นครพนม(ชมคลิป)ชาวบ้านปลากระชังสุดช้ำใจ กำลังจะเก็บขายปีใหม่ น็อคน้ำตายเกลื่อนเสียหายกว่า 10 ตัน วอนรัฐช่วยเหลือ


วันที่ 2 มกราคม 64 ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำสงคราม บ้านหาดกวด หมู่ 13 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นายนายปิยะ อาจสัญจร ประมงอำเภอท่าอุเทน พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน ได้รับแจ้งจากผู้ที่เลี้ยงปลากระชังตามริมแม่สงคราม น็อกน้ำตาย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาพน้ำ รวมถึงอุณหภูมิในน้ำ เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทำให้ ปลาในกระชัง ขาดออกซิเจน น็อกน้ำตาย โดยเฉพาะเกษตรกร ในพื้นที่ บ้านหาดกวน หมู่ 13 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม กำลังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหา ปลานิล ที่เลี้ยงในกระชัง ในลำน้ำสงคราม น็อกน้ำตาย เบื้องต้นจากการตรวจสอบ มีเกษตรกร ได้รับผลกระทบ กว่า 2 ราย มีปลานิลในกระชัง ที่เลี้ยงไว้ ประมาณ 3- 5 เดือนน้ำหนัก ตัวละประมาณ 1 – 1.2 กิโลกรัม ลอยตายเต็มกระชัง รวมไม่ต่ำกว่า 10 ตัน รวมมีปลานิลในกระชัง ลอยตาย คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท เนื่องจากมีราคาซื้อขาย ประมาณกิโลกรัมละ 50 -60 บาท ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นปลานิล ที่กำลังจะนำส่งขายสู่ตลาดช่วงเทศกาลปีใหม่ รอ พ่อค้า แม่ค้า มารับซื้อ ส่งผลให้เกษตรกร ขาดทุนหนัก บางรายถึงขั้นนั่งร้องไห้ เนื่องจากต้องแบกภาระหนี้สิน ในการลงทุน ทั้ง ค่าหัวอาหาร ค่าวัสดุทำกระชัง ลงทุนรายละ ประมาณ รายละ 4 – 5 แสนบาท บางรายยังไม่ได้จ่ายค่าหัวอาหาร รอขายปลา แต่มาฝันสลาย ต้องนำปลาที่ตายไปทำปลาร้า และนำไปทำปุ๋ยหมักแทน


ด้าน นางสมดี บุญยะศรี อายุ 54 ปี เกษตรกรเลี้ยงปลากระชัง เปิดเผยว่า ช่วง 1- 2 วันที่ผ่านมา อากาศเย็นอุณภูมิ 8 – 10 องศาและน้ำสงครามลด น้ำไม่ไหล ปลากระชัง ปลานิล ตลอดลำน้ำสงคราม ในพื้นที่ ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เกิดน็อกน้ำลอยตาย เพราะสภาพน้ำเปลี่ยนแปลง มีอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ปลาปรับสภาพไม่ทัน ลอยตายหมดเกือบทุกระชัง เฉพาะของตน หลาย 6 ตัน ตายหมด ปลารุ่นนี้มีขนาดใหญ่ กำลังจะส่งขายสู่ตลาดในช่วงเทศกาลปีใหม่ น้ำหนักประมาณตัวละ 1 – 1.2 กิโลกรัม รอส่งขายพ่อค้า แม่ค้า กิโลกรัมละ ประมาณ 50 -60 บาท ต้องขาดทุนหนักบางรายลงทุนรายละ 3 – 4 แสนบาท หวังว่าจะขายปลาไปใช้หนี้เครดิตหัวอาหารมาเลี้ยงปลา สุดท้ายฝันสลาย เดือดร้อนหนัก ซ้ำเติมคนจนเข้าไปอีก ยิ่งเศรษฐกิจซบเซา ต้องขนเอาซากปลาตายไปทำปลาร้าบางส่วน บางส่วนมาคนมาช่วยรับซื้อไปทำปลาร้า กิโลกรัมละ 3 บาท บางส่วนนำไปทำปุ๋ยหมัก เพราะเน่าเสียหมด ไม่สามารถนำไปขายตามปกติได้ วิงวอนไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง และรัฐบาลหาทางช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ต้องแบกภาระหนี้สิน


ด้านนายปิยะ อาจสัญจร ประมงอำเภอท่าอุเทน กล่าวว่า ปลากระชังที่ บ.หาดกวน ตายเสียหาย หาสาเหตุ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า มาจากปัญหาสภาพน้ำสงครามเริ่มลด อากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลัน ทั้งอุณหภูมิในน้ำ รวมถึง ค่าออกซิเจนในน้ำต่ำ ส่งผลให้ปลานิลในกระชังขาดออกซิเจนน็อกน้ำลอยตาย โดยได้แจ้งเตือนให้เกษตรกร ชะลอการเลี้ยง รวมถึงลดปริมาณปลานิล ต่อกระชังให้น้อยลง เพื่อให้มีออกซิเจนเพียงพอ ส่วนการเยียวยาช่วยเหลือ อยู่ระหว่างการพิจารณาจากหน่วยงานเกี่ยวข้องต่อไป “วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นผู้เลี้ยงต้องนำเครื่องเพิ่มออกซิเจนใส่ในทุกกระชัง หลังสำรวจพบแพลนตอนพืชมีสีเขียวในน้ำ ก่อนดูดเอาออกซิเจนแย่งอากาศเอาไปหมดในช่วงกลางคืนตั้งแต่ 18.00 น. ถ้าแดดไม่ส่องในช่วงกลางวันปลาก็ขาดอากาศโดยอัตโนมัติ อีกทั้งของเสียและกากอาหารขี้ปลาจำนวนมาก ไหลระบายไหลลงแม่น้ำโขงไม่ทัน จึงได้รับผลกระทบดังกล่าว”

ประทีป วชิระธัญญากุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดนครพนม