ร้อยเอ็ด(ชมคลิป)อดีตลูกสะไภ้เดือด หลังถูกไล่ให้ออกจากบ้าน พาพวกบุกทุบกำแพงห้องนอนแม่ผัวพังยับเยิน

วันที่ 6 มีนาคม 2564 ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง ได้โพสภาพและข้อความว่า “ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่12 ตำบลหนองแวงควง อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด บุกเข้าทุบบ้านได้รัยความเสียหาย  จะต้องทำยังไงต้องร้องเรียนที่ไหน…ใครรู้แนะนำหน่อย ช่วยแชร์ให้เรื่องถึงที่สุดหน่อยค่ะ” โดยหลังจากโพสถูกเผยแพร่ออกไปต่างก็มีผู้คนในโลกโซเชียลเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ  เลขที่ 81 หมู่ 12 ตำบลหนองแวงควง อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านของนางหวด สวัสดิ์แวงควง อายุ 63 ปี  แต่เจ้าตัวไม่อยู่บ้าน พบนางยุพาภรณ์   สวัสดิ์แวงควง อายุ 31 ปี บุตรสาว  พาไปดูร่องรอยความเสียหายที่มีรอยถูกทุบห้องขนาด 3 ×5 เมตรซึ่งิยู่ด้านหลัง พบเศษการทุบกำแพงคอนกรีต  พื้นกระเบื้อง อละฝ้าเพดานกระจุยกระจาย โดยเฉพาะกำแพงห้องของนางหวด เจ้าของบ้านถูกทุบพังเกือบทั้งแถบ เศษชิ้นส่วน ปูน อิฐ ทับที่นอน หมอน และเครื่องใช้ต่างๆ

นางยุพาภรณ์ เปิดเผยว่า   ผู้ก่อเหตุเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และเป็นอดีตพี่สะไภ้ ซึ่งได้อย่าร้างกับสามีซึ่งเป็นพี่ชายของตนมาประมาณ 1 ปี แต่แม่ก็ยังมีน้ำใจให้อดีตพี่สะใภ้อาศัยอยู่ที่บ้าน เพราะยังไม่มีที่อยู่อาศัยใหม่ อีกทั้งอดีตพี่สะไภ้ยังดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านอีกด้วย  หากอดีตพี่สะไภ้ย้ายออกจากทะเบียนบ้าน ก็จะหลุดจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทันที

จากนั้นคนภายในบ้านก็ใช้ชีวิตตามปกติ โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับอดีตพี่สะใภ้ ซึ่งอดีตพี่สะใภ้ก็จะออกจากบ้านไปตอนกลางวัน แล้วกลับเข้ามานอนที่บ้านอีกทีในช่วงดึก  ต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่ อบต. เข้ามาถ่ายรูปบ้านแม่ก็งง และถามว่าถ่ายไปทำไม เจ้าหน้าที่แจ้งว่า มีคนไปยื่นเรื่องขอเลขที่บ้าน ซึ่งเป็นห้องนอนของอดีตพี่สะใภ้ ที่ขอต่อเติมกั้นเป็นห้องนอนเพียงห้องเดียว ซึ่งอยู่ภายในโฉนดที่ดินของแม่ตน จะออกเลขที่บ้านทำไมในเมื่อเป็นบ้านของตัวเองอยู่แล้ว ทาง อบต. จึงได้แสดงเอกสาร ซึ่งเป็นของแม่ให้ดู ซึ่งมีสำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน ที่มีลายเซ็นชื่อแม่กำกับ แต่แม่ยืนยันว่าตนไม่ได้เซ็นเอกสารเหล่านี้ ซึ่งมาทราบภายหลังว่าอดีตพี่สะใภ้เป็นคนนำเอกสารไปยื่น โดยการปลอมลายเซ็นแม่ ทำให้แม่โกรธมาก จึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองแวงควง พร้อมทั้งแจ้งขอให้อดีตพี่สะใภ้ออกจากบ้าน ภายใน 7 วัน คือในระหว่างวันที่ 26 ก.พ. – 4 มี.ค. 64 ซึ่งทางตำรวจก็ได้เรียกตัวอดีตพี่สะใภ้มารับทราบการข้อกล่าวหา และยอมรับต่อหน้าตำรวจว่าเป็นคนเอาเอกสารของแม่ไปปลอมลายเซ็นเอง และได้พูดคุยตกลงกันว่า หากอดีตพี่สะใภ้ย้ายออกจากบ้าน ก็ให้ทุบห้องของอดีตพี่สะไภ้ออกด้วย เนื่องจากเขาเป็นคนสร้างเอง ซึ่งทางคุณแม่และครอบครัวเราก็ยินดีที่จะทุบออก พร้อมกับเซ็นรับทราบข้อตกลงกันทั้ง 2 ฝ่าย ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ

วันที่ 24 ก.พ.2564 อดีตพี่สะใภ้ได้เก็บของย้ายออกจาก ครอบครัวของตนจึงได้ทำการทุบห้องขออดีตพี่สะไภ้ออกไป เหลือแต่พื้นกระเบื้องและฝ้าเพดาน ส่วนวงกบประตูหน้าต่างที่ทุบออก ก็เก็บไว้รอให้อดีคพี่สะไภ้มาขนเอา  แต่ต้องขออนุญาตก่อนเข้าบ้าน ถ้าเลยกำหนดวันเวลาตามที่ตกลงกันไว้

วันที่ 6 มี.ค. 64 ช่วงบ่าย ไม่มีคนอยู่บ้าน พ่อกับแม่ก็ไปทุ่งนา พอกลับบ้านมาก็พบว่า กำแพงของห้องนอนแม่ซึ่งกั้นระหว่างห้องของอดีตพี่สะใภ้ถูกทุบจนพังยับ ข้าวของในห้อง เตียงนอนของแม่ก็พังเละเทะไปด้วยก้อนอิฐ ซึ่งก็พบว่าอดีตพี่สะใภ้ได้พาชาย 2 คน มาทุบทำลายข้าวของในบ้าน อย่างไม่มีเยื่อใยซึ่งถือเป็นการบุกรุกเข้ามาในช่วงที่ไม่มีใครอยู่บ้าน และเกินวันเวลาที่ได้แจ้งความเอาไว้

ขณะที่นางสาวยุพาพรเตรียมพาแม่ ซึ่งติดธุระ ไปงาน แต่งงาน ที่ต่างอำเภอกลับมา เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธร แรงควง เพื่อดำเนินการ ตามกฎหมายต่อไป


วินัย วงศ์วีระขันธ์ ร้อยเอ็ด