เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.ประดู่ นามเหลา รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต.3 และคณะรอง. ผ.อ.เขต.ในพื้นที่ภาคอีสาน เดินทางมาที่ศาลปกครองอุบลราชธานี เพื่อยื่นคำร้อง ขอส่งเอกสาร และพยานวัตถุสำคัญในคดีเพิ่มเติม และขอประทานกราบเรียน ต่อศาลได้โปรดพิจารณามีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวโดยเร็ว ก่อนที่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)จะเรียกบัญชีรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกให้บรรจุแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เนื่องจาก ดร.ประดู่ นามเหลา ในฐานะผู้ฟ้องคดี ได้พบข้อพิรุธ ในเอกสาร หลักฐาน และพยานวัตถุที่เป็นข้อสำคัญในคดี เกี่ยวกับการดำเนินการประเมินให้คะแนน ภาค. ข. และ ภาค. ค. ของคณะกรรมการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งมีการประเมินให้คะแนนไปตามอำเภอใจ โดยไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์ขั้นตํ่า และรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติความสามารถทางการบริหาร หรือประวัติและประสบการณ์ทางการบริหารแต่อย่างใด ทั้งนี้เพื่อเอื้อประโยชน์ให้บุคคลผู้มีประวัติ และประสบการทางการบริหารตํ่า เช่น ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามาเพียง 1 – 2 ปี ก็มีคุณสมบัติเทียบเท่าบุคคลผู้มีประวัติ และประสบการณ์มากว่า 15 – 20 ปีดร.ประดู่ นามเหลา รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต.3 เปิดเผยว่า ในระหว่างที่คณะกรรมการสรรหาได้มีการประกาศรายชื่อบุคคลผู้ผ่านการคัดเลือก เพื่อบรรจุแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแล้ว ได้มีบุคคลผู้ที่เข้ารับการสรรหาที่มีประวัติ และประสบการณ์ทางการบริหารมานาน ได้ทักท้วง และมีกระแสวิพากวิจารณ์แพร่หลาย เกี่ยวกับพฤติกรรมในทางทุจริต และภายหลังได้ปรากฎว่า มีการจัดกระทำหลักเกณฑ์หลักสูตรการคัดเลือกบุคคล เพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ขึ้นมาใหม่ แนบท้ายประกาศคณะกรรมการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เรื่อง รับสมัครคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ฉบับลงวันที่ 15 มิถุนายน 2565 ทำการรับรับรองเป็นหลักฐานว่า คณะกรรมการสรรหา ฯ ได้ทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าคณะกรรมการสรรหา ฯ อันเป็นความเท็จดร.ประดู่ นามเหลา (ผู้ฟ้องคดี) กล่าวว่า ได้เดินทางมาที่ศาลปกครองจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อยื่นคำร้อง ส่งเอกสารพยานวัตถุเป็นคลิปเสียงของคณะกรรมการสรรหา เพื่อบรรจุแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หลุดออกมา ซึ่งจะเป็นพยานวัตถุที่สำคัญในคดี ยืนยันข้อพิรุธเกี่ยวกับการสรรหาเพื่อบรรจุแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่อาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย “ทำไม เลขา ก.ค.ศ. ก็ดี และ เลขาสพฐ. ก็ดี มีเหตุเร่งด่วนจำเป็นอย่างไร จึงรีบเร่งการเรียกบรรจุแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผ.อ.เขต.ดังกล่าวทันทีทันใดทั้งที่ ยังไม่ได้ข้อยุติ และยังมีการโต้แย้งกันอยู่ หรืออยู่ในระหว่างการพิจารณามีคำสั่งวิธีการชั่วคราวโดยเร็ว ตามคำสั่งศาลอยู่ หรือว่า ผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องมีประโยชน์ได้เสียตามที่มีการวิพากวิจารณ์กันอย่างแพร่หลายจึงขอให้มีการตรวจสอบให้ความเป็นธรรมกับ รอง.ผ.อ.เขต. ทั่วประเทศ ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ ด้วย เพราะมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของกระทรวงศึกษาธิการ ในวงกว้าง” ดร.ประดู่ นามเหลา กล่าว
ภาพ/ข่าว:ยงยุทธ ผูกพันธ์ อุบลราชธานี รายงาน