ตร.อุบลฯ โชว์ผลงานจับกุมผู้ก่อเหตุลักทรัพย์และผู้ก่อเหตุปล้นทรัพย์ในพื้นที่ 9 คดี ผู้ต้องหา 7 คน

อุบลราชธานี – ผลงานชุดสืบสวน สภ.เมืองอุบลฯ “รองโอ” จับกุมผู้ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์และผู้ก่อเหตุปล้นทรัพย์ในพื้นที่ 9 คดี ผู้ต้องหา 7 คน ผู้ต้องหาสารภาพขายได้เงินนำมาแบ่งเที่ยวเตร่-ซื้อยาเสพ,ส่วนคดีปล้นเหตุไม่พอใจผู้เสียหายเป็นสายให้ตำรวจมาจับยาบ้าในพื้นที่รวมมูลค่า1ล้าน8แสนบาท

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 30 สิงหาคม ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ผดุงการ ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาลักทรัพย์และคดีปล้นทรัพย์ในพื้นที่ โดยพ.ต.ท.นพดล เปลี่ยนรูป “รองโอ”  รอง ผกก.สส. สภ.เมืองอุบลราชธานีพร้อมด้วย พ.ต.ต.อดิศักดิ์ ไชยสัตย์ สว.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานี นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจับกุมประกอบด้วย

คดีที่ 1. จับกุมนายมงคล หรือมอส (สงวนนามสกุล)อายุ 20 ปี และ นายเพชร หรือเพชร (สงวนนามสกุล)อายุ 42 ปี ที่บ้านพักไม่มีเลขที่บ้านหาดสวนยา ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาที่เข้าไปก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ ที่บริเวณท่าทรายเก่า หมู่ 7 บ้านโพนงาม ต.หนองบ่อ อ.เมือง จ.อุบลฯ ได้ทรัพย์สินทรัพย์เศษเหล็ก (น๊อต) ,เครื่องลาก 1 เครื่อง,แอร์ 1 เครื่อง, โทรทัศน์ 1 เครื่อง,สายไฟ 1 ม้วน,เตาแก๊ส 1 อัน,เครื่องปั๊มน้ำ 1 เครื่อง,เหล็กคอม 1 ชุด ,ล้อรถแบ็คโฮ 1 ล้อ,ล้อรถเลื่อน 1 ล้อ,ประตูรถแบ็คโฮ 1 บาน แจ้งข้อหา ลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นจากการจับกุมฯ  โดยเข้าไปก่อเหตุถึง 7 ครั้ง(ตั้งแต่1 ก.ค.- 28 ส.ค.) รวมมูลค่าความเสียหาย 800,000-900,000 บาท รับสารภาพว่างงานไม่มีรายได้ช่วงโควิค -19 และติดยาเสพติด

คดีที่ 2. จับกุม นายชาคริต  (สงวนนามสกุล)อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์ในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี 3 คดี จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย เมื่อวันที่ 11-12 สิงหาคม 2564 ลักทรัพย์เครื่องเจาะปูนขนาดใหญ่ จำนวน 1 เครื่อง จากบ้านพักภายในบริษัทเกียรติสุรนนท์สินทรัพย์ จำกัด ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี มูลค่า18,000 บาท ,เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2564 ลักทรัพย์(สายไฟขนาดใหญ่ยาวประมาณ 200 เมตร) จากบริษัทเกียรติสุรนนท์สินทรัพย์ จำกัด ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี มูลค่า 500,000 บาทและลักทรัพย์วายเมท (ตะแกรงเหล็ก) และ เหล็กแบบถนน บริเวณ ถ.ชลประทาน-ท่าบ่อ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี มูลค่า 5,000 บาท และเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 64  ลักสายไฟขนาด 35 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 50 เมตร จำนวน 4 เส้น จากบ้านของนายเรืองชัย โหตระไวศยะ เลขที่ 32 ถ.ชลประทาน-ท่าบ่อ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี รวมมูลค่าความเสียหาย 563,000 บาท ผู้ต้องหามีอาชีพรับเหมาก่อสร้างอาศัยความชำนาญและความคุ้นเคยกับเจ้าของทรัพย์ เข้ามาลักทรัพย์ แจ้งข้อหา ลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นจากการจับกุมฯ รับสารภาพไม่มีงานและหาเงินซื้อยาบ้าเสพ

