วันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 ที่ศาลาการเปรียญวัดมหาธาตุ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดนครพนม ร่วมกันประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับแผ่นดินและประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ในโอกาสวันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 โดยมีพระราชสิริวัฒน์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครพนม เจ้าอาวาสวัดสว่างสุวรรณาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
ซึ่งจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติและโรคระบาดอย่างต่อเนื่อง และประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศไทยนับถือพระพุทธศาสนา รัฐบาลจึงได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สนองแนวทางตามมติที่ประชุมมหาเถรสมาคมในการนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาเป็นกรอบแนวคิดในการดำรงชีวิตอย่างมีสติ เพื่อให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี โดยจัดให้มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 แสดงออกถึงความจงรักภักดีในสถาบันชาติและพระมหากษัตริย์ ทั้งเป็นการเสริมสิริมงคลให้กับปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า โดยบทสวดที่นำมาสวดในครั้งนี้คือบท รัตนสูตร หรือรัตนปริตร ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในพระปริตร หรือพระคาถาพรรณนาอานุภาพของพระรัตนตรัย เชื่อว่าสามารถขจัดปัดเป่าภัยความอดอยาก ภัยจากโรคระบาด และภัยจากอมนุษย์เบียดเบียนทั้งหลายได้ เนื้อหาแบ่งออกเป็น 3 ท่อน ประกอบไปด้วย ท่อนแรกเป็นบทแนะนำให้เหล่าภูตทั้งหลายได้อนุโมทนาบุญกุศลที่หมู่มนุษย์อุทิศให้และเมื่ออนุโมทนาแล้วขอให้เกิดความเมตตาทำการรักษามนุษย์ทั้งหลาย ท่อนต่อมาเป็นการอ้างคุณพระรัตนตรัยเป็นสัจวาจาทำให้เกิดความสวัสดีมีชัย และท่อนสุดท้ายเป็นการประกาศให้ภูตทั้งหลายจงนมัสการพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ และอำนวยพรให้สรรพสัตว์เหล่านี้มีความสวัสดี
ทั้งนี้จังหวัดนครพนมกำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ขึ้นทั้งสิ้น 5 ครั้ง โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งครั้งต่อไปจะมีขึ้นในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ณ ศาลาการเปรียญวัดมหาธาตุแห่งนี้ จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดนครพนมทุกท่าน แต่งกายชุดสุภาพโทนสีขาว หรือชุดขาวปฏิบัติธรรมร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน