อุดรธานี(ชมคลิป)”ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” เสี่ยเต้ย 50 ล้าน ทำบุญบูรณปฏิสังขรณ์วัด สร้างเมรุ สุดท้ายได้เผาตัวเองก่อนคนอื่น

“สุดท้ายตนเองก็ได้มาใช้”​ เจ้าอาวาสวัดเทพสถิตนิมิตมงคล บ้านคำบอน​สั่งลูกศิษย์ทำความสะอาดเมรุเผาศพ “เสี่ยเต้ย” ที่เป็นคนสร้างถวาย
เมื่อเวลา16.00น วันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ที่วัดเทพสถิตนิมิตมงคล ม.4 บ.คำบอน ต.หนองแสง อ.หนองแสง จ.อุดรธานี พระอาจารย์ทองพูน สิริวัณโณ อายุ 50 ปี เจ้าอาวาสวัด ได้ให้ลูกศิษย์วัด ทำความสะอาดเมรุเผาศพ เพื่อจะใช้ประกอบพิธีฌาปนกิจศพ นายสมภาร สุรัญกุล อายุ 41 ปี หรือเสี่ยเต้ย อดีตสามี นางวรรณลี ปัญญาใส อายุ 48 ปี หรือ “เจ๊อ๋อ 90 ล้าน” ในวันที่ 25 พฤศจิกายน นี้ รวมถึงสำรวจบริเวณที่จะบรรจุอัฐิธาตุ ซึ่งอยู่ใกล้กับธาตุบรรจุกระดูกของพ่อและแม่ “เสี่ยเต้ย” ที่เสียชีวิตไปแล้ว
เนื่องจากเมื่อครั้ง “เสี่ยเต้ย” ยังมีชีวิตได้ มาเป็นเจ้าภาพทอดกฐินและผ้าสามัคคี ร่วมกับชาวบ้านสมทบทุน ในการสร้างเมรุเผาศพให้กับวัด แต่ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ เลยได้มาพบรักกับ“เจ๊อ๋อ 90 ล้าน” จึงพากันมาร่วมสร้างเมรุเผาศพ และ ประตูโขงแห่งที่ 1 จนแล้วเสร็จ แล้วก็มาบูรณะวัดต่อ เช่น สร้างหอระฆัง สร้างประตูโขงแห่งที่ 2 ซ่อมแซมกุฏิพระสงฆ์ และสร้างกำแพงรั้ววัด รวมเป็นเงินประมาณ 1.5 ล้านบาท
พระอาจารย์ทองพูน สิริวัณโณ เจ้าอาวาส เปิดเผยว่า เสี่ยเต้ยเป็นคนริเริ่ม โดยการเป็นเจ้าภาพทอดกฐินและผ้าป่าสามัคคี ร่วมกับชาวบ้าน ในการสร้างเมรุเผาศพ เพื่อให้ชาวบ้านที่เสียชีวิตไปแล้ว จะได้ใช้เมรุเผาศพ เนื่องจากที่วัดแห่งนี้เป็นวัดป่าไม่มีเมรุเผาศพ เมื่อมีคนในหมู่บ้านเสียชีวิต ก็จะนำศพไป ฌาปนกิจศพที่วัดหมู่บ้านอื่น อาตมาจึงมาปรึกษา “เสี่ยเต้ย” จึงตกลงที่จะเป็นเจ้าภาพทอดกฐินและผ้าป่าสามัคคี สร้างเมรุเผาศพถวายให้แก่วัด แต่ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ ต่อมา “เสี่ยเต้ย” ได้แต่งงานกับ “เจ๊อ๋อ” ทั้งสองคนมาร่วมกันสร้างเมรุเผาศพที่วัด จนแล้วเสร็จสมบูรณ์กับประตูโขงแห่งที่ 1 หลังจากทั้ง2 คนถูกหวย90 ล้านบาท ก็มาบูรณะวัดแห่งนี้ต่อ เช่น หอระฆัง ประตูโขงแห่งที่ 2 กุฏิพระสงฆ์ และกำแพงรั้ววัด ดังกล่าว
พระอาจารย์ทองพูนกล่าววา่โดยชีวิตของคน ไม่มีใครหนีพ้นความตาย เพราะการ เกิด แก่ เจ็บ ตาย มันเป็นวัฏสงสาร คือการเวียนว่ายตายเกิด ไม่มีใครหลบหนีพ้นไปได้ “เสี่ยเต้ย” เป็นคนริเริ่มสร้างเมรุเผาศพที่วัดแห่งนี้ได้ไม่กี่ปี สุดท้ายของชีวิตก็มาได้ใช้เมรุที่ตนเองสร้างไว้ จึงขอให้ญาติโยมหมั่นสร้างความดีให้กับสังคม ทำบุญตักบาตรสม่ำเสมอ และเอื้อเฟื้อต่อคนที่ด้อยโอกาส ถือว่าเป็นบุญกุศลอย่างมาก เพราะเมื่อจบชีวิตลง ไม่เคยมีใครที่จะนำทรัพย์สินเงินทองติดตัวไปได้ นอกเสียจาก ความดี และ ความชั่วที่ตนเองสร้างมาเมื่อครั้งยังมีชีวิต”

รัฐธนินท์อุดร