นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายแพทย์ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย และ พญ.นภาพร สิงขรเขียว รองผอ.ฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลเลยร่วมแถลงข่าวสถานการณ์ โควิด-19
นพ.ปรีดา เปิดเผยว่า ล่าสุดจังหวัดเลยพบผู้ป่วย โควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 5 ราย เป็นรายที่ 19-23 รายแรก โดยรายที่ 19 เป็นเพศชายอายุ 20 ปี นักศึกษา ชาวจังหวัดหนองบัวลำภู เกิดอุบัติเหตุและเข้าพักรักษาตัวที่ รพ.ผาขาว และส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลเลย ระหว่างรักษาได้รับการตรวจพบเชื้อโควิด-19 รายนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 10 ราย เสี่ยงต่ำ 54 ราย รวมบุคคลากรทางการแพทย์ด้วย ซึ่งได้นำเจ้าระบบการกักตัวแล้ว
รายที่ 20 เป็นเพศหญิง อายุ 50 ปี อาชีพแม่บ้าน อยู่ในอ.ด่านซ้าย เป็มารดาของผู้ป่วยรายที่ 17 ซึ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และตรวจพบเชื้อระหว่างกักตัว เข้ารับการรักษาแล้วที่รพ.ด่านซ้าย
รายที่ 21-22 เป็นเด็กหญิง อายุ 5 ปี และเด็กหญิงอายุ 2 เดือน ตามลำดับ เป็นคนในครอบครัวของรายที่ 17 ซึ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และพบติดเชื้อระหว่างกักตัว เจ้าหน้าที่พาเข้ารักษาตัวที่รพ.ด่านซ้าย ไม่มีอาการผิดปกติ
ส่วนรายที่ 23 เป็นเด็กชายอายุ 3 ขวบ อยู่ในพื้นที่ต.นาโป่ง อ.เมือง ก่อนหน้านี้ เดินทางไปเยี่ยมแม่ที่กรุงเทพมหานคร ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้รับเชื้อกลับมา จากนั้นมีอาการไข้จึงเข้ารับการตรวจที่รพ.เลย ในวันที่ 18 เมษายน 2564 และพบเชื้อ เข้ารักการรักษาตัวที่ รพ.เลย รายนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 3 ราย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ
นพ.ปรีดา ยังเปิดเผยอีกว่า ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนรอบแรก ยังไม่พบว่ามีอาการแพ้ หรือผิดปกติ ในขณะที่วัคซีนรอบที่สองจะถึงจังหวัดเลยในวันที่ 20 เมษายน 2564 ซึ่งจะเริ่มฉีดในวันที่ 21 เมษายน 2564 โดยจะทำการฉีดให้กับบุคคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าก่อน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากที่สุด
ด้าน พญ.นภาพร สิงขรเขียว รองผอ.ฝ่ายการแพทย์ กล่าวย้ำว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ รพ.เลย 15 คน ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ หรือมีเพียงไข้ต่ำเท่านั้น ไม่ได้ให้ยาต้านไวรัส ส่วนบุคคลากรทางการแพทย์ของรพ.เลย ที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงกับรายที่ 19 นั้น ขณะนี้นำเข้าสู่กระบวนการทั้งหมดแล้ว
ขณะที่ นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวย้ำว่า จะมีการนำข้อมูลสถานการณ์ล่าสุดมาวิเคราะห์ เพื่อหามาตรการป้องกันโควิด-19 ที่เหมาะสมให้กับชาวจังหวัดเลย ทั้งนี้ยืนยันว่ส จะการประเมินสถานการณ์ กระบวนการทางการแพทย์ของจังหวัดเลยมีความพร้อม สามารถรองรับได้ รวมถึงอุปกรณณ์ทางการแพทย์ และเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยก็มีความพร้อมเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือ ประชาชนชาวจังหวัดเลย ร่วมกันเฝ้าระวังสังเกตุอาการตนเอง และคนรอบตัวอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะช่วงหลังสงกรานต์ 28 วัน หากพบอาการผิดปกติให้รีบแจ้งทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อสม. ทันที และขอความร่วมมืออย่าผิดบังข้อมูล เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการป้องกันโรค และขอความร่วมมือทุกคนช่วยกันปฏิบัติตามหลักสาธารณสุข ทั้งการสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด
ดำรงค์ รักษ์จรรยาวงศ์/ จ.เลย