หนุ่มชัยภูมิหนีสงครามจากต่างแดนนำความรู้จากนายจ้างกลับมาพลิกสวนมันสำประหลังปลูกองุ่นสายพันธุ์นำเข้าจากอิสราเอล ขายออนไลน์ ทำเงินรายได้งามเฉลี่ยบนพื้นที่1งานมีรายได้ปีล่ะแสน
หนุ่มลูกอีสานชาวชัยภูมิ ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล มีสัญญา5ปี แต่ไปทำงานสวนเกษตรได้3ปี ต้องเจอภาวะสงครามสู้รบกันในอิสราเอลต่อเนื่อง อยู่ไม่ได้ หวั่นไม่มีโอกาสได้เจอครอบครัว จึงแอบจดจำวิชาความรู้จากนายจ้างที่ต่างแดน มาอย่างเต็มเปี่ยม กลับเมืองไทย ก่อนจะพาครอบครัว พลิกสวนมันสำประหลังบางส่วน ทำสวนองุ่นตาศักดิ์ ใช้เวลาปลูกอยู่1ปี สามารถเก็บผลผลิตออกขายในชุมชนและทางโลกออนไลน์ ทำเงินเข้าครอบครัวรายได้งาม ตัดครั้งแรกลูกค้าแห่ซื้อและสั่งจองจนไม่พอขาย มีรายได้เฉลี่ยพื้นที่1งานขายองุ่นเฉลี่ยงานล่ะ1 แสนบาท ทางอำเภอ ซับใหญ่เตรียมส่งเสริมเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร หรือแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรเกี่ยวกับผลไม้เมืองร้อนแห่งเดี่ยวของจังหวัดที่ทำได้จริงและเจ้าของสวนยินดีให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวชมสวนและเดินตัดหรือซื้อองุ่นแบบสดๆที่สวนได้เลยโดยไม่หวงวิชาความรู้ใดๆ
สำหรับการปลูกองุ่นซึ่งสวนใหญ่มักจะปลูกกันในที่ที่มีสภาพอากาศที่เย็น แต่ใครจะคิดว่าที่ชัยภูมิซึ่งเป็นพื้นที่ไร่ และนา แถมยังมีสภาพอากาศที่ร้อนสุด แต่ขณะเดียวกัน ที่บ้านหนองใหญ่ ต.ซับใหญ่ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ ได้มีเกษตรกรที่เคยทำไร่มันมาหลายปี และได้ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล ซึ่งเป็นประเทศที่ร้อนทำการเกษตรกลางทะเลทราย หลังศึกษาพอได้ความรู้จึงนำเอาประสบการณ์ในการทำสวนเมืองร้อนกลับมาพัฒนาสวนมันสำประหลังที่บ้านตนเอง เนรมิตพื้นที่ปลูกมันฯให้เป็นสวนองุ่นสายพันธ์ที่นำเข้าจากอิสราเอล เนื่องจากสภาพพื้นที่ อากาศ น้ำ ประเทศเราสะดวกกว่าเขามาก หลังจากปลูกมาได้1ปีสวนองุ่นสามารถไเก็บผลผลิตได้และได้ผลผลิตที่ดี มีคุณภาพ ทั้งผลผลิต ลูกดก อุดมสมบูรณ์รวมถึงรสชาติ ขายได้ราคาทำเงินให้ทางครอบครัวอย่างเห็นผล เฉลี่ยพื้นที่1งานทำเงินงานล่ะล่ะ1แสนบาทต่อปีเลยทีเดียว
ด้านนายอนันต์ โชติพรมราช อายุ37ปี เกษตรกรชาวบ้านหนองใหญ่ ต.ซับใหญ่ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ กล่าวว่าตนเองเป็นคนชอบสวนองุ่นเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว เมื่อไปทำงานที่ต่างประเทศอากาศบ้านเขาซึ่งแตกต่างจากบ้านเรามาก บ้านเราทั้งดิน สภาพอากาศแหล่งน้ำดีกว่าเขามาก จึงได้นำความรู้ที่แอบจดจำกับนายจ้างที่ต่างแดนมาพัฒนาที่บ้านเกิดตนเองดู โดยการปรับพื้นที่ที่เคยปลูกมันสำประหลังจำนวน 3ไร่มาปลูกสวนองุ่น สายพันต่างๆจำนวน4สายพันธ์ คือ1. สายพันธ์ไวท์มะระกา 2.แบล็คโอปอ 3.สะกาลอตต้า องุ่นแดง สายพันธ์นำเข้าจากต่างประเทศ ขานราคา 4.สวิตซับพลาย หรือนิ้วแม่มด ปัจจุบัน สามารถเก็บผลิตได้แล้ว2ไร่และอีก1ไร่ อยู่ระหว่างบำรุงรักษาดูแล ซึ่งราคาขาย ก็เริ่มตั้งแต่100-250บาท ต่อ ก.ก.มีรายได้เฉลี่ย 1แสนบาท ต่อ1งานในการเก็บผลผลิตขององุ่นขาย ต่อปีเมื่อเที่ยบกับการทำสวนอย่างอื่นถือว่าเป็นรายได้ที่ดีสามารถเลี้ยงครอบครัวได้ดีพอสมควรเพราะลงทุนครั้งเดียว ดจากนั้นก็ดูแลให้น้ำบำรุงรักษาให้ดี และรอเก็บผลผลิตแบบต่อเนื่องไปเลย สำหรับท่านใดสนใจและจะมาชิมองุ่นแบบสดและชมสวนถ่ายภาพเช็คอินโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถติดต่อสอบถามทางเพจ สวนองุ่นตาศักดิ์ โทร084-3915748 ติดถนนสายหลักบ้านหนองใหญ่ได้ตลอดตามข้อมูลนี้เลย
ด้านนายนายณัฐพศุตม์ โชติจิรศิริกุล นายอำเภอซับใหญ่ กล่าวว่า สวนองุ่นตาศักดิ์ ถือเป็นสวนแรกของจังหวัดหรือหลายๆที่เคยเจอมาซึ่งสามารถปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศร้อน แต่ได้ผลผลิตดี มีความสวยงามอุดมสมบูรณ์ แถมมีรสชาติที่อีกด้วย ถือเป็นเกษตรกรต้นแบบของอำเภอเพื่อช่วยให้เกษตรกรรายอื่นๆได้มาศึกษาเรียนรู้และนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ ต่อไป สำหรับสวนองุ่นตาศักดิ์แห่งนี้ถือเป็นแหล่งเรียนรู้ประจำอำเภอที่ใครๆก็ให้ความสนใจเดินทางมาศึกษาได้สะดวกเพราะทางเจ้าของสวนยินดีให้ความรู้แก่เกษตรกรที่จะเดินทางมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อนำไปต่อยอดทางการเกษตรโดยไม่เสียค่าใช่จ่ายใดๆเลย
วิรัตน์ ดวงแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