คนร้ายบุกปล้นคุณตาวัย 63 ปี กลางไร่มันสำปะหลัง บังคำให้หมอบและห้ามมองหน้าและใช้อาวุธไม่ทราบชนิดจี้เข้าไปที่บริเวณหลัง ก่อนคนร้ายจะได้ปุ๋ยไปทั้งหมด 4 กระสอบ
วันที่ 8 สิงหาคม 2563 จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ ว่า เฟิร์น ฟ.ท. โพสต์ข้อความว่า เหตุเกิดที่ บ้านหนองกุงน้อย หมู่ 12 ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น. วันที่ 6 มีคนร้าย ประมาณ 3 คน เป็นผู้ชาย ขับรถกะบะเข้าไปข่มขู่ จี้,ปล้น ตาคำผาย โสโสม ช่วงเวลาประมาณ19:30 คนร้ายได้ขับรถกะบะสี บอลทองหรือบอลเงิน ขับเข้าไปในทุ่งนาของ ตาคำผาย โสโสม ซึ่งนายคำผาย ยุทุ่งนาคนเดียว จากนั้นคนร้ายก็ได้ลงจากรถกะบะมาข่มขู่ จี้,ปล้น ตาคำผาย โสโสม คนร้ายบอกให้ก้มลงพื้นอย่างเดียวไม่ให้มองอะไรเลย จากนั้นคนร้ายก็ได้ขนเอาปุ๋ยไป4กะสอบขึ้นรถกะบะ เเล้วก็บอกตาห้ามหันมา ถ้าหันมาจะจอดรถลงมาฆ่า ตาคำผายก็เชื่อฟัง จากนั้นคนร้ายก็ขับรถออกไป
หลังจากที่มีโพสต์นั้นแชร์ออกไปผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปยัง บ้านหนองกุงน้อย หมู่ 12 ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อพบกับ นายคำผาย โสโสม อายุ 63 ปี ทำอาชีพเกษตรกร อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 12 ต.บ้านค้อ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งที่เกิดเหตุบริเวณไร่มันสำปะหลังที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ภายในไร่ของตาคำผายนั้นจะมีกระต๊อบสร้างขึ้นด้วยไม้ 2 หลัง มีการเลี้ยงวัว และปลูกอ้อย ซึ่งบริเวณถนนดังกล่าวก่อนที่จะเข้าถึงไร่นั้นไม่มีไฟส่องสว่าง
นายคำผาย โสโสม ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงประมาณ 17.00 น. ตนเองได้ขับรถเข้าไปภายในหมู่บ้านเพื่อไปดูแลยายที่มีอาการป่วยอยู่ที่บ้าน หลังจากนั้นช่วงเวลาประมาณ 19.30 น. ตาก็ได้กลับเข้ามาที่ไร่ คนร้ายก็ได้ขับรถตามเข้ามา หน้ารถเปิดเพียงแค่ไฟหรี่เท่านั้น จากนั้นคนร้ายก็ได้บอกตนว่าให้ก้มลง ห้ามมองหน้า ถ้ามองหน้าจะฆ่าปิดปากจากนั้นด้วยอาการตกใจจึงทำตามคำสั่งทุกอย่างคนร้ายก็ได้ขับรถเข้าจอดบริเวณใต้กระต๊อบหลังที่ 1 จากนั้นคนร้าย 1 คนก็ได้เดินมาที่บริเวณด้านหลังและใช้อาวุธไม่ทราบชนิดจี้เข้าไปที่หลัง ส่วนคนร้ายอีก 1 คน ก็ได้แบกกระสอบปุ๋ยที่อยู่ใต้กระต๊อบหลังที่ 2 ห่างกันประมาณ 30 เมตร ซึ่งตอนแรกมีทั้งหมด 6 กระสอบ คนร้ายก็ขนไปเพียงแค่ 4 กระสอบเท่านั้น ปุ๋ยที่คนร้ายเอาไปได้แก่ ปุ๋ยยูเรีย 1 กระสอบ ราคา 550 บาท ปุ๋ย ท๊อปมัน 3 กระสอบ ราคา 770 บาท รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 2,860 บาท จากนั้นคนร้ายอีกคนี่รออยู่บนรถก็ได้พาคนร้ายอีก 2 คน หนีไป
ซึ่งลักษณะการแต่งตัวของคนร้ายก็ได้สวมกางเกงยีน เสื้อยืด สวมโม่งสีเลือดหมู ฟังจากน้ำเสียงจากที่คุณตาได้ยินน่าจะเป็นชาย อายุประมาณ 30-40 ปี มีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด 3 คน หลังจากคนร้ายได้หนีไปแล้วระยะหนึ่งตนก็ได้บอกกับลูกหลานว่ามีคนมาปล้นที่ไร่มัน ตนจึงได้ตั้งข้อสงสัยว่าคนร้ายน่าจะรู้จักเวลาเข้าออกไร่มันเป็นอย่างดี เพราะว่าถ้าเกิดคนร้ายมาก่อนตนก็อาจจะเห็นป้ายทะเบียนรถ ถ้าเกิดขับรถสวนกันตรงทางเข้าไร่มันก็ทำให้สามารถเห็นป้ายทะเบียนได้ แต่ถ้าเกิดขับรถตามแทบไม่มีโอกาศให้จำป้ายทะเบียนเลย
โดยก่อนหน้านี้คุณตาคำผาย ก็เคยถูกคนร้ายเข้ามาขโมยข้าวเปลือกแล้ว 1 ครั้ง เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมคนร้ายและดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว ส่วนครั้งนี้หลังจากเกิดเหตุและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งก็ได้มีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี