ขอนแก่น (ชมคลิป) รมช.เกษตรฯ ติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้ง พร้อมทั้งส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกร เพื่อให้มีรายได้ที่มั่นคง ตามนโยบายของรัฐบาล

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้ง พร้อมทั้งส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกร เพื่อให้มีรายได้ที่มั่นคง ตามนโยบายของรัฐบาล

            28 เม.ย. 2565 นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะได้ลงพื้นที่อำเภอซำสูง และอำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอซำสูง ได้ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือไปยังรัฐบาล เกี่ยวกับการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค จึงประสานสำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 4 เข้าดำเนินการแก้ไขปัญหา โดยการเป่าบ่อบาดาลที่เจาะไว้ตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งมีน้ำเพียงพอต่อครัวเรือนประชากร แล้วนำน้ำส่งไปยังถังสูงวัดบูรพา ส่งไปตามระบบประปาหมู่บ้าน จนสามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้ ส่วนในระยะยาวนั้น ทางสำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 4 อยู่ระหว่างการขุดเจาะสำรวจแหล่งน้ำบาดาลในพื้นที่อำเภอซำสูง ว่ามีปริมาณเพียงพอหรือไม่ หากมีแหล่งน้ำเพียงพอ จึงจะออกแบบและของบประมาณมาก่อสร้างโครงการน้ำบาดาลขนาดใหญ่ เพื่อการอุปโภค บริโภคและเพื่อการเกษตร ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ได้กว่า 8,000 ครัวเรือน

            รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า วันนี้มาติดตามเรื่องการแก้ปัญหาภัยแล้งและการส่งเสริมอาชีพให้กับเกษตรในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยที่อำเภอซำสูง พบหลายหมู่บ้านไม่มีน้ำทั้งอุปโภค บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร เนื่องจากเป็นพื้นที่สูงและปัญหาน้ำเค็ม ประกอบกับไม่มีแหล่งน้ำสาธารณะ จึงประสานสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 4 เข้าขุดเจาะบ่อบาดาล จำนวน 10 บ่อ เพื่อนำน้ำมาใช้ในการอุปโภคบริโภค และใช้สำหรับการเกษตร

ส่วนที่อำเภอน้ำพอง มีระบบชลประทานที่ครอบคลุม เหมาะสำหรับการเพาะปลูกตลอดทั้งปี ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังส่งเสริมให้เกษตรกรมีอาชีพมีรายได้ที่มั่นคง ตามโครงการสานฝันสร้างอาชีพ เพื่อยกระดับรายได้เกษตรกร จึงส่งเสริมการปลูกฟักทอง พืชอายุสั้น ใช้เวลาในการเพาะปลูก 70 วัน เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ โดยตลาดรับซื้อที่กิโลกรัมละ 10 บาท ขณะที่การลงทุนต่อไร่ไม่สูง แต่ให้ผลผลิตต่อไร่ประมาณ 25,000 – 30,000 บาท และยังเป็นที่ต้องการของตลาดเฉลี่ยวันละ 150 ตัน พร้อมกันนี้ได้รณรงค์ให้เกษตรกรลดการใช้ปุ๋ยยูเรียซึ่งมีราคาสูง ให้หันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทน นอกจากจะมีราคาถูกแล้วยังส่งผลดีต่อสุขภาพของเกษตรกรและผลผลิตทางการเกษตรด้วย.