ขอนแก่น (ชมคลิป) ชาวบ้านหลายจังหวัด ร้อง “ร.ต.อ.” เชิดเงินสร้างบ้าน เสียหายหลายล้านบาท

ชาวบ้านหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคอีสาน หอบหลักฐานเข้าร้องเรียนและขอความช่วยเหลือกับตำรวจภูธรภาค4 หลังถูกตำรวจยศ ร.ต.อ.” ในสังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้างเป็นอาชีพเสริม รับงานก่อสร้างจากผู้เสียหายแล้วทิ้งงาน มีชาวบ้านตกเป็นเหยื่อหลายจังหวัด มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท

          เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค4 ชาวบ้านซึ่งเป็นผู้เสียหายที่เดินทางมาจากหลายจังหวัด ประกอบด้วย เพชรบูรณ์ เลย กาฬสินธุ์ และขอนแก่น นำเอกสารหลักฐานสัญญาก่อสร้างต่อเติมบ้าน เข้าร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค4 เพื่อขอความเป็นธรรม หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยศร้อยตำรวจเอก ตำแหน่งรองสารวัตรงานธุรการ สังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรเพชรบูรณ์ ทำสัญญาต่อเติมบ้านพักอาศัยให้กับชาวบ้านในหลายจังหวัด แต่การก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ทั้งที่มีการเบิกเงินจากเจ้าของบ้านไปแล้ว

           น.ส.มินตรา สาคุณ ผู้เสียหายชาว จ.มหาสารคาม เล่าว่า เมื่อช่วงปีที่ผ่านมา ตนเองต้องการที่จะปรับปรุงซ่อมแซมบ้านที่อยู่ใน อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม จึงได้มองหาช่างรับเหมาก่อสร้างจากช่องทางต่าง ๆ รวมทั้งกลุ่มรีโนเวทบ้าน และเพจเฟซบุ๊กของช่างรับเหมาก่อสร้างเพจหนึ่ง ชื่อ “ไทบ้าน Thai ban” ที่มีการลงภาพบ้านที่ปรับปรุงซ่อมแซมให้กับลูกค้าแล้วเสร็จ และบ้านที่ปรับปรุงก็มีความสวยงาม ใช้งบประมาณไม่แพงมาก ตนเองจึงได้ติดตามผลงานมาเรื่อยๆ จนกระทั้งทราบว่า เจ้าของเพจดังกล่าว คือ ตำรวจ ยศ ร้อยตำรวจเอก อักษรย่อ ส. ในสังกัดของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งมีความน่าเชื่อถือ จากนั้นในช่วงต้นปี 2566 ตนเองจึงได้ติดไปทางเพจและเบอร์โทรศัพท์ของร้อยตำรวจเอก อักษรย่อ ส. ก่อนจะมีการทำสัญญาต่อเติมซ่อมแซมบ้านโดยได้นัดทำสัญญากันที่บ้านของตนเอง กำหนดการต่อเติมซ่อมแซมบ้าน 150 วัน เริ่มตั้งแต่ วันที่ 10 มีนาคม ถึง 10 สิงหาคม 2566 รวม 150 วัน แบ่งสัญญาออกเป็น 5 งวดงาน แต่หลังจากนั้น กลับเริ่มงานทำงานไม่ตรงงวดงานและมีการเบิกเงินงวดงานล่วงหน้า ตั้งแต่งวดงานที่ 3 มีการทำงานถึงงวดงานที่ 4 รวมเป็นเงินกว่า 140,000 บาท จากนั้นก็เริ่มมีปัญหาเรื่องความล่าช้า งานไม่เสร็จตามสัญญา ซึ่งตนเองก็ได้ติดตามทวงถาม แต่ตำรวจนายนี้กลับมีการขอเลื่อนและผลัดวันไปเรื่อยๆ จนกระทั้งขาดการติดต่อไป

          น.ส.มินตรา กล่าวอีกว่า หลังจากที่ตนเองแต่ใจแล้วว่าถูกหลอก จึงเริ่มตรวจสอบข้อมูลในกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการกับตำรวจนายนี้ กระทั้งพบว่า มีผู้เสียหายที่ถูกตำรวจนายนี้ทิ้งงานรับเหมาในลักษณะเดียวกัน ในหลายจังหวัด เช่น ผู้เสียหายชาว จ.เลย สูญเงินไป 500,000 บาท ผู้เสียหายชาว จ.กาฬสินธุ์ สูญเงินไป 320,000 บาท และผู้เสียหายชาว จ. เพชรบูรณ์ สูญเงินไป 1,440,000 บาท จึงได้รวมตัวกันเดินทางเข้ามาร้องเรียนเพื่อขอความช่วยเหลือกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 เนื่องจากผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับโรงพักในท้องที่ แต่คดีไม่มีความคืบหน้า และตำรวจนายดังกล่าวก็ยังไปรับเหมาก่อสร้างให้กับลูกค้ารายอื่นๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     ด้านนายบัญชา จันทร์แปลก ชาว จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นช่างที่รับงานก่อสร้างจาก ร้อยตำรวจเอก ส. กล่าวว่า ตนเองได้ทำงานให้กับร้อยตำเอก ส. มาตั้งแต่ที่เริ่มทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างใหม่ๆ ซึ่งการทำงาน ร้อยตำรวจเอก ส. ก็มีความรับผิดชอบต่องานของลูกค้า ไม่มีท่าทีว่าจะผิดสัญญาใดๆ จนกระทั้งในระยะมานี้ กลับพบปัญหาทิ้งงานมาเรื่อยๆ อีกทั้งไม่ยอมมาตรวจสอบหน้างานทั้งที่ตนเองเป็นผู้รับเหมา และไม่จ่ายค่าแรงให้กับตนเอง เป็นเงินกว่า 50,000 บาท เมื่อสอบถามไปก็ไม่ได้คำตอบและไม่รับสายอีกเลย

        เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ภาค 4 แนะนำว่า หากจะเข้าข่ายเป็นคดีฉ้อโกง หรือฉ้อโกงประชาชน ผู้เสียหายต้องรวมตัวกันดำเนินการ และชี้ให้เห็นว่า ตั้งใจหลอกลวงมาตั้งแต่แรก หากต่างคนต่างไปแจ้งความ ตำรวจท้องที่จะมองว่า เป็นเรื่องทางแพ่ง โดยสามารถรวมตัวกันไปแจ้งความได้ที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 หรือ ตำรวจไซเบอร์อีสาน หรือ จะไปปรึกษาอัยการจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นถิ่นฐานของผู้ก่อเหตุ เพื่อดำเนินการเอาผิดในทางวินัย อาญา และทางแพ่งต่อไป