มหานิยมร่อนหนังสือถึง ประธานสภาผู้แทน-นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ยุติปัญหาสงฆ์กาฬสินธุ์ ถือเป็นไม้สุดท้ายหากนายกรัฐมนตรีไม่ทำอะไรก็ขอให้ยุติบทบาทการบริหารบ้านเมือง
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของประชาชนที่ต้องการต่อต้าน “พระเล็ก”หรือ พระครูสุทธิญาณโสภณ (เล็ก สุทธิญาโณ) เจ้าคณะอำเภอสังคม จ.หนองคาย เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) รูปใหม่ ทั่วไปมีความเคลื่อนไหวและวิจารณ์ถึงคลิปเสียงที่สั่นสะเทือนวงการคณะสงฆ์และจิตใจของชาวพุทธกาฬสินธุ์ ดังจะเห็นมีป้ายที่ติดทั่วไปตามหมู่บ้าน แม้ในพื้นที่วัดประชานิยม เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ บรรดาศิษยานุศิษย์จะมีการปลดป้ายลง เพื่อเตรียมพื้นที่ในการประกอบพิธีทางศาสนาแต่ก็ยังมึนงงต่อปัญหาคณะสงฆ์ที่ต้องการให้ มหาเถรสมาคมและสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามจารีตประเพณี และถูกต้องตามกฏมหาเถรสมาคม รวมไปถึง พ.ร.บ.สงฆ์ เพื่อนำความสงบสุขกลับมาให้ชาวกาฬสินธุ์
ขณะที่อาคารรัฐสภา(เกียกกาย) ชั้น 4 “มหานิยม” ดร.นิยมเวชกามา ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตนได้ทำหนังสือถึง ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2564 เรื่อง ความแตกแยกในหมู่คณะสงฆ์ที่เกิดจากการที่มีการนำคลิปเสียงการสนทนาคล้ายเสียงของพระครูสุทธิญาณโสภณ(พระครูเล็ก) ตามที่ปรากฏทางสื่อออนไลน์ มาเปิดเผยให้สาธารณชนได้รับทราบ โดยไม่มีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องแสดงความรับผิดชอบ ภายในคลิปได้อ้างถึงเบื้องสูงรวมไปถึงพระเถรผู้ใหญ่ และวิธีการกวาดล้างคณะสงฆ์กาฬสินธุ์ ส่งผลให้จิตใจของชาวกาฬสินธุ์ ที่เป็นลูกศิษย์ของ เจ้าคุณหลวงพ่อบัวศรีและเจ้าคุณแผน รวมไปถึง พระในจังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย เสียใจและหวั่นวิตกจนเกิดการลุกฮือนั้น
“มหานิยม” ดร.นิยม เวชกามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีนี้ “พระครูเล็ก” คงจะจบกันดีๆคงไม่ได้เพราะ พระครูเล็ก ก็ไม่ยอมลาออกทั้งที่ถูกมองว่าเป็นบุคคลที่กำลังทำให้คณะสงฆ์กาฬสินธุ์แตกแยก วันนี้ตนจึงได้ทำหนังสือส่งตรงไปยัง ประธานสภาผู้แทนราษฎรและพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่ออธิบายความเกี่ยวกันปัญหาคณะสงฆ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ยังเป็นปัญหาไม่รู้จบทำให้คนกาฬสินธุ์ทุกข์ใจเป็นอย่างมาก การส่งหนังสือไปถึงนายกรัฐมนตรีนั้นหมายถึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีติดตามปัญหานี้ด้วยตนเอง เพราะนายกรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาต จึงควรที่จะมาตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดว่าปัญหาที่ชาวกาฬสินธุ์เคลื่อนไหวนั้นเกิดจากสาเหตุอะไร โดยเฉพาะคลิปเสียงคล้าย “พระเล็ก”หรือ พระครูสุทธิญาณโสภณ (เล็ก สุทธิญาโณ) เจ้าคณะอำเภอสังคม จ.