ตำรวจอุบลฯ จับยกแก๊ง 3 คนร้ายตระเวนตัดสายเคเบิลสายโทรศัพท์ และสายไฟฟ้า ก่อเหตุมาแล้ว 10 ครั้ง

วันที่ 18 มกราคม ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ผดุงการ ผกก.สภ.เมือง จ.อุบลราชธานี แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 3 คนก่อเหตุ ตระเวนตัดสายเคเบิล,สายโทรศัพท์และสายไฟฟ้า ทำเน็ตล่มทั้งเมืองกว่า 10 จุด โดย พ.ต.ท.นพดล เปลี่ยนรูป รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุบลฯ นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนจับกุม นายสันติ สำราญวงศ์หรือออย อายุ 31 ปี , นายธรรมศาสตร์ บัวจูม หรือต้วน อายุ 38 ปีและนายณรงค์ ปานสันเที๊ยะ หรือเกียจ อายุ 38 ปี  ร่วมกันลักตัดสายเคเบิล,สายโทรศัพท์ ตามเสาไฟฟ้าและสายไฟฟ้า พร้อมด้วยของกลางสายไฟ(ทองแดง) น้ำหนัก 57 กก.,สายเคเบิล ( TOT)น้ำหนัก 58 กก., คีมใช้สำหรับตัดสายเคเบิล 2 อัน,ไม้สำหรับเกี่ยวสายไฟ 1 อัน และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 2 คัน มูลค่าความเสียหายกว่า 5 แสนบาท

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากทางบริษัทธุรกิจเครือข่ายเคเบิลและ,สายโทรศัพท์ ตามเสาไฟฟ้า เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองอุบลฯว่าถูกกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวนก่อเหตุตระเวนลักลอบตัดสายเคเบิล,สายโทรศัพท์ และสายไฟฟ้า กว่า 10 จุด โดยมีไทม์ไลน์เริ่มจากวันที่ 16 ส.ค.63 ก่อเหตุที่บริเวณริมถนนแจ้งสนิท ตรงข้ามสำนักงานชลประทานเขต 7 ต.ในเมือง , วันที่ 3 พ.ย.63 ที่บริเวณริมถนนแจ้งสนิท หน้าโรงเรียนนารีนุกูล ต.ในเมือง, วันที่ 16 พ.ย.63 บริเวณริมถนนราชธานี ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ต.ในเมือง,วันที่ 18 พ.ย.63 ที่บริเวณริมถนนชยางกูร ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนกีฬาจังหวัด ต.ในเมือง,วันที่ 18 ธ.ค. ที่บริเวณริมถนนแจ้งสนิท หน้าศูนย์วัฒนธรรมจังหวัด ต.ในเมือง,วันที่ 26 ธ.ค.63 ริมถนนชยางกูรขาเข้า ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ต.ในเมือง จากนั้นได้มีการสืบสวนติดตามคนร้ายเรื่อยมา ล่าสุดเมื่อกลางดึกวันที่ 17 ม.ค.64 ที่ผ่านมา คนร้ายเข้ามาก่อเหตุตัดสายเคเบิลเสาไฟฟ้า โดยคืนเดียวก่อเหตุ 3 จุดที่บริเวณริมถนนซอยแจ้งสนิท 21 ต.ในเมือง 2 จุดและอีก 1 จุด ที่บริเวณริมถนนสุขาอุปถัมภ์ ข้างวัดป่าแสนอุดม ต.ในเมือง จึงนำกำลังไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ก่อเหตุจนสามารถติดตามจับกุมตัวนายสันติ สำราญวงศ์ และนายธรรมศาสตร์ บัวจูม ที่ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปตระเวนลักตัดสายไฟตรวจสอบพบของกลางจำนวนหนึ่ง ก่อนทำการขยายผลติดตามจับกุมนายณรงค์ ปานสันเที๊ยะ ซึ่งเป็นคนทำหน้าที่เผาสายไฟที่ขโมยมาเพื่อสะดวกในการนำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่า

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุโดยอาศัยช่วงเวลากลางคืนขับรถจักรยานยนต์ตระเวนไปตามถนนในตัวเมืองอุบลฯก่อนจะใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมาลงมือก่อเหตุแล้วนำเอาสายเคเบิลไปเผา จากนั้นนำไปขายที่ร้านรับซื้อของเก่าแห่งหนึ่งในราคากิโลกรัมละ 120 -190 บาท นำเงินที่ได้ไปซื้อยาบ้ามาเสพ ก่อเหตุมาแล้วกว่า 10 ครั้ง  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะฯ โดยร่วมกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป หรือรับของโจร ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.