จังหวัดหนองบัวลำภู ใช้ยาแรงคำสั่งเข้มแม้คนในครอบครัวต้องระวัง มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) การระบาดระลอกใหม่ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู (แก้ไข/เพิ่มเติมครั้งที่ 2)ทุกภาคส่วนออกนอกบ้านต้องสวมหน้ากากอนามัยโทษหนักปรับไม่เกิน 20,000 บาท
วันนี้(28 เมย.64) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองบัวลำภู และผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดหนองบัวลำภู ได้มีคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ 3/2564 ลงวันที่ 27 เมษายน 2564 เรื่อง มาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19)การระบาดระลอกใหม่ ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู (แก้ไข/เพิ่มเติมครั้งที่ 9) และหนังสือสั่งการให้ทุกภาคส่วนของจังหวัดหนองบัวลำภู ถือปฏิบัติ ภายใต้ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) – (ฉบับที่ 20) คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โควิด -19)ที่ 2/2563 – ที่ 4/2564 คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ 1/2563 ถึง ที่ 8/2564
ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่าตามที่ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นระยะ อย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 นั้นเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่อง สมควรกำหนดมาตรการควบคุมที่จำเป็นอย่างเร่งด่วนเพื่อให้การป้องกัน ควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพอาศัยอำนาจตามมาตรา 22 มาตรา 4 และมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 (ฉบับที่ 15) ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2563 (ฉบับที่ 16)ลงวันที่ 3 มกราคม 2564 (ฉบับที่ 17) ลงวันที่ 6 มกราคม 2564 (ฉบับที่ 18) ลงวันที่ 29 มกราคม 2564 (ฉบับที่ 19) ลงวันที่ 9 เมษายน 2564 และ (ฉบับที่ 20) ลงวันที่ 16 เมษายน 2564
นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองบัวลำภู ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดหนองบัวลำภู โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองบัวลำในการประชุมครั้งที่ 14/2564 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 จึงมีคำสั่งกำหนดมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) การระบาดระลอกใหม่ ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู(แก้ไข/เพิ่มเติมครั้งที่ 4)
จังหวัดหนองบัวลำภู จึงขอให้ทุกส่วนราชการ หน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนและอำเภอทุกอำเภอ ดำเนินการ ดังนี้ 1.ถือปฏิบัติตามคำสั่งข้างต้นอย่างเคร่งครัด 2.ใช้สื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจทุกรูปแบบในทุกช่องทางให้ผู้ประกอบการพนักงาน ผู้ใช้บริการผู้รับบริการประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องทุกระดับ ได้รับรู้ในวงกว้าง เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว 3. สำหรับอำเภอให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ (ศปก.อ.) และศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคตำบล (ศปก.ต.) ทราบและดำเนินการด้วย
นอกจากนั้น จังหวัดหนองบัวลำภู ยังได้มีคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองบัวลำภูที่ 9 /2564 เรื่อง มาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19)การระบาดระลอกใหม่ ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู (แก้ไข/เพิ่มเติมครั้งที่ 9)ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่26 มีนาคม พ.ศ.2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นระยะอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 นั้น
เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้เพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่อง สมควรกำหนดมาตรการควบคุมที่จำเป็นอย่างเร่งด่วนเพื่อให้การป้องกัน ควบคุมและยับยั้งการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพอาศัยอำนาจตามมาตรา 22 มาตรา 34 และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 (ฉบับที่ 15) ลงวันที่ 25 ธันวาคม 2563 (ฉบับที่ 16)ลงวันที่ 3 มกราคม 2564 (ฉบับที่ 17) ลงวันที่ 6 มกราคม 2564 (ฉบับที่ 18) ลงวันที่ 29 มกราคม 2564 (ฉบับที่ 19) ลงวันที่ 9 เมษายน 2564 และ (ฉบับที่ 21) ลงวันที่ 16 เมษายน 2564
จังหวัดหนองบัวลำภู โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหนองบัวลำภู ในการประชุมครั้งที่14 /2564 เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 จึงมีคำสั่งกำหนดมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) การระบาดระลอกใหม่ ในพื้นที่จังหวัด(แก้ไข/เพิ่มเติมครั้งที่ 9) ดังนี้ 1.ให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าอย่างถูกต้องและถูกวิธี ทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถานหรือสถานที่พำนัก เมื่อไปในสถานที่ที่มีบุคคลอื่นหรือสถานที่ชุมนุมชน โดยเฉพาะศาสนสถาน ตลาด ตลาดนัด ตลาดเทศบาล ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น รวมทั้งการเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของบุคคล 2. ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อ 1 อาจมีความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท 3. ให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่ออำเภอ (ศปก.อ) หรือศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อเทศบาลเมือง (ศปก.ทม) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ สื่อสาร วางมาตรการป้องกันควบคุมและกำกับดูแลให้สถานประกอบการทั้งภาครัฐ เอกชน โรงงาน โรงเรียน ตลาด ศาสนสถาน สถานที่ดูแลผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยเรื้อรัง และสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะคล้ายกัน และดำเนินการตามมาตรการที่ทางราชการกำหนด(D-M-H-T-T-A) โดยเคร่งครัด 4. ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค กรณีผู้สูงอายุตามคำแนะนำของระทรวงสาธารณสุข 5. ให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกันหารือกำหนดมาตรการป้องกันโรคจากการจัดกิจกรรมกลุ่มในรูปแบบต่างๆ อาทิ กิจกรรมทางศาสนา กิจกรรมทางประเพณี และต้องดำเนินการตามมาตรการที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด (D-M-H-T-T-A) อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของประชาชนและประโยชน์สาธารณะหากปล่อยให้เนิ่นข้าไป จะก่อผลเสียหายอย่างร้ายแรงต่อส่วนรวม จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามนัยมาตรา30 วรรคสอง (1 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นสั่ง ณ วันที่ 27 เมษายน พ.ศ.2564 ทั้งนี้ นางศิวพรฯยังได้เน้นย้ำขอให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด แม้คนใกล้ชิด อาทิ สามี ภรรยา และคนครอบครัวอย่าไว้วางใจ ต้องคิดเสมอว่าเขาอาจจะเป็นผู้แพร่เชื้อก็อาจจะเป็นไปได้
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์/ขตว.จังหวัดหนองบัวลำภู