หนองคาย เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์(ธ) รูปใหม่ สนทนากับบุคคลอีกฝ่ายที่ได้กล่าวอ้างเบื้องสูง และมีชื่อของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหลายคนอยู่เบื้องหลังคำสั่งปลดที่ไม่เป็นธรรมต่อ เจ้าคุณหลวงพ่อบัวศรี เจ้าอาวาสวัดประชานิยม รวมไปถึงวิจารณ์พระผู้ใหญ่ไปต่างๆนานา ที่ถึงแม้ว่าท่านเจ้าคุณหลวงพ่อบัวศรีจะขอให้ยุติเรื่องแต่คณะลูกศิษย์นั้นไม่มีใครหยุดดังจะเห็นว่ามีการเคลื่อนไหวปักป้ายไม่ต้อนรับพระครูเล็กและมีการเคลื่อนไหวที่จะขับไล่หากเข้ามาปกครองคณะสงฆ์กาฬสินธุ์ทันที
“นายกรัฐมนตรีจึงควรที่จะใช้อำนาจที่มีทำการตรวจสอบคลิปเสียงที่กระจายไปทั้งประเทศนี้ว่า คลิปเสียงนี้เป็นของใคร ถ้าไม่เช่นนั้นปัญหานี้จะไม่สามารถทำให้แผ่นดินกาฬสินธุ์สงบลงได้ เพราะสังคมกาฬสินธุ์เกิดความแตกแยกจากคลิปเสียงนี้ จึงควรที่จะตรวจสอบว่าคลิปเสียงนี้เป็นคลิปเสียงจริงหรือเป็นคลิปเสียงที่มีการตัดต่อ ถ้าคลิปเสียงนี้เป็นของจริงคนพูดแบบนี้ต้องรับผิดชอบ ซึ่งนายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแลจะปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไปไม่ได้ นายกรัฐมนตรีจะต้องไปฟังคลิปเสียงนี้ว่าคนพูดได้พูดอย่างไร อ้างเบื้องสูงอย่างไร อ้างพระเถรผู้ใหญ่อย่างไร เพื่อให้เกิดความกระจางชัด หากนายกรัฐมนตรีจะปล่อยทำเฉยไม่รู้ไม่ชี้ตามเรื่องตามราว “งั้นก็ขอให้นายกรัฐมนตรีไม่ต้องกำกับดูแลสำนักพระพุทธศาสนา ไม่ต้องบริหารบ้านบริหารเมือง อะไรจะเกิดช่างหัวมันไม่ได้ครับ” นายกรัฐมนตรีต้องทำความกระจางแจ้งให้ชาวพุทธว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ความไม่ชอบมาพากลในองค์กรสงฆ์เกิดจากสาเหตุอะไร วันนี้จิตใจชาวพุทธทั้งประเทศเค้าหดหู่ในหัวใจและมีการตั้งคำถามว่าทำไมถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นมา”
ดร.นิยม กล่าวต่อว่า ตนได้เข้ามาประชุมสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้ เดินไปประชุมหรือไปที่ไหน ส.ส. ทุกคนก็จะถามว่าปัญหาสงฆ์กาฬสินธุ์ จะเป็นอย่างไรจะจบอย่างไร ซึ่งตนก็ไม่สามารถที่จะตอบอะไรได้เลย เพราะไม่ใช่ผู้บริหารคณะสงฆ์ สิ่งที่จะฝากขณะนี้คือ ฆารวาสอย่างไปยุ่งกับพระให้พระบริหารจัดการกันเอง เพราะคณะสงฆ์มีผู้ปกครองอันได้แก่ เจ้าคณะหน เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัดอยู่ในองค์กรสงฆ์และปัญหาที่เกิดขึ้นเชื่อว่ามีฆารวาสไปยุ่งกับองค์กรสงฆ์
“การนิ่งเฉยต่อปัญหา ปล่อยให้เลยตามเลยเหมือนจะให้ปัญหาคณะสงฆ์กาฬสินธุ์ผ่านไปส่วนตัวคิดว่าเหมือนกับเป็นการส่งเสริมกันปล่อยให้ปัญหาไม่จบทั้งที่สามารถทำให้จบได้ด้วยความเป็นธรรม เพราะคนกาฬสินธุ์ยังไงก็ไม่ยอมให้พระครูเล็กมาปกครองสงฆ์กาฬสินธุ์ อีกทั้งคณะสงฆ์ก็ต่อต้านมีการลาออกกันไปหมดแล้ว เมื่อเข้ามากาฬสินธุ์ พระครูเล็กจะไปปกครองใคร ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ท่านพระครูเล็ก หรือ นายกรัฐมนตรีกำลังคิดอะไร โดยเฉพาะพระครูเล็กนั้นตนขอวิงวอนว่าให้หยุดปัญหานี้ด้วยตนเอง อย่าไปเห็นในความโลภเหมือนต้องการเป็นเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ให้ได้จึงทำให้วุ่นวาย” ดร.นิยม กล่าวในที่สุด