ขอนแก่น-ศิษยานุศิษย์แสดงมุทิตาจิต “หลวงปู่บุญพร้อม” ครบรอบ 75 ปี 55 พรรษา วัดถ้ำพระ

เมื่อวันที่ 20 มี.ค.64 ที่สำนักสงฆ์ วัดถ้ำพระ บ้านขามป้อม อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น นางสุภาวดี ศรีสุขวัฒน์ นายอำเภอชุมแพ จ.ขอนแก่น นำคณะศิษยานุศิษย์ และประชาชน ในเขตอำเภอชุมแพและพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 1000 คน รวมถึงพระสงฆ์จากวัดต่างจำนวน 35 รูป ร่วมแสดงมุทิตาจิตเนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิด อายุวัฒนมงคล 75 ปี หลวงปู่บุญพร้อม หาสจิตโต ซึ่งเป็นพระสุปฏิปันโน ยึดพระธรรมวินัยเป็นหลัก เป็นสมณผู้มีเมตตา โดยคณะลูกศิษย์ น้อมกราบบูชาคุณ ให้มีธาตุขันธ์ แข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ ธรรม สืบต่ออายุพระพุทธศาสนา ให้เจริญด้วยศีลธรรม สมาธิธรรม และปัญญาธรรม มั่นคงสืบไป ซึ่งภายงานงานแสดงมุฑิตาจิตมีการวัดอุณหภูมิ ใช้เจลล้างมือผู้ที่มาร่วมงานตามมาตรการการป้องการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด

พระครูสาธุธรรมกิตติ์ ( หลวงปู่บุญพร้อม หาสจิตโต) ได้เขียนประวัติความเป็นมาของ ถ้ำพระ แต่อดีตถึงปัจจุบัน ไว้ว่า ถ้ำพระ เป็นศาสนสถานเก่าแก่อีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในเทือกเขาภูเวียงฝั่งนอกด้านทิศใต้ ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอชุมแพ โดยมีอุทยานแห่งชาติภูเวียงครอบคลุมอยู่ อยู่สูงขึ้นไปจากเชิงเขาประมาณ 400 เมตร มีพระพุทธรูปอยู่ในซอกหินใหญ่คล้ายถ้ำ เมื่อประมาณ 100 ปีที่ผ่านมา มีชาวบ้านมาจับจองบุกเบิกที่ทำนา และตั้งเป็นหมู่บ้านขึ้น ชื่อบ้านขามป้อม ประมาณ พ.ศ.2445 คงมีใครขึ้นไปพบพระพุทธรูปปรากฎอยู่ จึงพากันเรียกว่าถ้ำพระ ถ้าจะย้อนไปในอดีตของถ้ำพระคงยาวนาน เพราะมีร่องรอยเกี่ยวโยงไปถึงข้างบนภูด้วย คือทุ่งกะฏิ ภูแห่ และพระไสยาสน์ โดยมีนักโบราณคดีได้มาสำรวจ พระไสยาสน์ ปรากฎว่าสร้างขึ้นในสมัยทวารวดี เมื่อ 1400 ปีที่ผ่านมา พระพุทธรูปที่ปรากฎในถ้ำพระ ก็คงเป็นคนในสมัยนั้นทำมาไว้ด้วย เพราะเป็นทางสัญจรไปมาของเขา

ต่อมาจึงมีคนรุ่นใหม่ได้ทำเพิ่มเติมไว้บูชา เป็นพระไม้ เขาสัตว์และหิน เนื่องจากไม่มีใครดูแลรักษา จึงสูญหายไปตามกาลเวลา ทั้งปลวกกัดกิน และคนเอาไป จึงเหลืออยู่ไม่กี่องค์ เมื่อมาถึงกึ่งพุทธกาล พ.ศ.2500 ได้มีพระครูธรรมธร (หลวงปู่เขียน ชุติกาโม) วัดสว่างอารมณ์ ได้ขึ้นมาปรับปรุงระเบิดก้อนหินออกให้พื้นที่กว้างขึ้น พอมีที่ให้พระได้นั่งสวดมนต์ เมื่อถึงรอบปีจะขึ้นมาสรงน้ำพระถ้ำ จนกระทั่ง พ.ศ.2549 พระครูสาธุธรรมกิตติ์ (บุญพร้อม หาสจิตโต) ซึ่งเป็นลูกศิษย์ลูกหลานของท่าน ได้ขึ้นมาอยู่จำพรรษารูปเดียวเรื่อยมา อยู่ 4 ปี ถึง พ.ศ.2552 จึงได้มีโครงการพุทธอุทยาน ออกมาจากกรมอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ และมหาเถระสมาคมฝ่ายสงฆ์ มีความเห็นพ้องกันให้พระอยู่ เพื่อจะได้ช่วยอนุรักษ์ป่าในเขตอุทยาน ซึ่งขณะนั้นเป็นโครงการใหม่ทั่วประเทศ เนื่องจากได้อยู่จำพรรษาตลอดในช่วงจะมีโครงการออกมาจึงไม่ตกสำรวจ จึงได้ชื่อว่า ที่พักสงฆ์ถ้ำพระ อย่างถูกต้อง ก่อนทำการก่อสร้างปรับปรุงถ้ำ ให้เป็นที่อาศัยประกอบศาสนกิจและทำอื่นๆอย่างที่ปรากฎอยู่ในปัจจุบัน