กาฬสินธุ์(ชมคลิป)กลุ่มคนรถหายร้องแจ้งความจับสาวแสบแก๊งตุ๋นซื้อรถทางเฟชบุ๊คเชิดหนี


ชาวบ้านจากหลายจังหวัดในภาคอีสาน ในนามตัวแทน “กลุ่มคนรถหาย” ตบเท้าสอบถามความคืบหน้าและแจ้งความเพิ่ม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับสาวแสบแก๊งตุ๋นหลอกซื้อรถ หลังติดต่อหลอกเซ็นต์สัญญาซื้อรถไถนาและรถกระบะทางเฟชบุ๊ค วางเงินมัดจำแล้วหนีลอยนวล สูญเสียนับ10 ล้านบาท เผยประวัติมีหมายจับกว่า 10 หมายในพื้นที่หลายจังหวัดในภาคอีสานและยังมีเหยื่ออีกมาก แต่ยังหลบหนีลอยนวล คาดทำเป็นขบวนการ และมีคนมีสีอยู่เบื้องหลัง ร้องสื่อช่วยหาเบาะแส
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ที่ สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ชาวบ้านจำนวน 5 คน นำโดยนายเนตรนริน มีมั่น อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 191 หมู่ 2 ต.แก้งไก่ อ.สังคม จ.หนองคาย นายสารยศ โมมะเกลือ อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 10หมู่ 4 ต.ในเมือง อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น และนายสมรัก วรรณโสภา อายุ 39 ปี บ้านเลขที่ 159 หมู่ 6 ต.นาหว้า อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ เข้าติดตามความคืบหน้าผลการติดตามตัวนาง พ. (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี พร้อมพวก 3 คน ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ต.อุ่มเม่า เขตท้องที่ สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ หลังมีพฤติกรรมติดต่อซื้อรถทางเฟชบุ๊ค หลอกให้มีการเซ็นต์สัญญาผู้เช่าซื้อ วางเงินมัดจำ ที่ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายรถหลายจังหวัด ก่อนเชิดรถหนีหายลอยนวล โดยเหตุการณ์เกิดตั้งแต่ปี 2560-2562 เป็นต้นมา
นายเนตรนริน มีมั่น กล่าวว่า วันนี้ตนและผู้เสียหาย ในนามกลุ่มคนรถหายจากหลายจังหวัดในภาคอีสาน ได้นัดกันเดินทางมาติดตามความคืบหน้าผลการติดตามตัวนางพ.(นามสมมุติ) พร้อมพวก ชาว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เนื่องจากถูกกลุ่มบุคคลดังกล่าวหลอกซื้อรถ ในลักษณะหลอกเปลี่ยนสัญญาผู้ครอบครองหรือรับส่งงวดต่อ โดยมีการทำสัญญาที่ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายรถคันนั้นๆ ซึ่งผู้เสียหายที่ถูกหลอกซื้อรถมีทั้งรถไถนาและรถยนต์ส่วนตัว
นายเนตรนริน มีมั่น กล่าวต่อว่า สำหรับตนเป็นรถยนต์กระบะโตโยต้ารีโว้ตอนเดียว สีขาว ทะเบียน พข-2918 เหลือค่างวดประมาณ 300,000 บาท ทั้งนี้ก่อนที่จะตัดสินใจขายนั้น เนื่องจากระสบปัญหาทางการเงิน และแม่ประสบอุบัติเหตุ ต้องการเงินเป็นค่าใช่จ่ายรักษาพยาบาลแม่ จึงประกาศขายรถทางเฟชบุ๊ค ก่อนที่นาง พ.พร้อมพวกจะติดต่อและทำการซื้อขายหรือเปลี่ยนสัญญาผู้ครอบครองแล้วจะส่งงวดต่อเอง ที่ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายรถแห่งหนึ่งใน จ.หนองคาย โดยตกลงกันในราคา 45,000 บาท โดยทำสัญญาวันที่ 12 ธันวาคม 2562 นัดเปลี่ยนสัญญาวันที่ 30 มกราคม 2563 แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมา ไม่สามารถติดต่อนาง พ.และไม่มาเปลี่ยนสัญญาตามนัด จึงทำให้ตนรับภาระส่งงวดต่อ ขณะที่นางพ.และรถหายไป ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ไหน จึงได้เข้าแจ้งความที่สภ.เมืองหนองคาย เพื่อดำเนินคดีกับนางพ.และพวก
