ขอนแก่น(ชมคลิป)เตรียมออกหมายจับสาววัยรุ่นเมืองฮิ.หลังหลอกให้สาววัยรุ่นนักเรียนเมืองหมอแคนออมเงินหลอกว่าจะให้ดอกสูงเท่าตัว

 ผู้เสียหายจำนวน 55 คน ที่อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น เข้าให้ปากคำกับทางตำรวจ หลังถูกวัยรุ่นหญิงอายุ 17 ปี หลอกเล่นแชร์แล้วเชิดเงินหนี หากพบเข้าข่ายความผิด ตำรวจจะออกมายจับทันที 

        วันที่ 24 สิงหาคม 2563 หลังจากที่มีการเรียกผู้เสียหายในพื้นที่หนองเรือมาขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีที่นางสาววานิสา สิทธิศักดิ์ อายุ 17 ปี เป็นชาวจังหวัดระยองจัดออมเงินกินดอกขึ้นโดยให้ดอกเบี้ยที่สูงมากเท่าตัว โดยได้มีนักเรียนโรงเรียนหนองเรือวิทยากว่า 55 คน   และนักเรียนจากโรงเรียนจตุรมิตรวิทยาคาร ในเขตพื้นที่ชุมแพ 8 คน เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน แต่ฝั่งของนักเรียนโรงเรียนจตุรมิตรวิทยาคารนั้น ได้แยกเพื่อที่จะไปแจ้งความสถานีตำรวจภูธรชุมแพเพราะว่าสะดวกต่อการเดินทาง

         โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหนองเรือได้ให้ผู้เสียหายทั้งหมดเข้าแจ้งความในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และได้คำการสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อสืบหาต้นทางอีกทีว่านางสาววานิสา สิทธิศักดิ์ อายุ 17 ปี เป็นผู้ก่อเหตุจริงหรือไม่พร้อมทั้งตรวจเช็กสเตรทเมนท์ ถ้าพบว่าเป็นหัวของออมเงินกินดอกจริงก็พร้อมออกหมายจับทันที

         ทางด้านน้องมิ้ล หนึ่งในผู้เสียหายที่ออมเงินกับ นางสาววานิสา โดยตรง เล่าว่า เห็นนางสาววานิสาโพสต์ในเฟซบุ๊กว่าออมเงิน 500 ได้เงินคืน 950 จึงสนใจและได้เงินจริงประมาณ 2-3 รอบ จึงได้ชวนพี่มาจึงได้ออมไปเรื่อยๆจนยอดถึง 30,000 บาท นางสาววานิสาก็ไม่ยอมจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมกับบอกว่าไม่มี ไม่หนีไม่จ่าย ซึ่งเงินจำนวน 30,000 บาท เป็นเงินต้นที่มาจากการออมเรื่อยๆ และหลังจากออมยอด 30,000 บาท ครบวันที่กำหนดก็จะได้ดอกประมาณ 120,000 บาท ซึ่งน้องมิ้ลนั้นได้เล่นออมดอกมาประมาณ 1 เดือนก่อน และได้ออมกับนางสาววานิสาโดยตรงไม่ได้ผ่านตัวแทนแต่อย่างใดสุดท้ายก็ไดฝากถึงนางวานิสาให้ออกมารับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะว่ายอดความเสียหายนั้นเยอะมากเฉพาะในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นก็กว่า 2 ล้านบาท

พ.ต.อ.ภพกร กวินโยธิน ผกก. สถานีตำรวจภูธรหนองเรือ กล่าวว่า ในการสอบสวนเบื้องต้นแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มที่โดนหลอกโดยตรง และ กลุ่มที่สองคือกลุ่มที่โดนหลอกต่อกันอีกทอดซึ่งเป็นนักเรียนโรงเรียนหนองเรือวิทยาคาร จำนวน 13 คน ซึ่งจำนวนผู้เสียหายทั้งหมดที่สามารถรวบรวมรายชื่อมาได้เบื้องต้น 517 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านกว่าบาท ในส่วนการสอบสวนได้ให้พนักงานสอบสวนทั้งหมด แบ่งกับสอบสวนเพื่อที่จะได้เร่งคดีให้เร็วที่สุดก่อนจะดำเนินการตามขั้นตอน ถาเกิดหลังจากการเช็กสเตรทเมนท์เรียบร้อยแล้วพบว่านางสาววานิสา มีความผิดจริงก็พร้อมอนุมัติออกหมายจับทันที.