หนองคาย – วอนช่วย ยายมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย คุณตาเฝ้าไม่ห่างทั้งครอบครัวเหลือเงิน 3 บาท

มะเร็งระยะสุดท้ายที่ทุกคนไม่อยากได้ยิน เพราะนั่นหมายถึงโรคร้าย วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะสุดท้ายเจ็บปวดสุดทรมาน ทั้งครอบครัวมีเงิน 3 บาท ต้องนำข้าวของที่มีค่าไปขายจนเกลี้ยงเพื่อนำเงินมารักษาและซื้อข้าวกิน


วันที่ 27 พ.ย. 66 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ หลังได้รับแจ้งจากชาบ้านหมู่ที่ 1 บ้านพระบาทนาหงส์ ต.พระบาทนาสิงห์ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากสาเหตุภรรยาป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย จึงได้เดินทางไปพบกับนายไสว เหลาผา อายุ 62 ปี ราษฎรอำเภอรัตนวาปี อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ที่ 1 บ้านพระบาทนาหงส์ ต.พระบาทนาสิงห์ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย สภาพบ้านทรุดโทรม ทราบว่าอาศัยอยู่กับภรรยาชื่อนางคำกอง เหลาผา ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้ายมาได้ปีกว่านอนสภาพน่าสงสาร
นายไสวฯ เล่าว่าช่วงปี 2541 นางคำกองฯ ได้ขับรถจักรยานยนต์ข้ามสะพานไม้ รถจักรยานยนต์เกิดเสียหลักล้มลงทำให้หน้าอกของนางคำกองฯ ไปกระแทกกับหิน เวลาต่อมาจึงเกิดเป็นก้อนเนื้อเล็กๆ ใต้ราวนมข้างซ้าย ไม่มีอาการเจ็บปวดจึงไม่ได้ไปหาหมอคิดว่าคงจะหายไปเอง ต่อมาเมื่อปี 2543 ก้อนเนื้อเริ่มโตขึ้น นางคำกองฯ จึงได้ไปตรวจที่โรงพยาบาล หมอแจ้งว่าต้องผ่าตัดและมีค่าใช้จ่ายบางส่วน แต่ด้วยฐานะที่ยากจนตนกับนางคำกองฯ จึงปรึกษากันว่าไม่ผ่าตัดเพราะช่วงนั้นไม่มีอาการเจ็บปวด ต่อมาเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมาก้อนเนื้อเกิดเป็นหนองและมีอาการเจ็บปวดมาก จึงได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลรัตนวาปี และส่งต่อไปที่โรงพยาบาลหนองคาย และได้ทราบจากหมอว่าได้ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว หมอจึงให้กลับมารักษาอาการอยู่ที่บ้าน ตนเข้าใจเองว่ากลับมานอนรอความตายที่บ้าน

จากนั้นได้รักษาตามฐานะ คือ กินยาพื้นบ้าน ต้มยากินบ้าง ระยะ 1 ปีที่ผ่านมา ตนไม่ได้ไปรับจ้างทำงานเนื่องจากต้องคอยดูแลภรรยา คอยเช็ดตัว คอยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ หุงหาอาหาร และ ระยะนี้ก็อาศัยเงินผู้สูงอายุ 600 บาท 2 คน ก็ 1,200 บาท ต้องประหยัดใช้ เดือนไหนที่พาภรรยาไปหาหมอก็ต้องหยิบยืมเพื่อนบ้าน ซึ่งแต่ก่อนตนจะรับจ้างรายวันก็พอมีเงินมาใช้จ่ายบ้าง ตอนนี้ต้องคอยดูแลภรรยาไปไหนไม่ได้เงินทองจึงไม่มี ครั้งหลังสุดได้ไปโรงพยาบาลและตนก็ทราบอาการของภรรยาจากหมอตนต้องทำใจ


นายไสวฯ เล่าต่อว่า ตนเองกับภรรยามีอาชีพรับจ้างทั่วไป ไม่มีเรือกสวนไร่นา มีเพียงบ้านบนที่ดิน เนื้อที่กว้าง 5 เมตร ยาว 8 เมตร พอได้อยู่อาศัย ตนกับภรรยามีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตเป็นหญิง อายุ 34 ปี มีครอบครัวอยู่ที่จังหวัดชุมพร ส่วนอีกคนเป็นชาย อายุ 27 ปี มีครอบครัวอยู่ที่จังหวัดชัยภูมิ ทั้งสองเคยมาเยี่ยมแม่ครั้งเดียวเมื่อครั้งที่ป่วยครั้งแรกและไม่มาอีกเลย คาดว่าน่าจะเดินทางลำบาก ส่วนเงินทองก็ไม่ได้ส่งมาให้พ่อกับแม่ วันนี้ตนกับภรรยามีเงินติดตัว 3 บาท และได้ให้คนรับชื้อของเก่ามารื้อสังกะสีที่กั้นอยู่ข้างบ้านเผื่อขายได้เงินสัก 30 บาท เพื่อที่จะนำไปชื้อกับข้าวมากิน ก่อนนางคำกองฯ ป่วยตนเองก็ไปรับจ้างรายวันก็พอมีเงินใช้จ่าย


ส่วนที่ตนร้องขอความช่วยเหลือผ่านผู้สื่อข่าว คือ ตอนนี้ตนเองและภรรยาหมดปัญญาไม่มีเงินแม้จะชื้อข้าวกิน ไม่เหลือเงินติดตัวเลย ของใช้ในบ้านที่มีค่าก็นำไปขายมารักษาภรรยา จนหมดไม่เหลืออะไรแล้ว จึงกราบขอวิงวอนขอความเมตตาจากผู้ใจบุญใจกุศลได้โปรดช่วยเหลือครอบครัวตนด้วย เพราะลำบากมาก ปัจจุบันก็ได้อาศัยเพื่อนบ้านที่ใจบุญคอยช่วยเอาข้าว/อาหารมาให้กินปะทังชีวิต


สำหรับผู้ใจบุญที่มีความเมตตาจะช่วยเหลือครอบครัว พ่อใสวและแม่คำกอง สามารถโอนเงินช่วยเหลือได้ที่ ธนาคาร ธกส หมายเลข 020068055635 ชื่อบัญชี นายไสว เหลาผา

นายพันธลภ แสงทอง-นายโภควินทร์ นันทจันทร์