ขอนแก่น (ชมคลิป) เผยเหตุโครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ” ล่ม ดับฝันคนอยากมีบ้าน

เผยสาเหตุโครงการบ้านคนไทยประชารัฐ ในพื้นที่ขอนแก่นไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จตามเป้าหมายรัฐบาล หลังผุดโครงการสร้างบ้านให้เป็นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย เป้าหมาย  จังหวัด แต่ทำสำเร็จเพียงจังหวัดเดียว เนื่องจากผู้ได้รับสัมปทานก่อสร้างขาดสภาพคล่องทางการเงิน ผ่านมา ปี พื้นที่กว่า 40 ไร่ ที่ผู้มีรายได้น้อยหวังให้เป็นบ้านหลังแรกต้องฝันสลาย 

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาวเบญจรัตน์ รัชฎามาศ ธนารักษ์พื้นที่ขอนแก่น พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดูสภาพปัจจุบันของที่ดินราชพัสดุ แปลงหมายเลขทะเบียนที่ ขก.452 เนื้อที่ 41 ไร่ 3 งาน 87 ตารางวา ในพื้นที่บ้านหลุบหญ้าคา ต.ดอนหัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่ก่อสร้างโครงการบ้านคนไทยประชารัฐ บนที่ดินราชพัสดุ หนึ่งในโครงการของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อดูแลผู้ที่มีรายได้น้อย ทั้งผู้ที่ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้มีรายได้ไม่เกิน 35,000 บาทต่อเดือน รวมถึงประชาชนทั่วไป ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง โดยจังหวัดที่เป็นเป้าหมายดำเนินการ ได้แก่ ชลบุรี เชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น ลำปาง นครพนม ประจวบคีรีขันธ์ และอุดรธานี รวมเนื้อที่ 317 ไร่ 2 งาน 49.9 ตารางวา จำนวน 2,757 หน่วย โดยเริ่มโครงการในปี 2561 แต่ปัจจุบันมีเพียงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเดียวที่สามารถดำเนินโครงการได้แล้วเสร็จ ส่วนอีก 7 จังหวัดเป้าหมาย รวมทั้งจังหวัดขอนแก่น กลับไม่สามารถดำเนินโครงการได้ ที่ดินราชพัสดุกว่า 41 ไร่ ยังอยู่ในสภาพเดิม โดยที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 7 ก.พ.2566 ที่ผ่านมา ได้มีมติล้มโครงการใน 7 จังหวัด เนื่องจาก ใน 4 จังหวัดแรก คือ ชลบุรี เชียงราย เชียงใหม่ และขอนแก่น ผู้ได้รับสิทธิก่อสร้างขาดสภาพคล่องทางการเงิน และไม่มีความพร้อมในทุกบริบทที่จะดำเนินการให้เป็นไปตามเงื่อนไขในสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุ เพื่อการก่อสร้างและบริหารโครงการ ตามที่กรมธนารักษ์ กำหนดได้ ส่วนอีก 3 พื้นที่ คือ อุดรธานี ลำปาง และนครพนม ที่ผ่านมามีการเปิดประมูลไปแล้ว 1-2 ครั้ง แต่ไม่มีเอกชนรายใดสนใจเข้าร่วมพัฒนาที่ราชพัสดุ

