วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม 2566 มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดพิธีเปิดการแข่งขันวอลเลย์บอลประเภทหญิง อายุไม่เกิน 18 ปี ในภาคอีสาน “KKU Women’s Volleyball Challenge 2023” ณ อาคารพลศึกษา โดยมี รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ เป็นประธานในพิธี
รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิช คณบดีคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการเคเคยู วอลเลย์บอล อะคาเดมี่ (KKU Volleyball Academy) กล่าวรายงานว่า การแข่งขันนี้จัดโดย KKU Volleyball Academy (KKU VA) โครงการที่ท่านนายกสภาและท่านอธิการบดีมีดำริให้จัดตั้งขึ้น เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 60 ปีแห่งการสถาปนา มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ขณะเดียวกันเพื่อแสดงความมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพผู้หญิงในภาคอีสานสู่การเป็นมืออาชีพระดับสากลผ่านการส่งเสริมกีฬาวอลเลย์บอลหญิงอย่างจริงจัง ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของมหาวิทยาลัยขอนแก่น (KhonKaen University and Sustainable Development Goals) หรือ SDGs 5 ในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ
“กีฬาวอลเลย์บอลจะส่งเสริมบทบาทของสตรี เพื่อให้เป็นผู้ที่สามารถนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทยในระดับสากลได้ โดยมีเอกชนอย่างบริษัท AIA จำกัด ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญเป็นผู้สนับสนุนหลักในครั้งนี้ด้วย”
ขณะที่ รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ ระบุว่า นักกีฬาวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ในประเภททีมหญิงนั้น นักกีฬาส่วนมากเป็นลูกหลานของชาวอีสานบ้านเรา มหาวิทยาลัยขอนแก่นจึงได้มีนโยบายให้จัดตั้งและดำเนินโครงการเคเคยู วอลเลย์บอล อะคาเดมี่ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนในสังกัดโรงเรียนเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้พัฒนาฝีมือและมีเวทีในการแสดงความสามารถทักษะทางด้านกีฬาวอลเลย์บอล
มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความพร้อมด้านองค์ความรู้ บุคลากร และอุปกรณ์ต่าง ๆ มีคณาจารย์ บุคลากรผู้เชี่ยวชาญในคณะวิชาและสาขาที่เกี่ยวข้อง อาทิ ด้านการแพทย์และพยาบาล ด้านกายภาพบำบัด ด้านโภชนาการ ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาและพลศึกษา รวมไปถึงด้านจิตวิทยา มีความพร้อมด้านสถานที่ มีอาคารที่พัก มีศูนย์ปฏิบัติการออกกำลังกาย ซึ่งมีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญแนะนำในการออกกำลังกาย และมีอุปกรณ์เครื่องมือในการออกกำลังกาย พัฒนาสมรรถภาพนักกีฬาครบครัน จึงมีความพร้อมในการดำเนินการจัดโครงการเคเคยู วอลเลย์บอล อะคาเดมี่
สำหรับในสนามอาคารพลศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น นักกีฬาจาก 8 โรงเรียนเข้าร่วมพิธีเปิดด้วย ได้แก่โรงเรียนเทศบาล 2 วัดสว่างคงคา จ.กาฬสินธุ์, โรงเรียนหนองเรือวิทยา จ.ขอนแก่น, โรงเรียนพล จ.ขอนแก่น, โรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต จ.นครราชสีมา, โรงเรียนสุรนารีวิทยา จ.นครราชสีมา, โรงเรียนสารคามพิทยาคม จ.มหาสารคาม, โรงเรียนสตรีสิริเกศ จ.ศรีสะเกษ และโรงเรียนสว่างแดนดิน จ.สกลนคร
ทั้งนี้ บรรยากาศภายในสนามอาคารพลศึกษาเป็นไปด้วยความคึกคัก กับแมตช์ประเดิมการแข่งขัน 2 คู่ โดยคู่เปิดสนาม โรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต จ.นครราชสีมา พบกับโรงเรียนสุรนารีวิทยา จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็น โรงเรียนสุรนารีวิทยา ที่เล่นได้ดุดันกว่า ถล่มปักธงชัยประชานิรมิตไป 2 ต่อ 0 เซ็ต ด้วยสกอร์ 25 ต่อ 11 และ 25 ต่อ 14
หลังจบการแข่งขัน น.ส.ขวัญณภัทร นวลวรรณ์ นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนสุรนารีวิทยา ระบุว่า รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้เป็นหนึ่งในทีมวอลเลย์บอลภาคอีสาน ซึ่งได้รับคัดเลือกจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นเชิญมาเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ และดีใจที่ได้มาแข่งขันกับคู่แข่งมากความสามารถ ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีที่จะช่วยให้ก้าวไปสู่นักวอลเลย์บอลอาชีพได้ในอนาคต “ดีใจมากค่ะที่วันนี้ชนะ ทุกคนในทีมทำเต็มที่มาก ส่วนแมตช์หน้าก็จะสู้เต็มที่ และหวังว่าจะได้แชมป์ในการแข่งขันครั้งนี้”
ด้าน อ.ธนกฤต ชัยภัทรจินดา ผู้ฝึกสอนทีมโรงเรียนสุรนารีวิทยา ยอมรับว่า ดีใจที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นที่เปิดพื้นที่ และให้ความสำคัญกับเยาวชน เพราะปัจจุบันเด็ก ๆ ในต่างจังหวัดนิยมเล่นกีฬาวอลเลย์บอลจนกลายเป็นกีฬาสามัญประจำโรงเรียน หากเด็ก ๆ ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาจากการลงแข่งขันเพื่อสั่งสมประสบการณ์ก็จะช่วยให้เป็นนักกีฬาที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น แม้วันนี้จะได้รับชัยชนะแรกมา แต่นักกีฬาหลายคนยังเล่นไม่ตรงตามมาตรฐานเดิม หลังหยุดพักการเล่นในช่วงปิดเทอมไป ดังนั้น การแข่งขันนัดต่อไปจะมีการเตรียมความพร้อมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการได้พบกับทีมจากโรงเรียนหนองเรือวิทยานั้น นับเป็นคู่แข่งที่ประมาทไม่ได้ด้วย
สำหรับผู้สนใจรับชมการแข่งขันสามารถติดตามการแข่งขันได้ในช่วงวันที่ 15 – 17 พฤษภาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ที่ อาคารพลศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือรับชมการถ่ายทอดสดผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก KKU Volleyball Academy และพบกับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป โดยทีมที่ชนะเลิศอันดับ 1 จะได้รับรางวัลมูลค่า 8,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท ส่วนรองชนะเลิศอันดับ 2 จะได้รับรางวัล 3,000 บาท