝึกวันเดียวไม่ได้ ฝึกยิงปืนใหญ่ ยิงอย่างไรให้ตรงพิกัด ขับเครื่องบินรักษาน่านฟ้า ขับเรือดำน้ำ เพื่อรักษาผลประโยชน์ทางทะเล ใครจะกล้ามายุ่ง กับคำถามมีทหารไว้ทำไม ตอบว่าเอาไว้ป้องกันประเทศ ถ้าไม่มีศึกสงคราม ทหารก็ต้องฝึกเพราะทุกวันนี้เขารบกันทางอิทรอนิคส์
“คนรุ่นใหม่ต้องมีสติ มีความคิดเป็นของตัวเอง อย่าไปเชื่ออะไรง่ายๆ อย่าเป็นเครื่องมือทำลายประเทศ แม่ทัพพูดก็ไม่ต้องเชื่อ หากสงสัยอะไรให้ไปถามพ่อแม่ ครู เพื่อน ว่าแม่ทัพพูดถูกหรือไม่ เขมรอยากได้แผ่นดินไทย รู้ตั้งแต่เผาศาลาตรีมุข ขุดบังเกอร์ 100-150 เมตรในแผ่นดินไทย มันหยามศักดิ์ศรีทหารไทย ทหารตาย พิการ บาดเจ็บ เพราะอะไร ทหารต้องการักษาแผ่นดินเอาไว้ให้คนรุ่นหลัง บรรพบุรุษรักษาแผ่นดินไทยไว้ได้แค่นี้ เพลงชาติร้องให้ดังๆ ไม่ต้องอาย ส่วนสถานการณ์ชายแดนตอนนี้คือหยุดยิงชั่วคราว พร้อมจะรบ ส่วนเรื่องคลิปนายกหลุด แม่ทัพให้อภัย ไม่ทะเลาะกับคนไทยด้วยกัน ทะเลาะกับเขมรก็พอ ส่วนสันติภาพไทยกับเจมรจะเกิดขึ้นได้ อยู่ที่วิสัยทัศน์ของผู้นำเขมรเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับใคร”
หลังจากจบการเสวนา และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เสร็จแล้วแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินลงไปถ่ายรูปกับเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชน ที่มาให้การต้อรับทุกโรงเรียนและทุกกลุ่ม เสร็จแล้วได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน กรณีมีกลุ่มทุนเข้ามาพบแม่ทัพภาคที่ 2 เสนอโครงการระดมทุนซื้อโดรนเกษตร 1 ล้านลำๆ ละ 9 แสนบาท และฝึกนักบินโดรนจากทหาร 1 แสนนายนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 ตอบว่า เรื่องโดรนไม่มีอะไร เขามานำเสนอเฉยๆ ยังไม่ได้ไปไหนมาไหน ยังไม่ได้เริ่มต้นอะไร เพราะไม่ใช้เรื่องง่าย ต้องรอบคอบ ให้กองทัพบกพิจารณาร่วม มีนักกฎหมายร่วมหลายส่วน โดยโดรนนี้เราไม่รู้ว่าอย่างไร ต้องตรวจสอบที่มาที่ไป ถึงจะเป็นโครงการได้ ยังเป็นโครงการที่คุยกันเฉยๆ ยังไม่มีอะไร ใช้เงินเยอะมากเป็นการวบรวมเงินจากต่างประเทศ ไม่ใช่เงินของรัฐบาล เราต้องดูที่มาที่ไปให้มันรอบครอบ ถูกกฎหมาย หลายอย่าง เป็นเรื่องที่ยังไม่ศึกษาโครงการ มานั่งคุยกันเฉยๆ เอาออกจากหน้าเวปไซต์ไปแล้ว
