มุกดาหาร(ชมคลิป)ผบช. สตม. ร่วม ผู้ว่าฯ สั่งคุมเข้มชายแดนป้องกันการแพร่ระบาดโควิด- 19

ผบช.สตม. ร่วมผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ตั้งส่วนหน้าคุมเข้มแนวชายแดนป้องกันการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และจัดทำเว็ปไซต์ www.Mukda-savan.com กำหนดให้ลงทะเบียนเพื่อคัดกรองความเสี่ยงและบันทึกข้อมูล ตามมาตรการเฝ้าระวังและ ป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด 19
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 63 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ ผบก.จว.มุกดาหาร, พ.ต.อ.เอกกมนต์ พรชูเกียรติ รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.ชัยยศ วรักษ์จุนเกียรติ รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.ประสิทธิ์ สมใจสงค์ ผกก.ฝอ.6 บก.อก.สตม., พ.ต.อ.พรรณศักดิ์ วรวิบูลย์สวัสดิ์ ผกก.ตม. จว.มุกดาหาร และ พ.ต.อ.สมเกียรติ สนใจ ผกก.ตม.จว.นครพนม ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมคดีสำคัญ 2 คดี
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 เวลาประมาณ 13.25 น. ตม.จว.มุกดาหาร ได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 5 คน ได้แก่ นายพานิช หลาบคำ อายุ 50 ปี (3-3508-00279-69-9) บ้านเลขที่ 24/1 หมู่ 1 ตำบลหนองเอี่ยน อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร (ผู้ขับขี่) นายลำเงิน ลินทะสอน อายุ 35 ปี สัญชาติลาว นายดวง สุลิยะวงสา อายุ 25 ปี สัญชาติลาว นางแจ่ม สุลิยะมาด อายุ 21 ปี สัญชาติลาว และนางสุขสะหวัน ดวงอะพิจิด อายุ 20 ปี สัญชาติลาว ทั้งหมดถูกับกุมได้ที่ ถนนสมเด็จ-มุกดาหาร บ้านนาคำน้อย ตำบลโพนทราย อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร
พฤติการณ์ในคดี ก่อนเกิดเหตุได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการรับส่งคนลาวบริเวณห้างโรบินสัน เพื่อนำส่งนอกเขตอำเภอเมืองมุกดาหาร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ออกตรวจสอบพบผู้ต้องหาที่ 2 – 4 นั่งรอรถอยู่บริเวณลานจอดรถ จึงได้สังเกตการณ์พบเห็นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาที่ 1 ถูกจับ ได้มาจอดรับผู้ต้องหาที่ 2 – 4 ขึ้นรถไป เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขับติดตามไปจนทันกัน และเรียกให้หยุดรถเพื่อทำการจับกุมตัว โดยผู้ต้องหาที่ 1 รับว่าตนได้รับว่าจ้างจากนายหน้าจากประเทศลาวให้นำคนลาวเข้าไปยังกรุงเทพฯ โดยจ่ายคนละ 1,000 บาท ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 – 4 รับว่า ตนไม่มีงานทำ จึงได้ยอมจ่ายเงินให้นายหน้าที่ฝั่งลาวคนละ 5,000 บาท เพื่อแลกกับการนั่งเรือเข้ามาทำงานในไทย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร ได้แจ้งข้อกล่าวหาซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม และได้กระทำผิด “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนของกลางรถยนต์ส่วนบุคคลยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีโก้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บฉ-3363 มุกดาหาร
ในขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2563 เวลาประมาณ 08.00 น. ตม.จว.มุกดาหาร ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา จำนวน 2 คน ได้แก่ นายวรวุฒิ แข็งฉลาด อายุ 50 ปี (3-3111-01002-97-4) บ้านเลขที่ 105/10 ถ.โนนตาล ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร (ผู้ขับขี่) นางน้ำ ไม่มีนามสกุล อายุ 23 ปี สัญชาติลาว โดยถูกจับกุมที่จุดตรวจบุคคลและพาหนะสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (ขาเข้า) ต.บางทรายใหญ่ อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร
พฤติการณ์ในคดี ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่ ตม.จว.มุกดาหาร ได้ปฏิบัติหน้าที่ประจำสะพานมิตรภาพไทย – ลาวแห่งที่ 2 จังหวัดมุกดาหาร ได้ทำการตรวจบุคคลและยานพาหนะประจำช่องตรวจรถบรรทุก ได้มีผู้ต้องหาที่ 1 ยื่นแสดงเอกสารหนังสือเดินทาง เอกสารอนุญาตรถระหว่างประเทศ โดยแสดงตนเป็นผู้ควบคุมยานพาหนะ และไม่มีผู้ติดตามประจำยานพาหนะ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเอกสารแล้วครบถ้วน จึงได้ประทับตราอนุญาตเข้าราชอาณาจักร หลังจากนั้นรถบรรทุกดังกล่าวจึงเคลื่อนไปยังจุดตรวจของศุลกากร เจ้าหน้าที่ ตม.จว.มุกดาหาร เข้าไปร่วมตรวจยานพาหนะร่วมกับศุลกากร ผลการตรวจสิ่งของไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
