พุทธศาสนิกชนร่วมส่งวิญญาณพระครูโอภาสนวการ (มนูญ จนฺโทภาโส)
พระผู้มี 5 ส.ในตัวเอง อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอศรีบุญเรือง ณ เมรุฌาปนสถาน วัดสว่างอารมณ์ ด้วยบุญบารมีอย่างเนื่องแน่น
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศภายในวัดสว่างอารมณ์ ตำบลเมืองใหม่ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมาพุทธบริษัท 4 อันประกอบด้วย ดร.พระราชวชิรธาดา เจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู พระวุฒิสารโสภณ เจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู (ธรรมยุต) รวมถึง เลขานุการรองเจ้าคณะภาค 8 นอกจากนั้นยังมี พระอุดมคุณาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ อำเภอศรีบุญเรือง ตลอดจนพระเถรานุเถระ ทั้งภายในจังหวัดและต่างจังหวัดที่สนิทสนมและเคยปฏิสันถารกันมาในอดีตกว่า 300 รูป ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ พระครูโอภาสนวการ (มนูญ จนฺโทภาโส) น.ธ.เอก ป.ธ.3 ศษ.บ. อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอศรีบุญเรือง
ซึ่งมรณภาพเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2566 ด้วยอาการปอดติดเชื้อ และคณะสงฆ์อำเภอศรีบุญเรือง จึงกำหนดประกอบพิธีการพระราชทานเพลิงศพ ในวันที่ 24 เมษายน 2566 เมื่อเวลา 15.00 น.ณ เมรุฌาปนสถานวัดสว่างอารมณ์ ตำบลเมืองใหม่ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู โดยมีพระเดชพระคุณ ดร.พระราชวชิรธาดา เจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ นายเพทาย จรกระโทก นายอำเภอศรีบุญเรือง เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในขณะที่มีหัวหน้าส่วนราชการในระดับจังหวัด อำเภอ คณะผู้บริหารและสมาชิกสภาเทศบาลตำบลโนนสูงเปลือย พุทธศาสนิกชน คณะศิษยานุศิษย์ ร่วมพันกว่าคนท่ามกลางบรรยากาศที่ร้อนระอุอย่างเนื่องแน่น
พระอุดมคุณาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่าสำหรับชีวประวัติโดยย่อ พระครูโอภาสนวการ (มนูญ จนฺโทภาโส)อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ และอดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอศรีบุญเรือง ภูมิลำเนาเดิมเกิดที่บ้านหนองอ้อ ตำบลหนองอ้อ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ก่อนบรรพชาอาศัยอยู่บ้านขอบเหล็ก ตำบลเก่ากลอย อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู มีพี่น้องร่วมกัน 5 คน ภายหลังบรรพชา-อุปสมบท จนได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระครูโอภาสนวการ (มนูญ จนฺโทภาโส) รวมสิริอายุได้ 62 ปี 40 พรรษา
ตลอดระยะเวลาที่ครองเพศบรรพชิต พระครูโอภาสนวการ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพระ 5 ส.จากครูบาอาจารย์และเพื่อนสหธรรมิกว่าเป็นผู้มี ส.1 คือสุปฏิปันโน คือเป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ส.2 คือเป็นผู้เสก คือบอกตนเอง สอนตนเองและลูกศิษย์ด้วยมนต์ของพระพุทธองค์ ส.3 คือเป็นพระผู้สร้างในเรื่องของสถาปนิก ส.4 คือเป็นผู้ศึกษาเล่าเรียนทั้งทางโลกและทางธรรม และ ส.5 คือเป็นผู้เสียสละ ซึ่งพระครูโอภาสนวการ มีพร้อมด้วย 5 ส.ในตัวเองดังที่กล่าวมา และอดีตได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอศรีบุญเรือง บรรพชาสามเณร เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2517 และอุปสมบท เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2526 จนวาระสุดท้ายของชีวิตในเพศบรรพชิต
สำหรับวิทยฐานะด้านการศึกษา สอบได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักศาสนาศึกษาวัดมัชฌิมาวาส จังหวัดอุดรธานี สอบได้ประโยคครูพิเศษมัธยม (พ.ม.)โรงเรียนกรมการฝึกหัดครูกรุงเทพมหานคร ในปี พ.ศ.2530 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีศึกษาศาสตรบัณฑิต (ศษ.บ.) จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ในปี พ.ศ.2537 ความรู้ความสามารถพิเศษด้านพิมพ์ดีดภาษาไทย คอมพิวเตอร์
ด้านบริหารงานการปกครอง คณะสงฆ์ได้แต่งตั้งให้เป็นเลขานุการเจ้าคณะอำเภอศรีบุญเรือง เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ ตำบลเมืองใหม่ เป็นเจ้าคณะตำบลเมืองใหม่ อำเภอศรีบุญเรือง เป็นพระอุปัชฌาย์ ตำบลเมืองใหม่ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นพระวินยาธิการอำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นรองเจ้าคณะอำเภอศรีบุญเรือง และในปี 2565 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู ก่อนมรณภาพ
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ /ขตว.หนองบัวลำภู