พัฒนาชุมชนจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับอำเภอคำม่วง องค์กรปกครองท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ ผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายผ้าไหมแพรวา เครือข่ายโอทอป ประชาชน ร่วมเปิดตัวผ้าลาย “พันมหาพัน” ลายผ้าประจำอำเภอคำม่วง “พันมหาราชินีแห่งดอกไม้ป่า สู่พันมหาราชินีแห่งไหมไทย” ใช้เวลาทอ 6 เดือน เผยราคาประเมินเบื้องต้น 500,000 บาท
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมศูนย์ศิลปวัฒนธรรมผู้ไทยผ้าไหมแพรวา เขตเทศบาลตำบลโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ นายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการ จ.กาฬสินธุ์ นายดำรงค์ศักดิ์ นาคีสังข์ นายอำเภอคำม่วง นางคำสอน สระทอง ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-ทอผ้า) ปี 2559 นายอภิชาติ คำตานิตย์ พัฒนาการอำเภอคำม่วง นายนิพนธ์ อิงภู นายกเทศมนตรีตำบลโพน และนางสมศรี สระทอง ปราชญ์ทอผ้าแพรวา ร่วมกันแถลงข่าวการทอผ้าลาย “พันมหาพัน” ลายผ้าประจำอำเภอคำม่วง โดยมีส่วนราชการ ผู้บริหารสถานศึกษา รัฐวิสาหกิจ ผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายผ้าไหมแพรวา เครือข่ายโอทอป ประชาชน ร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง
นายอุทัย สิงห์ทอง พัฒนาการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามที่ จ.กาฬสินธุ์ ได้ดำเนินการค้นหาลายผ้าประจำอำเภอ ภายใต้โครงการอนุรักษ์ผ้าพื้นถิ่น แพรวากาฬสินธุ์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ทั้งนี้ เพื่อค้นหาอัตลักษณ์ลายผ้าโบราณของแต่ละอำเภอนำมาสืบสานอนุรักษ์ ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมชุมชน เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ ให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการโอทอป โดยทั้ง 18 อำเภอมีการประดิษฐ์คิดค้นและทอลายผ้าประจำอำเภอเรียบร้อยแล้ว เช่น อ.นาคู ลายนาคหัวซ้อง, อ.สามชัย ลายคนขี่ช้าง, อ.ยางตลาด ลายตาควาย, อ.นามน ลายปีกมโนราห์, อ.สมเด็จ ลายดอกแก้วเบญจรัตน์ และล่าสุด อ.คำม่วง ลายพันมหาพัน ซึ่งจะดำเนินการนำทูลเกล้าฯถวายในโอกาสต่อไป
ด้านนายดำรงค์ศักดิ์ นาคีสังข์ นายอำเภอคำม่วง กล่าวว่าในส่วนของการดำเนินการคัดเลือกและทอผ้าลายพันมหาพันประจำอำเภอคำม่วงนั้น ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานและคณะขับเคลื่อน พร้อมเชิญส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายโอทอป รัฐวิสาหกิจ ประชาชน ผู้มีจิตศรัทธา มีส่วนร่วมทุกขั้นตอน โดยมีมติเลือกลาย “พันมหาพัน” เป็นลายประจำอำเภอคำม่วง ซึ่งอัตลักษณ์ของลายพันมหาพันนั้น ดำเนินการทอโดยความร่วมมือของปราชญ์ด้านการทอผ้าบ้านโพน ที่มีความเชี่ยวชาญในการทอ ฝีมือประณีต ทอด้วยไหมบ้าน เมื่อนำมาทอเป็นผืนผ้าทำให้อ่อนนุ่ม เป็นมัน เหนียว ยืดหยุ่นได้ดี ย้อมสีติดง่ายและสวมใส่สบาย ย้อมสีด้วยสีธรรมชาติ ใช้เวลาทอ 6 เดือน ได้ผืนผ้าขนาดกว้าง 73 ซม. ยาว 10 ม. ราคาประเมินเบื้องต้นคาดไม่น้อยกว่า 500,000 บาท
ขณะที่นายนิพนธ์ อิงภู นายกเทศมนตรีตำบลโพนกล่าวว่า ผ้าแพรวาหรือผ้าไหมแพรวา ชาวบ้านโพนมีความเชื่อว่าเป็นผ้าชั้นสูง เป็นผ้ามงคล ทั้งนี้ มีผลสืบเนื่องจากเมื่อปี 2520 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้มีการพัฒนากระบวนการผลิตผ้าไหมแพรวา เพื่อให้เกิดรายได้สู่ชุมชน โดยได้พระราชทานเส้นไหมมาให้แก่ชาวบ้านโพน เพื่อทอผ้าไหมแพรวาและทรงรับการทอผ้าแพรวาไว้ในโครงการศิลปาชีพตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทำให้ชาวบ้านโพนและชาว อ.คำม่วง มีอาชีพ มีรายได้ จากการจำหน่ายผ้าไหมแพรวา สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่อย่างยั่งยืน ในส่วนของการทอผ้าลายพันมหาพันในครั้งนี้ ชาวบ้านโพนและชาว อ.คำม่วงทุกภาคส่วน ต่างเกิดภาคภูมิใจและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้
นายอภิชาติ คำตานิตย์ พัฒนาการอำเภอคำม่วงกล่าวว่า ความหมายของลายพันมหาพัน เป็นลายที่ดัดแปลงมาจากพันธุ์ไม้ สัตว์ ดวงอาทิตย์ ดวงดาว “พันมหา” ได้รับแรงบันดาลใจจากดอกพันมหา ซึ่งเป็นดอกไม้ป่าโบราณ ที่มีความสง่างาม อ่อนหวาน ที่มาพร้อมกับความอุดมสมบูรณ์ ดอกพันมหาของจริงไม่สามารถนำมาประดับตัวเพื่อความงามได้ ดังนั้นการชดเชยความงามจากธรรมชาติ จึงถูกแทนที่ด้วยการรังสรรค์เป็นลวดลายและสีสันบนผืนผ้าไหมแพรวา เป็นอาภรณ์อันงดงามล้ำค่า และคำว่า “พัน” หมายถึงความผูกพันอันยิ่งใหญ่ ความจงรักภักดีต่อต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ด้านนางคำสอน สระทอง ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-ทอผ้า) ปี 2559 กล่าวว่า ลายผ้า “พันมหาพัน” ลายผ้าประจำ อ.คำม่วง จึงหมายถึงความงามที่ยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ความผูกพัน และความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และลายผ้า “พันมหาพัน” ลายผ้าประจำ อ.คำม่วง จึงได้ชื่อว่า “พันมหาราชินีแห่งดอกไม้ป่า สู่พันมหาราชินีแห่งไหมไทย” รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการนำพาลูกหลาน เยาวชนรุนใหม่ ทอลายผ้า “พันมหาพัน” เพื่อน้อมเกล้าถวายฯ และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในครั้งนี้ ที่ถือเป็นเกียรติประวัติอันสูงสุดต่อชีวิตอีกครั้งหนึ่ง