จากนั้นจึงได้เข้าไปตรวจภายในห้องผู้โดยสาร ผลตรวจสอบพบ นางน้ำ ไม่มีนามสกุล อายุ 23 ปี สัญชาติลาว หลบซ่อนอยู่บริเวณด้านหลังคนขับ จึงได้เรียกลงมาเพื่อทำการตรวจสอบ ปรากฏว่าไม่มีเอกสารการเดินทางแต่อย่างใด สอบถามนายวรวุฒิ แข็งฉลาด รับว่าตนได้เดินทางออกไปประเทศเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2563 เพื่อไปส่งสินค้าเมื่อส่งเสร็จก็จะเดินทางกลับแต่ระหว่างทางได้พบกับนางน้ำ ฯ ขอติดรถมาด้วยเพื่อจะเดินทางไปจังหวัดอุบลราชธานี จึงได้ให้หลบซ่อนตัวอยู่บริเวณหลังคนขับ เจ้าหน้าที่ ตม.จว.มุกดาหาร และศุลกากร จึงได้จับกุมตัว พร้อมแจ้งข้อกล่าวหากระทำผิด “นำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำการด้วยประการใด ๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และได้กระทำผิด เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สี ขาว-เหลือง หมายเลขทะเทียน 70-2300 อุบลราชธานี จำนวน 1 คัน และ รถพวงบรรทุก สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-4625 อุบลราชธานี จำนวน 1 คัน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. กล่าวว่า มีความห่วงใยการแพร่ระบาดจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยการหลบหนีมาทางช่องทางธรรมชาติ ทางท่านนายกรัฐมนตรีท่านก็ห่วงใยได้กำชับทุกหน่วยราชการ มีการเข้มระดมบูรณาการกำลังกัน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเป็นประธานที่จะควบคุม ส่วนทาง สตม. ให้สั่งตรวจเข้ม โดยเฉพาะประเทศพม่า ขณะนี้น่ากลัว เพราะว่าเรามีชายแดนไทยติดกับประเทศพม่า มีการระดมวางแผนบูรณราการกันที่จะสกัดกั้น จับกุมผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ในรอบเดือนที่ผ่านมามีสถิติตัวเลขประมาณ 4 พันกว่าคน ได้มากักควบคุมโรค ไม่พบการติดเชื้อ แต่เพื่อความไม่ประมาทได้ประสานความร่วมมือ และป้องกันไม่ให้มีการลักลอบ โดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้เข้มงวดกวดขันกลุ่มผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง หรือการลักลอบขนก็พยายามหาวิธีการต่าง ๆ จนสามารถจับกุมได้ในหลายรูปแบบ
ด้าน นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ในประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน จังหวัดมุกดาหารได้มีการเตรียมการป้องกันโดยยกระดับ ความเข้มข้นการป้องกันโควิด 19 ตามพื้นที่แนวชายแดน โดยแต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์อำนวยการส่วนหน้าจังหวัดมุกดาหาร เพื่อควบคุมเผ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดมุกดาหาร 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.ดอนตาล และ อ.หว้านใหญ่ เพื่อกำกับติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอ(ศปก.อำเภอ) และศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคตำบลให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โควิด 19 พร้อมทั้งมีประกาศจังหวัดมุกดาหาร ห้าม ให้ความช่วยเหลือ ให้ที่พักพิง หรือนำพาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษ ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ประกอบมาตรา 18 แห่ง พรก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ระวางโทษ จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับผู้ที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านด่านช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศเพื่อเดินทางเข้ามาพำนักในจังหวัดมุกดาหาร หรือเดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่น ตามข้อกำหนดมาตรา 9 พรก. ฉุกเฉิน ฉบับที่ 12 ในการผ่อนคลายระยะที่ 5 กำหนดให้การเดินทางจากต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักร จำนวน 11 กลุ่ม หรือตามข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งในส่วนที่เกี่ยวกับการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามมาตรการผ่อนคลายที่จะมีข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งเพิ่มเติมในภายหลัง จังหวัดขอให้ดำเนินการตามประกาศจังหวัดมุกดาหารฉบับที่ 31(ลงวันที่ 16 กรกฏาคม 2563) ตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด 19) โดยกำหนดให้ลงทะเบียนในเว็ปไซต์ www.Mukda-savan.com โดยบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลการประเมินตนเองเพื่อคัดกรองความเสี่ยงต่อโรค โควิด 19 ตามที่กฎหมายและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมุกดาหารกำหนด โดยดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชั่น Mukda-savan บนโทรศัพท์มือถือ (Mobile Application) เพื่อประโยชน์ในการเฝ้าระวังและติดตามอาการ ติดตามประวัติการเดินทางและเข้าออกสถานที่และการสอบสวนโรค
ทั้งนี้ นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารยังขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ร่วมประเมินสถานการณ์การควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 จากการสำรวจของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ และประเมินความเสี่ยงด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชั่นหมอชนะ รวมถึงปฎิบัติตามมาตรการ new normal อย่างเคร่งครัด

อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ / มุกดาหาร