เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 8 ธันวาคม 2566 ร.ต.อ.สหรัฐ เติมต่อวัฒนกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุไฟไหม้บ้านพักตำรวจรถไฟ ในซอยหนองเหล็ก ก่อนทางเข้าชุมชนหนองเหล็ก เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังรับแจ้ง จึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.อารี สินธุรา รองนายกเทศมนตรีนครอุดรธานี เจ้าหน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครอุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักตำรวจรถไฟ ปล่อยที่ทิ้งให้รกร้าง ไม่ได้ใช้งานมานานหลายปี เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง 10 ห้อง ต้นเพลิงอยู่บริเวณห้องที่ 3 จากซ้ายมือ ก่อนที่ไฟจะเริ่มลุกลามไปยังห้องข้างเคียง เจ้าหน้าที่จึงได้นำรถดับเพลิงจาก ทน.นครอุดรฯ และจากจุดบริการใกล้เคียงจำนวน 10 คันมาช่วยดับไฟ แต่เนื่องจากตัวบ้านเป็นไม้เก่า จึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และประกอบกับอากาศเย็นและแห้ง จึงทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วทำให้ไฟไหม้บ้านพักวอดไปทั้งหลัง จนท.จึงใช้เวลาประมาณ 1 ชม.จึงสมารถดับไฟได้อย่างสนิท ตรวจสอบแล้วไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ นายพิชัย คุณะปุระ อายุ 54 ปี ผอ.โครงการไทม์สแคว์ ผู้เช่าพื้นที่ ได้เดินทางมาติดตามการดำเนินการดับไฟในพื้นที่ และให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า บ้านพักดังกล่าวว่าเป็นผู้รับผิดชอบดูแลบ้านดังกล่าว โดยได้เช่าพื้นที่นี้รวม 30 ไร่กับการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่ยังไม่ได้ดำเนินการปรับปรุง โครงการฯ เพียงแต่ส่วนแรก 15 ไร่ ที่อยู่ด้านหน้าติดกับถนนนิตโย มีการจัดสรรเป็นพื้นที่ให้เช่าแล้ว
“ส่วนพื้นที่ที่ไฟไหม้นั้นเป็นห้องแถวยกพื้นสูงของการรถไฟและตำรวจรถไฟ อยู่ติดกับที่พักเก่าของเจ้าหน้าที่คลังน้ำมัน เป็นพื้นที่อีก 15 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่เช่าของโครงการทั้งหมด เรามีแผนจะปรับปรุงพื้นที่เร็วๆนี้ แต่ต้องรอการดำเนินการรื้อถอนของการรถไฟฯ เนื่องจากเราไม่มีอำนาจ ซึ่งรอดำเนินการมานานกว่า 2 ปีแล้ว ที่ผ่านมามีคนจรจัด คนไร้บ้าน ลักลอบเข้ามาอยู่อาศัย ซึ่งสร้างปัญหาในพื้นที่มานาน เพราะเป็นแหล่งมั่วสุม”
นายพิชัยฯ กล่าวต่อไปอีกว่า เราต้องเจอปัญหาไฟไหม้ปีละ 2-3 ครั้ง ยิ่งช่วงหน้าหนาวจะเกิดเหตุไฟไหม้ประจำ เพราะพวกคนไร้บ้านที่ลักลอบมาอาศัยอยู่เขามีการก่อไฟประกอบอาหาร มีจุดไฟเผาหญ้า มีการจุดเทียนให้แสงสว่างตอนกลางคืน ทุกครั้งที่ไฟไหม้ก็จะมีเจ้าหน้าที่มาดับได้ทัน แต่ครั้งนี้ไฟได้ลุกไหม้อย่างหนักจนวอดไปทั้งหลัง ซึ่งความเสียหายในครั้งนี้ทางโครงการต้องรับผิดชอบทั้งหมด ซึ่งยังประเมินไม่ได้ แต่คาดว่าน่าจะหลายแสนบาท
ต่อมา นายเพชรสยาม เจนหัตถ์นามเสนา หรือครูตะวัน ผู้ก่อตั้งกลุ่มครูข้างถนน ซึ่งเป็นผู้เข้ามาให้ความช่วยเหลือกลุ่มคนไร้บ้านในพื้นที่ ได้เข้ามาติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ ก่อนเปิดเผยว่า พื้นที่นี้เราได้เข้ามาเก็บข้อมูลคนไร้บ้านมานานหลายปีแล้ว บ้านพักเก่าที่ไม่มีการใช้งาน มีคนไร้บ้านเข้ามาพักอาศัยอยู่ประมาณ 70 คน ก่อนหน้านี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่จาก พมจ.อุดรธานี และสื่อมวลชนมาเก็บข้อมูลและให้ความช่วยเหลือคนไร้บ้านไปแล้วบางส่วน
ครูตะวัน กล่าวต่อไปอีกว่า ส่วนบ้านพักที่เกิดเหตุมีคนไร้บ้านอยู่ประมาณ 10 คน จากที่สังเกตการณ์ยังไม่เห็นกลุ่มคนทั้งหมดในพื้นที่ตอนนี้ คาดว่าเขาคงจะออกไปทำงาน 1 ในนั้นมีชาวออสเตรเลียอยู่ด้วย 1 คน เขาไม่มีญาติ และได้ทำพาสปอร์ตหาย ไม่มีงานไม่มีเงิน จึงมาอาศัยอยู่ด้วยที่นี่ คิดว่าเขาคงออกไปเดินเล่นที่ห้างใกล้กันอยู่แถวนี้ สาเหตุที่เกิดไฟไหม้ครั้งนี้ คิดว่าน่าจะเกิดจากการจุดไฟในบ้านพัก เพราะมีการก่อไฟในเตาเพื่อทำอาหาร และมีการจุดเทียนเพื่อดำรงชีวิตตอนกลางคืน ซึ่งพรุ่งนี้จะเข้ามาตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบสวนหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้อีกครั้ง เนื่องจากในพื้นที่ไม่มีการใช้ไฟฟ้า และขณะเกิดเหตุไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งจะได้ประสานการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อเข้ามาร่วมสอบสวน และประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป