ขอนแก่น-ซีพีออลล์ ร่วมกับ ซีพีเอฟ มอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์และอาหารพร้อมทาน ให้กับ รพ.สนาม

ที่ขอนแก่น ตามโครงการคนไทยไม่ทิ้งกัน ขณะที่ผู้ว่าฯ ย้ำชัด มิ.ย.ให้บริการวัคซีนพร้อมกันทั้งจังหวัด เล็งเปิดจุดบริการไดร์สทรู อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนตามาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวดที่ใครๆก็ฉีดได้

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 14 พ.ค.2564 ที่ โรงพยาบาลสนาม จ.ขอนแก่น แห่งที่ 1 (หอพัก 26 มหาวิทยาลัยขอนแก่น) นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า ผอ.รพ.สนาม จ.ขอนแก่น แห่งที่ 1 (หอพัก 26 มหาวิทยาลัยขอนแก่น) ร่วมรับมอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์และอาหารพร้อมทาน จาก นางสาวกมลชนก ธนะสูตร ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ,นายยุทธชัย คงสมมาตร ผู้แทน บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ พร้อมชาวซีพีเอฟจิตอาสาจากธุรกิจสุกร จ.ขอนแก่น และนายตันโจ เอี่ยมละออง ผู้จัดการทั่วไป ผู้แทน บริษ้ท ซีพีเอฟเทรดดิ้ง จำกัด เพื่อสนับสนุนแพทย์ พยาบาล และบุคลาการทางการแพทย์ ตามโครงการ “คนไทยไม่ทิ้งกัน” ตามนโยบายเครือเจริญโภคภัณฑ์ และโครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19” ตามนโยบายของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ภายใต้โครงการ “ซีพี ร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19”

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้มีจำนวนผู้ป่วยเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลต่างๆในเขต จ.ขอนแก่น ทิ้งสิ้น 87 คน ในจำนวนนี้มีจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาที่ รพ.สนามขอนแก่น แห่งที่ 1 จำนวน 15 คน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของจำนวนผู้ป่วยที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับการที่คนขอนแก่นให้ความร่วมมือตามคำชี้แนะของหน่วยงานภาครัฐในเรื่องของการปฎิบัติตนจากสถานการณ์ที่เกิดขึนทำให้ภาพรวมทั้งจังหวัดการ์ดไม่ตกและสามารถที่จะควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามขณะนี้การดำเนินงานเชิงรุกในเรื่องของการรณรงค์ให้คนขอนแก่นนั้นเข้าถึงการรับวัคซีนตามนโยบายที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งแผนงานที่ทางจังหวัดกำหนดไว้คือตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป้นต้นไปในการเตรียมให้บริการวัคซีนของแอสต้าซิเนก้าที่จะต้องครอบคลุมประชากรชาวขอนแก่นไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 หรือประมาณ 1.4 ล้านคน ซึ่งขณะนี้คณะทำงานได้ปีับแผนงานตามแนวทางที่รัฐบาลกำหนด โดยทันทีที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนเข้ามาในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.การฉีดวัคซีนจะต้องทำทันที

” ขณะนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายสาธารณสุขนั้นได้บริหารจัดการงานด้านบุคลากรทางในเรืื่องของการรักษาผู้ป่วย การเฝ้าระวัง การควบคุมป้องกันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่จะต้องเดินหน้าอย่างเข้มงวดต่อไป เช่นเดียวกันกับภารกิจใหม่ที่จัดเป็นวาะรแห่งชาติในเรื่องของการฉีดวัคซีน เดิมจังหวัดกำหนดจุดฉีดวัคซีนไว้ทั้งจังหวัด 40 จุด แต่ขณะนี้มีการปรับแผนหรือการกระจายพื้นที่ฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงในเรื่องของการรวมตัวกันของคนจำนวนมาก แต่ทุกจุดจะต้องเป็นไปตามาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เนื่องจาก 1 คนที่จะเข้ารับัคซีนนั้นจะใช้เวลาในขั้นตอนการฉีดประมาณ 4 นาที และพักรอ 36 นาที ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ระบบการส่งต่อหรือการเผชิญกับสถานการณ์ที่จะต้องนับมือจะต้องชัดเจนและเป็นไปอย่างรวดเร็ว”

ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ระยะเวลาที่กำหนดไว้ คือ 3 เดือนจะต้องแล้วเสร็จทั้งจังหวัดเป็นแนวทางที่จังหวัดได้กำหนดขึ้น ซึ่งจากการประเมินจุดห้บริการวัคซีนที่กำหนดไว้นั้นพบว่า ขั้นต่ำต่อจุดที่จะให้บริการวัคซีนได้คือ 1,200 คนต่อวัน และจุดที่มากที่สุดคือ 4,000 คนต่อวัน ภายต้การบริหารจัดการเวลาและการให้บริการที่เป็นไปตามมาตรฐานด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันยังคงมีการหารือในการให้บริการวัคซีนแบบไดร์สทรู รวมไปถึงการเปิดโอกาสให้ผู้ที่เข้ามาในขอนแก่น หรือผู้ที่อาศัยอยู่ที่ขอนแ่กน แต่ไม่มีทะเบียนบ้านที่ขอนแก่นนั้นสามารถที่จะขอรับการฉีดวัคซีนได้ที่ขอนแก่นตามนโยบายของรัฐบาลที่ใครๆก็สามารถฉีดวัคซีนได้ ซึ่งทันทีที่วัคซีนมาถึง คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อและคณะทำงานด้านวัคซีนพร้อมที่จะให้บริการทันทีจึงขอให้ในระยะนี้ผู้ที่จะรับวัคซีนจากรัฐขอให้ลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านระบบหมอพร้อมหรือขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานทาการแพทย์ใกล้บ้าน