คดีที่ 3.จับกุมนางมณีวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี เจ้าของร้านรวมใจรับซื้อของเก่า พร้อมของกลาง ที่ได้รับซื้อของเก่าจำนวน 5 ราย คือ1.แผงคอยล์แอร์ร้อน จำนวน 1 ชิ้น 2.ป้ายร้านเฟลลิ้ง จำนวน 1 แผ่น 3.ปล่องระบายอากาศ จำนวน 3 ชิ้น 4.เคส ซีพียูคอมพิวเตอร์ จำนวน 2 อัน  5.บัญชีรับซื้อของเก่าของร้านรวมใจ จำนวน 5 แผ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจรและไม่จัดทำบัญชีรับซื้อของเก่าตามพ.ร.บ.ควบคุมการขายทอดตลาดของเก่า พ.ศ.2475 นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ทั้งนี้ นายณัฐวร (สงวนนามสกุล)  อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 3 หมาย ในข้อหา ลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นจากการจับกุมฯ อยู่ระหว่างหลบหนีหมายจับ ผู้ก่อเหตุตะเวนลักทรัพย์ตามสถานประกอบการที่ปิดให้บริการในข่วงโควิด ในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี จำนวน 3 แห่ง เมื่อวันที่ 12-18 สิงหาคม 2564 ลักทรัพย์แอร์ติดผนัง จำนวน 5 เครื่อง และเครื่องพัดลม (คอยล์ร้อนของแอร์) จำนวน 4 เครื่อง จากร้านเฟลลิ้ง 97/1 ถ.ธรรมวิธี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี มูลค่า 120,000 บาท ,เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม  ลักทรัพย์คอมแอร์ จำนวน 4 เครื่อง จากร้านอนานัด ซ.ชยางกูร 40 ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี มูลค่า 40,000 บาท และเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ลักทรัพย์ ทีวี จอแบนขนาด 30 นิ้ว 1 เครื่อง ,โต๊ะสนุกเกอร์ขนาดเล็ก,เครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่  1 เครื่อง,คอมเพรสเซอร์ตู้แช่อาหาร ,โน๊ตบุ๊ค  1 เครื่อง,พัดลมตั้งพื้น  1 เครื่อง,อ่างล้างจาน พร้อมเครื่องครัว,ชุดเครื่องเสียง ,สายไฟ ปลั๊กไฟ,ถังแก๊สขนาด15 กิโลกรัม 2 ถัง และก้อนฟางตกแต่งร้าน รวมมูลค่า 200,000 บาท  จากร้านมัวเมา ซ.ชยางกูร 40 ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี โดยนายณัฐวร (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับได้ตระเวนหาสถานประกอบการที่ปิดให้บริการในช่วงโควิด อาศัยช่วงเวลาที่ไม่มีผู้ดูแลร้านจึงเข้าไปลักทรัพย์ โดยนำทรัพย์สินที่ได้จากการลักทรัพย์บางส่วนนำไปขายให้กับร้านรวมใจ รับซื้อของเก่า รวมมูลค่าความเสียหาย 360,000 บาท

คดีที่ 4. จับกุม นายวีระพล (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี,นายตุลยเดช (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี และนายจิรายุทธ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี   ผู้ต้องหาเหตุปล้นทรัพย์ ที่บริเวณ ริมถนนในซอยรุ่งเรือง ต.ปทุม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ด้วยเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 27 ส.ค. นายอิทธิพล (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปีได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมือง  ว่าได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาซื้อของที่บริเวณหน้าโรงเรียนปทุมพิทยาคม ต.ปทุม  อ.เมือง และขณะที่เดินทางกลับบ้าน มาถึงบริเวณริมถนนในซอยรุ่งเรือง ด้านหลังโรงเรียนปทุมพิทยาคม ได้มีกลุ่มชายวัยรุ่น 3 คนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดเทียบและได้ลงมารุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บ และผู้ก่อเหตุได้หยิบโทรศัพท์มือถือที่ตกอยู่พื้นของตนเองไปด้วย ก่อนที่จะพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมือง ได้ออกติดตามลงพื้นที่หาตัวผู้กระทำความผิด จนทราบตัวผู้ก่อเหตุ  ต่อมาญาติได้นำผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำ ที่ใช้ขับขี่ในวันก่อเหตุและโทรศัพท์มือถือ (ของผู้เสียหาย) ซึ่งผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจปัสสาวะผลเป็นบวก จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันปล้นทรัพย์และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1(ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย ด้านนายอิทธิพล (สงวนนามสกุล) ผู้เสียหายให้การว่าสาเหตุที่ถูกดักทำร้ายร่างกายเนื่องจากกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวไม่พอใจว่าตนเองเป็นสายให้ตำรวจเข้ามาจับยาเสพเสพติดในพื้นที่