หนองบัวลำภู – สทนช. กระชับสื่อเดินหน้าศึกษา SEA สร้างการรับรู้สาระสำคัญของโครงการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมฯทรัพยากรน้ำพื้นที่ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ

สทนช. กระชับสื่อเดินหน้าศึกษา SEA สร้างการรับรู้สาระสำคัญของโครงการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมฯทรัพยากรน้ำพื้นที่ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ เชื่อมโขงเป็นโครงข่ายทั้งระบบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ห้องประชุมบลูโซเชียล โรงแรมบลู โฮเทล จังหวัดนครพนม สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) จัดกิจกรรมสร้างการรับรู้ผ่านสื่อ (สื่อสัญจร ครั้งที่ 1) กับโครงการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์และแผนหลักการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พื้นที่ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมี นายสราวุธ ชีวะประเสริฐ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) เป็นประธานเปิดกิจกรรม เพื่อศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) ของพื้นที่ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ และทบทวนวิเคราะห์การดำเนินงานพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ศึกษาโครงการที่ผ่านมาสำหรับประกอบการจัดทำแผนหลักการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) พร้อมประเมินผลการดำเนินงานในช่วงปี พ.ศ. 2561 – 2564 และจัดทำแผนปฏิบัติการ การบริหารทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2566 – 2570 ผ่านการรับรู้สื่อในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ

นายสราวุธ ชีวะประเสริฐ กล่าวว่าในการจัดกิจกรรมผ่านสื่อมวลชนในครั้งนี้สืบเนื่องจาก สทนช. ได้มอบหมายให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท ยูไนเต็ด แอนนาลิสต์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท อินเตอร์ เทค คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัท โพธิศิรินทร์ ไทยคอนซัลแต๊นท์ จำกัด ดำเนินการศึกษาโครงการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์และแผนหลักการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำพื้นที่ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ ในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้การพัฒนาของลุ่มน้ำสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมโดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบ

หรือมีผลกระทบในระดับที่ยอมรับได้ และเป็นไปตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) พร้อมทั้งจัดทำแผนหลักการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จัดลำดับความสำคัญของโครงการพัฒนาในอนาคต การป้องกันอุทกภัยและการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เพื่อเป็นกรอบการดำเนินการบริหารจัดการน้ำของลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือสำหรับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการ ลดความซ้ำช้อนของแผนงาน และกำหนดกรอบแนวทาง การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป

รองเลขาธิการ สนทช.กล่าวเพิ่มเติมว่าด้วยสถานการณ์ด้านทรัพยากรน้ำในปัจจุบัน รวมถึงความสำคัญของลุ่มน้ำ และสภาพปัญหาของพื้นที่ ส่งผลให้มีความจำเป็นต้องเร่งรัดวางแผนบริหารจัดการน้ำทั้งระบบลุ่มน้ำ ต้องบริหารจัดการการใช้ประโยชน์และจัดสรรน้ำตามความต้องการของประชาชน การพัฒนาของเมืองและชนบท การใช้น้ำเพื่อการพัฒนาภาคส่วนต่าง ๆ การเกษตร การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ ยังต้องอนุรักษ์น้ำสำหรับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และระบบนิเวศ ตลอดจนเพื่อการแก้ไขปัญหาจากภัยธรรมชาติ น้ำท่วม น้ำแล้ง คุณภาพน้ำ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาชุมชน ความเป็นอยู่ การกินดีอยู่ดี นอกจากนี้ ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือมีความเกี่ยวข้องกับลุ่มน้ำระหว่างประเทศ จึงต้องพิจารณาบริบทการใช้น้ำระหว่างประเทศ และต้องเชื่อมโยงข้อมูลการบริหารจัดการน้ำกับประเทศเพื่อนบ้าน”

สำหรับพื้นที่ศึกษาลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย 36 ลุ่มน้ำสาขา ที่แบ่งเป็น 9 กลุ่มลุ่มน้ำสาขา ครอบคลุม 10 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองคาย อุดรธานี หนองบัวลำภู บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี รวมพื้นที่ 47,165.08 ตร.กม หรือ 29.8 ล้านไร่ โดยกิจกรรมสร้างการรับรู้ผ่านสื่อในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือที่จัดขึ้นในครั้งนี้ เพื่อเป็นกรอบการวางแผน บริหารจัดการน้ำ เชื่อมโยงทั้งระบบ บรรเทาปัญหาที่เกี่ยวข้องกับน้ำในพื้นที่ ทั้งภัยแล้ง อุทกภัย ดินถล่ม รวมถึงการจัดสรรและกระจายน้ำอย่างทั่วถึงและเพียงพอ และมุ่งหวังให้เกิดการรับรู้ รับทราบสาระสำคัญของโครงการ อันเป็นประโยชน์ต่อการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสารของสื่อมวลชนไปสู่สาธารณะต่อไป
ทีมข่าวอีสานเดลี่ออนไลน์ประจำจังหวัดหนองบัวลำภู