เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี นายเชษฐา ไชยสัตย์ ประธานชมรมศรีแม่มูลเครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย นางทิพวรรณ ผันก้อน (ป้ากล้วย) อายุ 73 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลไร่น้อย อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ผู้ได้รับความเดือดร้อน เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับผู้ว่าราชการจังหวัดผ่านศูนย์ดำรงธรรม เนื่องจากการที่มีกลุ่มบุคคลที่อ้างว่ามาจากหน่วยงานราชการในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เข้ามาในที่ดินของครอบครัวซึ่งใช้ประโยชน์มากว่า 40 ปี ทำการล้อมรั้วและปักป้าย”ที่ราชพัสดุ” และปลูกต้นไม้ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้รับการข่มขู่และเดือดร้อนรำคาญจากบุกคนภายนอกที่ไม่เคยรู้จักมาโดยตลอด
นางทิพวรรณ กล่าวว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 สำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ได้มีหนังสือ “ขอให้ระงับการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุ” ภายใน 15 วัน (ที่ดินพิพาท), ตนในฐานะตัวแทนทายาทเจ้าของที่ดินเดิม มีความทุกข์และเดือดร้อน จากการถูกกล่าวหาว่า “บุกรุกที่ราชพัสดุ” ซึ่งเป็นบทกฎหมายเฉพาะที่มีโทษทางอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562
ด้านนายเชษฐา ไชยสัตย์ ประธานชมรมศรีแม่มูล เครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดอุบลราชธานี ได้กล่าวว่า ที่ดินพิพาทนี้ ผู้ใช้ประโยชน์ในที่ดินเดิมได้แสดงเจตจำนง มอบให้กรมชลประทานใช้สอยที่ดิน ”เพื่อประโยชน์ของการชลประทาน” เมื่อทางกรมชลประทานได้ขุดลอก “ห้วยวังนอง” แล้วเสร็จและปัจจุบันมิได้ใช้ประโยชน์เพื่อการชลประทานแล้ว สำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ก็ควรพิจารณาเปิดช่องคืนสิทธิหรือให้เช่าพื้นที่ตามอำนาจหน้าที่ แก่ทายาทเจ้าของที่ดินเดิม มิใช่การแจ้งการบุกรุก เพื่ออาจเป็นช่องทางเปิดประมูลซื้อขาย ซึ่งในที่สุดก็อาจตกไปอยู่ในมือของกลุ่มทุนใหญ่เพื่อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ จึงได้ประสานเรื่องราวขอความเป็นธรรม เข้าร้องเรียนต่อ นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผ่านช่องทางศูนย์ดำรงธรรม ตามขั้นตอนและจะติดตามความคืบหน้าต่อไปอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้นางทิพวรรณ (ป้ากล้วย) ซึ่งได้รับความเดือดร้อน ประกาศที่ศูนย์ดำรงธรรมว่าจะขอสละชีวิตโดยการนั่งยางเผาตนเอง หากไม่ได้รับความเป็นธรรมและไม่สามารถรักษาสิทธิ์ในผืนดินที่บรรพบุรุษได้ใช้ประโยชน์มากว่า 40 ปี
