มหาสารคาม(ชมคลิป)สุดเศร้าแพทย์ดูแลคนป่วยโควิดตัวเองติดด้วยจนวาระสุดท้าย

เศร้าสูญเสียบุคลากรทางการแพทย์ รายแรกของจังหวัดมหาสารคาม ขณะที่ลูกชายเผย คุณพ่อเป็นแพทย์ที่ชอบช่วยเหลือคนไข้อนาถาฝากขอบคุณที่ชาวมหาสารคามเป็นกำลังใจจนวินาทีสุดท้าย
วันที่ 18 กุมถาพันธ์ 2564 เวลา 13.00 น.ที่มูลนิธิคุณวีโรกุศลสงเคราะห์ (เอ็ง เต็ก ตึ๊ง) ต.ท่าขอนยาง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ซึ่งจัดเป็นสถานที่เคารพศพ นายแพทย์ปัญญา หาญพาณิชย์พันธุ์ ผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 18 ของการระบาดระลอกใหม่ ของจังหวัดมหาสารคาม มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 รายที่ 2 รายที่ 9 และรายที่ 11 ของจังหวัดมหาสารคาม ก่อนที่ทั้ง 3 รายจะแสดงอาการชัดเจน โดยทราบว่าเมื่อวันที่ 28 มกราคม ผู้ป่วยรายที่ 2 ยืนยันติดเชื้อโควิด-19 จากนั้นได้ปิดคลินิกทันที และเริ่มกักตัวแยกห้องนอน วันที่ 29 มกราคม เข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งแรก ผลปรากฏไม่พบเชื้อ ต่อมาวันที่ 31 มกราคม มีอาการปวดเมื่อกล้ามเนื้อ ครั่นเนื้อครั้งตัว และมีไข้ จึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 รอบ 2 ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ผลปรากฎว่าติดเชื้อโควิด-19 ก่อนเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาสารคาม โดยอาการขณะนั้นยังอยู่ในเกณฑ์ดี แพทย์ได้ให้ยาและดูแลอย่างใกล้ชิด ต่อมาได้รับส่งตัวต่อไปรักษายังโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนที่คุณหมอจะเสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. ของวันนี้ ( 18/02/64) ซึ่งถือว่าแพทย์ท่านนี้เป็นแพทย์คนแรกในประเทศที่เสียชีวิตจากโรคโควิด-19
ทั้งนี้ นายแพทย์ปัญญา หาญพาณิชย์พันธุ์ มีอายุ 66 ปี เกิดเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2498 เริ่มรับราชการ 1 เมษายน 2523 เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลมหาสารคาม และเป็นหัวหน้ากลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลมหาสารคาม ในปี 2528 และเป็นคณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลมหาสารคาม ตลอดชีวิตการรับราชการจำนวน 35 ปี ชีวิตการรับราชการที่โรงพยาบาลมหาสารคาม ของท่านเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความใส่ใจที่มีให้กับคนไข้ ความรักที่มีให้ต่อทุกคนรอบข้าง โดยท่านท่านเกษียณอายุราชการ เมื่อ ปี 2558 หลังจากนั้น ยังคงให้การรักษาคนไข้ในคลินิกส่วนตัว ด้วยความรักและ ใส่ใจ ต่อเนื่องมาตลอด ซึ่งคุณหมอสามารถจดจำคนไข้ได้ทุกคน หากเจอคนไข้นอกคลินิกก็จะมีการถามสารทุกข์สุขดิบ และพูดคุยอย่างเป็นกันเองเสมอ
โดยบรรยากาศภายในงานมีญาติ และเพื่อนข้าราชการ แพทย์ พยาบาลที่ทราบข่าว ทยอยเดินทางมาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง โดยผู้เข้าร่วมงานทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัย และวัดอุณหภูมิคัดกรองก่อนเข้าร่วมงาน พร้อมลงชื่อเข้าร่วมงานที่จุดลงชื่อ หรือลงชื่อผ่าน QR code มีการเว้นระยะห่างระหว่างผู้เข้าร่วมงานทุกคนอย่างน้อย 2 เมตร ไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีประวัติเสี่ยงตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ผู้เข้าร่วมงานเคารพศพเฉพาะจุดที่กำหนดไว้เท่านั้น จากนั้นจะทำการเคลื่อนย้ายศพไปฌาปนกิจที่ วัดกลางโกสุม อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ทันที
สำหรับบรรยากาศภายในงานมีรายงานว่า ญาติและเพื่อนข้าราชการ แพทย์ พยาบาลที่ทราบข่าว ทยอยเดินทางมาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง โดยผู้เข้าร่วมงานทุกคนจะต้องสวมหน้ากากอนามัย และวัดอุณหภูมิคัดกรองก่อนเข้าร่วมงาน พร้อมลงชื่อเข้าร่วมงานที่จุดลงชื่อ หรือลงชื่อผ่าน QR code มีการเว้นระยะห่างระหว่างผู้เข้าร่วมงานทุกคนอย่างน้อย 2 เมตร ไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีประวัติเสี่ยงตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ผู้เข้าร่วมงานเคารพศพเฉพาะจุดที่กำหนดไว้เท่านั้น และในเวลา 14.00 น.มีเคลื่อนศพออกจาก ที่มูลนิธิคุณวีโรกุศลสงเคราะห์ (เอ็ง เต็ก ตึ๊ง) ต.ท่าขอนยาง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ไปฌาปนกิจที่ วัดกลางโกสุม อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ของวันนี้ 18 กุมภาพันธ์ 2564 ใน เวลาประมาณ 15.30 น.

ด้านนางจิตตินนุช หาญพาณิชย์พันธุ์ ภรรยานายแพทย์ปัญญา กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ซึ่งถือว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ตอนนี้ครอบครัวอยู่ระหว่างทำใจ แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ก็อยากจะขอให้ประชาชนทุกคนดูแลสุขภาพ การ์ดอย่าตก และปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลสุขภาพ เพื่อป้องกันความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ครอบครัวได้ทราบถึงกระแสการให้กำลังใจแก่สามีแล้ว ตนรู้สึกตื้นตันใจมาก ไม่คิดว่าจะมีพี่น้องชาวจังหวัดมหาสารคามรักและระลึกถึงสามีตนมากขนาดนี้ จึงขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
นายปานปราชญ์ หาญพาณิชย์พันธุ์ บุตรชายนายแพทย์ปัญญา กล่าวว่า คุณพ่อเป็นแพทย์ที่ชอบช่วยเหลือคนไข้ไม่เว้นแม้อนาถา เวลาที่ใครมารักษากับคุณพ่อ ท่านก็จะดูแลคนไข้เต็มที่ทั้งที่โรงพยาบาลและที่คลินิก แม้ว่าอาการติดเชื้อของ covid-19 จากการตรวจคนไข้ จะนำมาสู่การเสียชีวิตของคุณพ่อ แต่ก็ถือว่าท่านได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดและเต็มภาคภูมิของความเป็นแพทย์ จนวาระสุดท้าย ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจคุณพ่อจนถึงวินาทีสุดท้าย ขอบคุณจากใจ จากครอบครัวของนายแพทย์ปัญญา หาญพาณิชย์พันธุ์ ที่จำได้ขึ้นใจว่า พ่อรักษาคนไข้ให้พระภิกษุฟรีไม่เก็บเงิน