นรข.นครพนม บูรณาการเฝ้าระวังยาเสพติด 2 วัน จับผู้ต้องหา 2 รายพร้อมของกลางยาไอซ์ 219 กก. และกัญชา 1 ตัน


วันที่ 10 ธันวาคม 2564 ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พล.ร.ต.สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผบ.นรข.) นายภิญโญ โฆสิต ผู้อำนวยการ สำนักงาน ปปส. ภาค 4 น.อ.พรภิรมย์ ยศบุญ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตนครพนม พ.ต.อ.จตุรงค์ มหิทธิโชติ ผู้กำกับสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผู้กำกับพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลการเฝ้าระวังและป้องกันการลักลอบนำเขายาเสพติดในพื้นที่ที่มีการบูรณาการจนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลาง โดยในวันที่ 8 ธันวาคม 2564 ภายหลังได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่บริเวณพื้นที่ บ้านนาคำ ตำบลน้ำก่ำ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม เจ้าหน้าที่ได้มีการบูรณาการจัดชุดปฏิบัติการลาดตระเวนและซุ่มตามจุดต่าง ๆ ที่เป็นเป้าหมายจนนำไปสู่การตรวจยึดของกลางยาไอซ์ จำนวน 219 ห่อ /กิโลกรัม และกัญชาอัดแท่งเกรดพรีเมียม จำนวน 480 แท่ง/กิโลกรัม และในวันที่ 9 ธันวาคม 2564 สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย เป็นชาวบ้านในพื้นที่ตำบลเวินพระบาท อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม 1 คน และชาวบ้านนาแงว แขวงคำม่วน สปป.ลาว 1 คน ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านเวินพระบาท ตำบลเวินพระบาทขณะกำลังลำเลียงกัญชาอัดแท่งเกรดพรีเมียม 520 แท่ง/กิโลกรัมขึ้นจากเรือ และพยายามต่อสู้ขัดขืน แย่งอาวุธจากเจ้าหน้าที่ขณะเข้าตรวจสอบจับกุม
โดยในโอกาสนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ทุกนายว่า พร้อมให้การสนับสนุนกำลังพลอย่างเต็มที่ในการเฝ้าระวังป้องกันปัญหายาเสพติดในพื้นที่ มีสิ่งใดติดขัดก็ขอให้แจ้งเข้ามา และขอขอบคุณไปยังประชาชนทุกคน ที่ได้ช่วยเป็นหูเป็นตาจนนำไปสู่การจับกุมและตรวจยึดของกลางอย่างต่อเนื่องเสมอมา ซึ่งขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกนายพร้อมปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่ ผบ.นรข. ได้กล่าวว่าเพิ่มเติม สำหรับกำลังพลของกองทัพเรือนั้นมีนโยบายว่าถ้ามีการกระทำผิด เข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันกับยาเสพติด จะมีบทลงโทษ คือ ปลด ถอดยศ งดบำเหน็จบำนาญ และดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้อำนวยการ สำนักงาน ปปส. ภาค 4 ก็ได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันกฎหมายยาเสพติดได้มีการประกาศใหม่และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่นี้ จะยึดหลัก ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย จะมีการนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด ขณะที่บทลงโทษกับผู้ค้าก็จะรุนแรงขึ้น โดยตอนนี้ไม่ใช่เฉพาะการจับกุมผู้ค้าแต่จะมีการขยายเครือข่ายไปสู่กระบวนการนายทุน ผู้สั่งการด้วย ซึ่งจะมีการยึดอายัดทรัพย์สินที่เป็นมูลค่า (Value-based Confiscation) ทั้งที่ได้มาจากการกระทำผิดและที่ได้มาอย่างสุจริตย้อนหลังได้ 10 ปี นอกจากนี้ในส่วนของการทำลายของกลางยาเสพติด ก็จะสามารถดำเนินการให้เร็วขึ้นได้ เพราะไม่ต้องรอศาลพิพากษาตัดสินคดี เพียงแค่มีผลตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าเป็นยาเสพติด ก็สามารถนำไปทำลายได้เลย ไม่ต้องเก็บรักษาไว้เหมือนแต่ก่อน