วันที่ 1 ก.ย. 64 นายเกียรติศักดิ์ หนูแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกมากกว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 5 -10 % และคาดว่าจะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้ามาประเทศไทยตอนบน ในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม กรมชลประทานจึงสั่งให้โครงการชลประทานเตรียมพร้อมรับมือตามมาตรการและแนวทางการบริหารจัดการน้ำและรับมือน้ำหลากในช่วงฤดูฝนปี 2564 โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเกิดอุทกภัย
สำหรับพื้นที่เทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดน้ำท่วมขังรอการระบายในช่วงที่มีฝนตกหนัก สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้นำเครื่องสูบน้ำเข้าไปติดตั้งไว้ประจำจุดเสี่ยงแล้วจำนวน 6 จุด เป็นเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้วจำนวน 1 เครื่อง ติดตั้งไว้ที่บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลขอนแก่นราม และได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้วอีก 5 เครื่อง บริเวณโรงเรียนการศึกษาคนตาบอด, โรงเรียนสอนคนตาบอด, แก่นนครคอนกรีต, คลองร่องเหมือง และซอยมหาราชานนนท์ บ้านกอก อัตราการสูบน้ำรวมประมาณ 3,500 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง เพื่อเร่งระบายน้ำในเขตเทศบาลนครขอนแก่นให้ไหลไปลงประตูระบายน้ำ D8 (ห้วยพระคือ) ก่อนไหลลงลำน้ำพองต่อไป นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบสภาพอาคารชลประทานและพนังกั้นลำน้ำชี พนังกั้นลำน้ำพอง ซึ่งเป็นด่านสำคัญด่านแรกในการป้องกันน้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจเมืองขอนแก่น เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการของนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ที่ได้เน้นย้ำให้ตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงของอาคารชลประทาน พนังกั้นน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารชลประทานและเครื่องจักรเครื่องมือ พบว่ายังอยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ดี ส่วนพนังกั้นน้ำพองไม่มีจุดไหนที่น่าเป็นห่วง เพราะได้ทำการปรับปรุงเสริมพนังให้แข็งแรงและสูงขึ้น เพื่อเตรียมรับหากเกิดสถานการณ์น้ำหลากในช่วงฤดูฝนนี้
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าการบริหารจัดการน้ำปีนี้ สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เตรียมความพร้อมไว้อย่างดี เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุทกภัยในพื้นที่ให้เกิด ผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด รวมทั้งเตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือและกำลังคน ที่พร้อมจะเข้าไปให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีหากเกิดอุทกภัย.
#อีสานเดลี่ออนไลน์