ด้านนายสารยศ โมมะเกลือ กล่าวว่า ในส่วนของตนที่ได้รับความเสียหายถูกนางพ.พร้อมพวกหลอกทำสัญญาและเชิดรถหนีนั้น เป็นรถแทรคเตอร์ ยี่ห้อโตโยต้า เหลืองวดประมาณ 350,000 บาท ซึ่งอยากเปลี่ยนคันใหม่ เนื่องจากคันนี้ไม่เหมาะกับประโยชน์ใช้สอย เพราะคันใหญ่ ไถนาและทำแปลงปลูกผักไม่สะดวก จึงประกาศขายทางเฟซบุ๊ก ก่อนที่นาง พ.พร้อมพวก จะเข้ามาติดต่อและนัดทำสัญญากันที่บ้านของตนในราคา 140,000 บาท โดยวางเงินสดมัดจำวันทำสัญญาเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 จำนวน 100,000 บาท อีก 40,000 บาท ตกลงจ่ายวันที่ 15 มีนาคม 2563 ทั้งนี้ในวันนั้นตนได้เดินทางมาที่บ้านของนางพ.ด้วย เพื่อจะมาเอาโฉนดที่ดินนางนางพ.เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ส่วนที่เหลือ 40,000 บาท ได้ติดตามมาถึงบ้านแต่ไม่พบทั้งรถและคน จึงได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ยางตลาด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวนางพ.พร้อมพวกมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่นายสมรัก วรรณโสภา กล่าวว่า ตนมีรถแทรกเตอร์ 2 คัน ยี่ห้อยันมาร์ เหลือค่างวด 800,000 บาท จึงอยากขายออก 1 คัน เพราะไม่ค่อยได้ใช้งาน ประกอบกับสุขภาพไม่ค่อยดี จึงประกาศขายทางเฟซบุ๊ก ก่อนที่นาง พ.พร้อมพวกจะติดต่อ นัดทำสัญญาเปลี่ยนผู้ครอบครองและรับช่วงส่งงวดต่อ ที่ศูนย์ตัวแทนจำหน่ายแห่งหนึ่งในตัว จ.อำนาจเจริญ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม2562 โดยตนขอค่าส่วนต่างจากนางพ.จำนวน 30,000 บาท ทั้งนี้ สัญญายังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากตัวแทนจำหน่ายแจ้งว่าต้องให้ทางไฟแนนซ์สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพฯ ตรวจสอบเอกสารรถและผู้เช่าซื้อให้เสร็จสิ้นก่อน แต่นางพ.ได้ต่อรองขอนำรถมาใช้ก่อน ตนเห็นใจจึงยอมมอบรถให้ เพื่อความมั่นใจตนได้เดินทางติดตามนาง พ.และรถมาที่บ้านในตัว อ.ยางตลาด และขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นสักขีพยานในการทำหนังสือส่งมอบรถกัน
นายสมรักกล่าวอีกว่า พอถึงวันที่ 16 ธันวาคม 2562 มีหนังสือทวงค่างวดรถระจำเดือนจากไฟแนนซ์มาหาตนตนจึงโทรติดต่อให้นางพ.ชำระค่างวด ซึ่งครั้งแรกโทรติดแต่นางพ.บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ก่อนที่หลายเดือนต่อมาจะติดต่อไม่ได้ จึงมาติดตามหาตัวนางพ.และรถที่บ้านแต่ไม่พบ โทรศัพท์ก็ไม่รับสาย สอบถามผู้นำชุมชนทราบว่านางพ.มีพฤติกรรมหลอกลวงซื้อรถ มีผู้เสียหายหลายรายมาติดตามตัวตนจึงรู้ตัวว่าถูกหลอก จึงเข้าแจ้งความ เพราะตนถูกไฟแนนซ์ฟ้องขึ้นศาลวันที่ 27 สิงหาคมนี้
อย่างไรก็ตาม จากการที่ผู้เสียหายถูกนางพ.และพวกหลอกซื้อรถทางเฟซบุ๊ก และเข้าแจ้งความหลายท้องที่ ทำให้ทราบว่ามีหมายจับหลายท้องที่ มีผู้เสียหายไม่น้อยกว่า 10 คน มูลค่าเสียหายไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท และคาดว่าตะเวนหลอกทั่วภาคอีสาน จึงได้ตั้งกลุ่มคนรถหาย เพื่อติดต่อประสานและหาเบาะแส ล่าสุดได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด ว่ามีหมายจับนางพ.พร้อมพวกจากโรงพักหลายแห่งในท้องที่จังหวัดทางภาคเหนืออีกด้วย ทั้งในข้อหา ฉ้อโกง ยักยอกทรัพย์ จึงคิดว่าทำเป็นขบวนการ และมีคนมีสีอยู่เบื้องหลัง เพราะเหตุหลายจังหวัด แต่ไม่เคยถูกจับสักที