จากกรณีมีการโพสต์คลิป น.ส.น้ำฝน อายุ 24 ปี หลานสาวด่าทอและทำร้ายร่างกายนางสมหวัง อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นยาย เผยแพร่ในโลกโซเชียล ซึ่งมีคนเข้ามาชมและแชร์คลิปดังกล่าวจำนวนมาก พร้อมกับรุมสาปแช่งหลานสาวที่ทำร้ายยาย ส่วน น.ส.ปลา คนถ่ายคลิปซึ่งเป็นหลานสาวอีกคนไม่เข้าไปช่วย แถมยังเชียร์ให้ทำร้ายยาย โดยยายเผยสาเหตุเกิดจาก ห้ามหลานสาวจุดประทัด แต่กลับโดนหลานสาวด่าทอ และทำร้าย หลังเกิดเหตุ นางสมภาร ลูกสาวคนเล็กยังตามไปทำร้ายตบตีแม่ซ้ำอีก จนได้รับบาดเจ็บ และได้แจ้งความที่โรงพัก เพื่อดำเนินคดีกับลูกหลาน เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 245 หมู่ 7 บ้านน้อย ต.เพ็ญ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2563 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เวลา 09.00 น. วันที่ 22 มิถุนายน 2563 ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเพ็ญ จ.อุดรธานี นายณฐพล วิถี นายอำเภอเพ็ญ จ.อุดรธานี, นายชวิศ ป้องขันธ์ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง ,นายเกรียงศักดิ์ หอนงาม นายก อบต.เพ็ญ ,พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ วงษ์สนิทธีรา รอง ผกก.สส.สภ.เพ็ญ และ ร.ต.อ.อดุลชัย ขาวขำ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เพ็ญ เชิญนางสมหวัง ขอสงวนนามสกุล อายุ 64 ปี ยายที่ถูกทำร้ายร่างกาย , นางสมภาร อายุ 37 ปี ลูกสาว, น.ส.ฝน อายุ 24 ปี และ น.ส.ปลา อายุ 21 ปี หลานสาว ซึ่งทั้งหมดคู่กรณีมาไกล่เกลี่ยพูดจาปรับความเข้าใจกัน มีนางสงกรานต์ อายุ 40 ปี ลูกสาวคนโต และเป็นแม่ น.ส.น้ำฝน และญาติมาเป็นพยาน โดยจัดให้ทั้งสองฝ่ายนั่งหันหน้าเข้าหากัน
นายณฐพล ได้กล่าวว่า หลังจากได้รับชมคลิปและข่าว รู้สึกตกใจ เพราะเป็นความรุนแรงในครอบครัว ในฐานะพ่อเมืองที่ต้องดูแลทุกข์สุข ของประชาชน จะต้องแก้ปัญหาในยุติเร็วที่สุด จึงได้สั่งการให้ปลัดอำเภอออกไปสอบสวนหาข้อเท็จจริง จนทราบปัญหาในครอบครัวคือ 1.ครอบครัวแตกแยก พ่อแม่แยกทางกัน 2.ความไม่เข้าใจกัน 3.การดื่มสุราและ 4.การทะเลาะวิวาท แต่ถึงอย่างไรก็อยากให้นึกถึงความกัญญูกตเวที ต่อบุพการี ปู่ย่าตายาย ที่เลี้ยงดูมา จึงได้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์มาปรับความเข้าใจในวันนี้ เพราะไม่อยากให้บานปลายถึงต้องดำเนินคดี จะทำให้ครอบครัวร้าวฉานไปมากกว่านี้
น.ส.น้ำฝน อายุ 24 ปี ลูกสาวของนางสงกรานต์ เป็น หลานสาว ผู้อยู่ในคลิปทำร้ายยาย เล่าวว่า วันเกิดเหตุ ตนมีปากเสียงกับยายจริง ยายเดินลงมาหน้าบ้านได้ใช้หนังสติ๊กใส่บ้าน 2-3 นัด โดนข้าวของในบ้าน ตนจับไม้โยนไม้ใส่ยายให้หยุด แต่ไม่โดนยาย จากนั้นหันหลังเดินกลับ แต่ยายยิงหนังสติ๊กไล่หลังตนแต่ไม่โดน ด้วยความโมโหจึงกำหินลูกรังปาใส่ยาย ส่วนยายได้หยิบเอาท่อนไม้ที่ตนโยนใส่ มาฟาดตน ซึ่งได้ยกแขนขึ้นรับ ทำให้ข้อแขนหลุด ตนคิดจะทำสู้ยาย แต่ตนก็เดินหนี แต่ยายเดินเข้ามาตีตน 2 ครั้ง และกระชากผมตนตามที่อยู่ในคลิป
น.ส.ปลา อายุ 21 ปี ลูกสาวของนางสมภาร เป็น หลานสาว ผู้ถ่ายคลิป เล่าว่า คลิปที่ถ่ายไว้ ไม่ได้ต้องการถ่ายเพื่อประจานให้เสียหาย แต่ถ่ายไว้เพื่อเป็นหลักฐานยืนยัน ว่ายายมีพฤติกรรมแบบนี้ เพื่อนำไปให้ญาติดู หากญาติพี่น้องจะมาต่อว่า หรือเข้าใจผิดตามที่ยายไปเล่าให้คนอื่นฟัง ส่วนสาเหตุที่ไม่เข้าไปห้าม เพราะยายด่าต่อว่า
