เมื่อเวลา 16.00น. วันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ร.ต.ท.อรรฆฤทธิ์ เย็นสวัสดิ์ รอง สว. สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ มีคนนำศพทารกมาฝังในวัดป่าเวฬุวัน บ้านหนองไผ่ ต.หนองนาคำ จึงได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม ในที่เกิดเหตุพบพระดิเรก กตะปัญโย อายุ 75 ปี พระลูกวัดเดินไปชี้จุดฝังศพทารกใต้ต้นไม้ซึ่งอยู่ริมสระน้ำข้างกำแพงหลังวัด อาสากกู้ภัยได้ ทำการขุดขึ้นมามีถุงพลาสติกห่อกล่องพลาสติกใสฝาสีฟ้าและนม1 กล่อง เมื่อเปิดฝากล่องพลาสติก พบซากทารกเน่า อายุครรภ์ประมาณ 2 เดือน ห่อด้วยผ้าขาวและสำลีและผ้าขาวส่งกลิ่นเหม็น ใกล้กันพบกล้วยสุข 1 หวีแขนอยู่บนต้นไม้ใกล้กับจุดฝังซากทารก
พระดิเรก บอกว่า เมื่อวานนี้ประมาณ 5 -6 โมงเย็น ขณะนั่งอยู่กุฎิ ได้มีผู้หญิง 2 คน คนขับรถอายุประมาณ 30-35 ปี คนซ้อนท้ายอายุประมาณ 40-45 ปี กับเด็กชายอีก 1 คนอายุประมาณ 8-9 ขวบ ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้ากุฎิ ผู้หญิงที่อายุ 40-45 ปี ได้ถือถุงพลาสติก และกล้วย 1 หวีมานั่งลง พร้อมกับบอกว่าแท้งลูกออกมาประมาณ 2 เดือน อยากให้พระสวดส่งวิญญาณ ตนจึงสวดและชักอนิจจาให้ ผู้หญิงที่อ้างว่าแท้งลูกได้ฝากกล่องพลาสติกที่ใส่ศพทารกไว้ที่กุฎิตน บอกว่าพรุ่งนี้จะกลับมาพร้อมกับขวดนมและทำพิธีฝัง ตนจึงวางกล่องเด็กทารกไว้ที่หน้ากุฎิ พร้อมกับกล้วย วันนี้ตนนั่งรอทั้งวันก็ไม่เห็นหญิงคนดังกล่าวมา ส่วนกล่องศพทารกก็มีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมา จึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน แล้วนำกล่องใส่ถุงพลาสติกไปฝังที่หลังวัด และแจ้งตำรวจ
“หลังจากทำพิธีสวดส่งวิญาณให้ทารกแล้ว ก็วางกล่องไว้ที่หน้ากุฎิ ก็เข้านอนแต่กลางดึกก็มีสุนัขเห่าหอนรอบรอบกุฎิและรอบวัดทั้งคืน ซึ่งปกติตนก็ไม่เคยกลัวอะไร แต่แปลกใจตรงที่พอมีกล่องศพทารกสุนัขกลับหอน คิดว่าสุนัขคงจะเห็นวิญญาณทารก จึงได้เห่าหอน”
ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ที่นำซากศพเด็กทารกมาจะเป็นคนต่างถิ่น หญิงที่อ้างว่าตั้งครรภ์ 2 เดือนแล้วแท้ง ได้นำซากทารกมาให้พระทำพิธีทางศาสนา เพื่อความสบายใจ แต่อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะได้สืบสวนหาผู้หญิงคนดังกล่าว เพื่อสอบถามว่าท้องแล้วแท้ง หรือทำแท้งเด็กออกมา เพื่อดำเนินการต่อไป