นางสาวเบญจรัตน์ รัชฎามาศ ธนารักษ์พื้นที่ขอนแก่น กล่าวว่า สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ขอนแก่น ได้รับนโยบายมาในปี 2561 ให้หาพื้นที่รองรับโครงการบ้านคนไทยประชารัฐ ซึ่งมีเงื่อนไขว่า จะต้องเป็นพื้นที่ว่างที่อยู่ในการดูแลของสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ขอนแก่น และสามารถดำเนินการในพื้นที่ได้เลย จึงได้เลือกที่ดินแปลงนี้ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองขอนแก่นและเป็นย่านโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีกลุ่มผู้ใช้แรงงานอาศัยอยู่จำนวนมาก รวมทั้งระบบสาธารณูประโภคที่มีความพร้อม เมื่อได้พื้นที่เหมาะและเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด จึงได้มีการเปิดประมูลหาผู้มาลงทุนดำเนินโครงการนี้ โดยผู้ที่ชนะการประมูล คือ บริษัท ฟอร์ คอน จำกัด มีการทำสัญญาก่อสร้าง เมื่อเดือน ม.ค.2562 แต่หลังทำสัญญาแล้ว ทางบริษัทฯ ก็ยังไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ ปัจจุบันทางบริษัทฯ ก็ยังติดค้างค่าเช่าของปี 2563 – 2565 รวมเป็นเงินกว่า 700,000 บาท รวมทั้งเงินที่ยังไม่ได้นำมาวางเป็นหลักประกันอีก จำนวน 16 ล้านบาท หลังจากที่ได้ทำสัญญากับทางบริษัทฯ ที่ได้สิทธิ์ในการดำเนินโครงการฯ ทางธนารักษ์พื้นที่ขอนแก่น ได้มีการติดตามทวงถามเกี่ยวกับการดำเนินโครงการมาโดยตลอด ซึ่งมาทราบสาเหตุที่โครงการฯ ไม่สามารถเริ่มได้ เนื่องจากทางบริษัทฯ มีปัญหาทางการเงินที่จะนำมาก่อสร้างตามโครงการฯ และสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งธนารักษ์พื้นที่ขอนแก่น ประเมินแล้วว่า บริษัทฯ ดังกล่าว ไม่น่าจะสามารถดำเนินการต่อไปได้ จึงได้ทำรายงานข้อเท็จจริงส่งไปที่กรมธนารักษ์ได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น ก่อนที่ ครม. จะมีมติให้ยกเลิกโครงการฯ ในอีก 6 จังหวัดที่เหลือ ซึ่งมีปัญหาในลักษณะเดียวกัน

นางสาวเบญจรัตน์ กล่าวอีกว่า นับเป็นเรื่องน่าเสียดายและเสียโอกาสของจังหวัดขอนแก่น เนื่องจากบริบทของพื้นที่ที่กำหนดการก่อสร้างมีการเติบโตทางเศรษฐกิจมากขึ้น มีโรงงานอุตสาหกรรมเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งนำมาซึ่งแรงงานคน ผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการจะมีบ้านเป็นที่อยู่อาศัยหลังแรก โดยการผ่อนชำระในราคาไม่สูง เปลี่ยนจากการเช่าห้องพักมาเป็นการเป็นบ้านของตนเอง และหากโครงการนี้สำเร็จตามเป้าหมาย จะทำให้เกิดชุมชนใหม่ขึ้นมา เนื่องจากพื้นที่นี้สามารถสร้างบ้านที่อยู่อาศัยได้กว่า 300 หลังคาเรือน เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับพื้นที่เป็นอย่างมาก ทั้งนี้เมื่อ ครม.มีมติยกเลิกโครงการฯ แล้ว ทางกรมธนารักษ์ก็จะนำพื้นที่แปลงนี้ไว้สำหรับรองรับนโยบายและโครงการฯ ที่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศในโครงการอื่นๆ ในอนาคตต่อไป 

สำหรับโครงการบ้านคนไทยประชารัฐ บนที่ดินราชพัสดุ เป็นหนึ่งในโครงการของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อดูแลผู้ที่มีรายได้น้อย ทั้งผู้ที่ได้รับสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้มีรายได้ไม่เกิน 35,000 บาทต่อเดือน รวมถึงประชาชนทั่วไป ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง เป็นโครงการบ้านแฝด/บ้านแถว/อาคารชุดพักอาศัย ที่มีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 28 ตร.ม. ในระดับราคา 350,000-700,000 บาท ซึ่งเป็นโครงการการผ่อนชำระสู่การเช่าระยะยาว กรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยเป็นของผู้ได้รับสิทธิอยู่อาศัยและผู้ได้รับสิทธิพัฒนาโครงการ โดยจังหวัด ที่เป็นเป้าหมายดำเนินการ ได้แก่ ชลบุรี เชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น ลำปาง นครพนม ประจวบคีรีขันธ์ และอุดรธานี รวมเนื้อที่ 317 ไร่ 2 งาน 49.9 ตารางวา จำนวน 2,757 หน่วย