ส่วนนางสมภาร อายุ 37 ปี เป็นลูกสาวคนเล็กของยาย และเป็นแม่ น.ส.ปลา เล่าว่า วันเกิดเหตุไม่ได้อยู่บ้าน จึงตามที่โรงพยาบาล พบ น.ส.น้ำฝนได้รับบาดเจ็บที่แขน จึงไปถามแม่ที่บ้านน้าว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่สงสารหลานบ้างเหรอ แม่เลี้ยงหลานมากับมือ แต่แม่มีอาการมึนเมาสุรา และถอดเสื้อผ้าออกแล้วเต้นโชว์ ด้วยความโมโหจึงต่อว่าแม่ ว่าทำไมทำหลาน เพราะหลานโตกันหมดแล้ว บางคนก็มีลูกแล้ว ส่วนที่กล่าวหาตนทำร้ายแม่และบังคับให้แม่กราบตีน ไม่เป็นความจริง แม่กราบฟ้ากราบดินของแม่เอง บางครั้งแต่ก็จุดธูปแช่งลูกหลาน แต่ลูกหลานไม่รับ ถ้าคิดว่าตนไม่ใช่ลูก ก็อย่ามายุ่งกับครอบครัวตนอีก ต่างคนต่างอยู่ อยากให้ทุกคนรู้ แล้วแต่จะตัดสินใจเอง “ถึงแม่จะตัดลูกตัดแม่กับหนู แต่หนูก็ตัดแม่ไม่ได้ ถ้าแม่เสียชีวิตก็จะไปเผาผีเหมือนเดิม ไม่มีใครมาห้ามหนูได้ “
ทางด้านนางสมหวัง พูดด้วยอารมณ์ที่ยังโกรธหลานและลูกว่า ตนเลี้ยง น.ส.น้ำฝน มาตั้งแต่ 8 เดือน จนถึง 8 ปี แม่ถึงมารับไปเลี้ยงต่อ ชาวบ้านรู้ดี หลานเยี่ยวใส่ถ้วยป่นก็กินอย่างไม่รังเกียจ แม้อุจาระติดมือก็ไม่รังเกียจ ทำไม่หลานมาตียาย น.ส. ปลาเป็นถ่ายคลิป นายหมูเป็นคนเชียร์ “ เอาเลยพี่ฝนไม่ใช่ยายเรา” ถ้าหากหลานบอกว่ายายนี่ฝนนะ ตนก็จะหยุด แต่นี่เชียร์ให้ทำร้ายเหมือนไม่ใช่ยายแท้ๆ ของตัวเอง ถ้าหากว่ายายเมาแล้วถอดเสื้อผ้า ก็ทำในบ้านหรือที่ของยาย ถึงแม้ลูกหลานจะไม่นับถือตน ก็ไม่สนใจ เพราะตนได้ตัดขาดลูกหลานไปแล้ว
จากนั้นนายอำเภอ ได้ขออนุญาตยาย ให้ลูกและหลานนำมามาลัยกร มากราบขอขมายาย แต่นางสมหวังไม่ยอมรับการขอขมา ทำให้ลูกและหลานร้องไห้ นายอำเภอได้ขอเป็นตัวแทนกราบขอขมายายแทนลูกหลาน แต่ยายยืนกรานก็ไม่ยอม ทำให้นายเกรียงศักดิ์ หอนงาม นายก อบต.เพ็ญ เข้าไปจับมืออ้อนวอนยาย ให้อภัยให้ลูกกับหลาน ให้ลูกหลานได้กราบขอขมา เพื่อลูกหลานจะได้ไม่ต้องมีเวรกรรมและบาปติดตัว หากลูกหลานเป็นทุกข์ ยายก็จะไม่มีความสุข ถึงอย่างไรเลือดก็ข้นกว่าน้ำ ลูกและหลานคือสายเลือดของยาย ซึ่งนางสมหวังมีท่าทีอ่อนลง และพูดว่า “ใครทำก็ให้คนนั้นมาขอขมา”ซึ่งนางสมภารได้พาลูกและหลานถือมาลัยกรเข้ามากราบขอขมานางสมหวัง เพื่อขอโทษและขออโหสิกรรม ทั้งน้ำตา ซึ่งนางสมหวังผู้เป็นทั้งแม่และยาย ได้มีท่าทีอ่อนลง และรับมาลัยที่ลูกหลานมากราบทั้งหมด 4 คน ทำให้บรรยากาศให้ห้องประชุมคลายความตึงเครียดและมีรอยยิ้ม
ส่วน ร.ต.อ.อดุลชัย ขาวขำ รอง สว (สอบสวน) สภ.เพ็ญ เจ้าของคดี กล่าวว่า คดีนี้เป็นความรุนแรงในครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นคดีที่ยอมความกันได้ เราอยากให้ทั้งสองฝ่ายยอมความกัน ซึ่งฝ่ายลูกและหลานยอมหมดแล้ว เหลือแต่ยาย ถ้าไม่ยอมกันจริงๆ หากลูกหลานติดคุก ยายจะสบายใจไหม๊ หรือว่า ถ้ายายติดคุกก็คงไม่มีใครชอบ ถ้ายายยอมก็ยอมทั้งหมดเรื่องก็จบ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นสิทธิ์ของยายจะยอมหรือไม่ แต่อยากให้คิดถึงอนาคตหรือวันข้างหน้า หากลูกหลานมีคดีความติดตัวไป จะใช้ชีวิตลำบาก ซึ่งนางสมหวัง ขอคิดดูก่อน และไปปรึกษาลูกชายคนโต ซึ่งท่าทียายได้อ่อนลงมาก คาดว่าเมื่อยายหายโกรธก็จะยอมความในที่สุด ซึ่งนายอำเภอเพ็ญ ได้มอบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำอำเภอเพ็ญ คือ พระแม่นางเพ็ญ ให้ ยาย ลูก และหลาน คนละชุด ในการยึดเหนียวจิตใจ ของตนเอง