เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ รอง ผบก.ภ.จ.อุบลราชธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรสิทธิ์ สุทธิพันธุ์ ผกก.สภ.วารินชำราบ ,พ.ต.อ.ชาญชัย อินนรา ผกก.กก.สส.ภ.จ.อุบลราชธานี ร่วมกันแถลงข่าวว่าจากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 18.40 น. วันที่ 3 ก.ค.2563 นายสมพร พรมศรีใหม่ อายุ 47 ปี (ผู้ต้องหาตามหมายจับ) ได้ใช้อาวุธมีดปลายแหลมทำร้ายร่างกาย นายสุธิชัย วัชริน อายุ 22 ปี จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ที่บริเวณหลังห้องน้ำภายในวัดแสนสำราญ ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และนายระหัส บุตรพิน อายุ 33 ปี ถูกแทงที่บริเวณแขนขวาได้รับบาดเจ็บ จากนั้น นายสมพร พรมศรีใหม่ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ขพว- 829 อุบลราชธานี หลบหนีไป
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. วันที่ 6 ก.ค.63 พ.ต.ท.นพดล เปลี่ยนรูป รอง ผกก.สส.สภ.วารินชำราบ สืบทราบว่า นายสมพร พรมศรีใหม่ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้หนีไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบริเวณวัดทุ่งเกษม ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี จึงได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วารินชำราบ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จ.อุบลราชธานี เข้าไปตรวจสอบ พบนายสมพร พรมศรีใหม่ ได้หลบซ่อนอยู่ภายในวัด จึงได้ทำการจับกุมตัว พร้อมด้วยตรวจยึด อาวุธมีดปลายแหลม 1 เล่ม ที่ใช้ก่อเหตุ,รถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุและหลบหนี ,หมวกกันน็อค และเสื้อผ้า ตัวที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตลอดข้อกล่าวหา จึงแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางที่ตรวจยึด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วารินชำราบ 
พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ รอง ผบก.ภ.จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนายทรงเกียรติ บุตรสิงห์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านร้างใกล้วัดแสนสำราญ โดยจะมาใช้ห้องน้ำวัดเป็นประจำ ขณะกำลังจะไปอาบน้ำที่ห้องน้ำภายในวัดแสนสำราญ ได้มีนายสุธิชัยหรือโป้ง วัชริน อายุ 22 ปีและนายระหัส บุตรพิน อายุ 33 ปีซึ่งเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงและเรื่องยาเสพติด เข้ามาทำร้ายทรงเกียรติ ที่บริเวณหลังห้องน้ำวัดแสนสำราญ ขณะที่นายสมพร หรือป้อม พรมศรีใหม่ อายุ 47 ปี กำลังเก็บผักบุ้งอยู่หลังห้องน้ำวัดแสนสำราญ ได้เห็นเหตุการณ์จึงได้เข้ามาช่วยเหลือ ใช้มีดที่เก็บผักบุ้งแทงนายสุธิชัยที่ใต้ราวนมซ้าย 1 แผลเสียชีวิต และแทงนายระหัส บุตรพิน ที่บริเวณแขนขวา 1 แผลได้รับบาดเจ็บ หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปหลบซ่อนตัวที่วัดทุ่งเกษม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าทำการจับกุมพร้อมมีดของกลางที่ใช้ก่อเหตุ นอกจากนี้ได้มอบเงินรางวัลนำจับ จำนวน 5,000 บาท ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
