อุบลราชธานี – ครูโรงเรียนเทศบาลสุดช้ำ จะโดนยึดบ้านพร้อมที่ดิน ค้ำประกันซื้อรถ1.2 ล้าน ให้เพื่อนร่วมงาน ตอนให้ช่วยมาขอร้องถึงบ้าน เผย ครอบครัวสามีก็เสียชีวิตแล้ว แถมยังมีภาระหนี้สิน ต้องเลี้ยงหลาน 2 คนลูกสาวก็ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
วันที่ 21 กันยายน นางสุนิดา กันตะภาค อายุ 59 ปี ครูโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลขามป้อม อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือ ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุบลราชธานี หลังจากไปค้ำประกันรถยนต์กระบะ มูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาทให้กับเพื่อน ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจกัน แล้วถูกบริษัทไฟแนนซ์ฟ้องร้อง โดนยึดบ้านพร้อมที่ดินประกาศขายทอดตลาดวันที่ 7 ตุลาคม 2564 นี้
นางสุนิดา กันตะภาค เปิดเผยว่า ได้รับความเดือดร้อนมากเนื่องจากสำนักงานบังคับคดีจังหวัดอุบลราชธานี จะยึดที่ดินและบ้านที่อยู่อาศัยกับครอบครัวในปัจจุบัน เพราะเพื่อนคนที่ซื้อรถ ไม่ยอมส่งงวดรถ ยังค้างเงินกับทางบริษัทไฟแนนซ์ 1,211,140 บาท แล้วก็ไม่รับผิดชอบใดๆ ทำให้ตนเองตกเป็นจำเลยที่ 3 ในฐานะคนค้ำประกัน และถูกฟ้องยึดทรัพย์แทน
นางสุนิดา เล่าว่า ผู้ที่ซื้อรถรู้จักสนิทสนมกันประมาณ 10 ปี มีอะไรก็จะพึ่งพาอาศัยกันตลอด เมื่อลูกไม่สบายบ่อยต้องเดินทางโดยใช้รถยนต์พาลูกไปหาหมอ อยากซื้อรถยนต์ เพื่อพาลูกไปหาหมอ และขอให้ตนไปช่วยค้ำประกันรถให้ โดยมีสามีเป็นทหารเรือ เป็นผู้ค้ำประกันด้วย และก็ถูกบริษัทฟ้องร้องเป็นจำเลยที่ 2 พอติดต่อสอบถามไปยังทั้ง 2 คนก็ปฏิเสธความรับผิดชอบ กระทั่งล่าสุดตนได้รับหมายจากสำนักงานบังคับคดีจังหวัดอุบลราชธานี โดยในหมายระบุว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้าง บ้านที่ตนอาศัยอยู่กับครอบครัวในปัจจุบัน โดยจะทำการขายทอดตลาดที่ดินพร้อมส่งปลูกสร้างในวันที่ 7 ตุลาคม 2564 นี้ก็ตกใจมาก เพราะบ้านหลังดังกล่าวตนสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรง สามีก็เสียชีวิตแล้ว แถมยังมีภาระหนี้สิน ต้องเลี้ยงหลาน 2 คน ลูกสาวก็ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ทุกวันนี้มีรายได้เพียงจากเงินเดือนเท่านั้น ก็อยากฝากถึงสองสามีภรรยาที่ตนเองไปค้ำรถให้หากยังมีสำนึกและสงสารตนกับครอบครัว ให้มารับผิดชอบชำระเงินที่ค้างอยู่ด้วย เพราะตอนนี้ทุกข์ใจมาก ทั้งที่ไม่ใช่ภาระของตนเองด้วยซ้ำ ตอนนี้ไร้หนทางจริงๆ ยิ่งช่วงโควิดแบบนี้หากินก็ลำบากอยู่แล้ว
ด้านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดจะส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของสอง สามี-ภรรยา เพื่อรายงานพฤติกรรมเรื่องที่เกิดขึ้นให้ได้รับทราบ ซึ่งลักษณะของการเช่าซื้อรถยนต์นั้นน่าจะมีเจตนาฉ้อโกง เพราะจ่ายค่างวดเพียง 5-6 งวดก็ไม่ส่งงวดอีกเลย รถก็ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนไม่นำไปคืนบริษัทไฟแนนซ์ ทางบริษัทไฟแนนซ์ไม่ยอมไปตามและได้สืบทรัพย์พบว่าผู้ค้ำประกันมีหลักทรัพย์เป็นบ้านพร้อมที่ดิน ก็เลยส่งศาลบังคับคดีกับนางสุนิดา กันตะภาค ผู้ค้ำประกัน
