จากกรณี เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 7 กันยายน พล.ต.ต.สถาพร เอมโอษฐ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี เดินทางไปตรวจสอบเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ต้องใช้ปืนยิงวิสามัญนายปัทวิน กะวันทา อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 40/2 หมู่ที่ 6 ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลฯ ชายคลุ้มคลั่ง ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลน้ำยืน หลังจากขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อ นิสสัน อัลเมร่า สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 ขข 5626 กรุงเทพมหานคร มาที่บริเวณหน้าเสาธง สภ.น้ำยืน จุดประทัดยักษ์โยนใส่ตำรวจ 4 นัด เสียงดังสนั่น สิบเวรได้วิ่งลงมาดู ผู้ก่อเหตุก็เปิดประตูรถยนต์เอาไม้เบสบอลที่ทำด้วยเหล็ก และลงมาชี้ไปที่ตำรวจพร้อมตะโกนว่ามึงหมอบลงและก็วิ่งไปทุบกระจกรถโล่ตำรวจที่จอดอยู่ได้รับความเสียหาย และรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ได้รับความเสียหายอีกหลายคันจากนั้นก็ได้ถือท่อนเหล็กไล่ตีตำรวจ ที่เข้ามาระงับเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้ยิงปืนขึ้นฟ้าขู่แล้ว แต่ชายคนดังกล่าวก็ยังไม่ยอมหยุด ประกอบกับผู้ก่อเหตุถือไม้เบสบอลที่ทำด้วยเหล็ก อาระวาดอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่จึงได้ตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงถูกที่บริเวณหน้าท้อง 1 นัด ขา 1 นัด ผู้ก่อเหตุจึงสงบอาการคลั่งลงและถูกนำส่งโรงพยาบาลน้ำยืนและเสียชีวิตในเวลาต่อมาเหตุเกิดเมื่อเวลา 14.45 น.วันที่ 7 ก.ย. ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันเป็นการป้องกันตัว ตรวจสอบประวัติพบเคยเข้าทำการักษาอาการทางประสาทที่โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ ก่อนเกิดเหตุเดินทางกลับมาจากทำงานที่จังหวัดระยอง คาดว่าอาการทางประสาทกำเหริบ จึงมาก่อเหตุดังกล่าวอุบลราชธานี
ล่าสุดวันนี้ (8 ก.ย.) ที่กลุ่มงานนิติเวช โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำยืนได้ส่งศพนายปัทวิน กะวันทา อายุ 33 ปี ที่ถูกตำรวจตำรวจ สภ.น้ำยืน วิสามัญ หลังจากเกิดอาการคุ้มคลั่งมาทำการผ่าชันสูตรโดยมีญาติเดินทางมาติดตามและรอรับศพกลับ
นายมั่น กะวันทา พ่อนายปัทวิน กล่าวว่าอยากได้รับความเป็นธรรมให้กับลูกชายด้วยที่สูญเสียลูกชายไป ยังไงก็จะต้องสู่ขอคดี เนื่องจากตำรวจทำเกิดกว่าเหตุ ติดใจที่ว่าลูกชายไม่มีอาวุธปืนแต่อย่างใด มีแต่ไม้เบสบอลที่เป็นท่อนเหล็กที่ทุบทำลายรถยนต์ แต่ตำรวจได้ใช้ปืนยิงสกัดไว้ก่อน ยิงขา 2 นัด อีก 1 นัดถูกบริเวณหน้าท้อง รวม 3 นัด ไปดูลูกที่โรงพยาบาลก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว อยากให้ตำรวจมาดูแลรับผิดชอบด้วย คนเสียชีวิตทั้งคน รู้สึกเสียใจมาก ผมเองไม่รู้จะคิดยังไง ได้แต่เสียใจ อยากขอความเป็นธรรม ใครก็ได้ที่จะช่วยได้ ติดใจสาเหตุการตายของลูกชาย ไม่น่าจะเอาปืนยิงลูก เพราะว่าลูกไม่มีอาวุธสงคราม ไม่มีอาวุธปืน มีแค่ท่อนเหล็กเบสบอล ไม่น่าจะเอาปืนมายิงกันไปฆ่ากัน เจ้าหน้าที่ตำรวจพึ่งพาไม่ได้เลย ก่อนเกิดเหตุลูกชายไม่ได้กินยา ยังปกติดีๆอยู่ เคยรักษาอาการทางประสาทอยู่ ทางโรงพยาบาลก็บอกว่าหายขาดแล้ว จนได้ไปทำงานที่จังหวัดระยอง ส่วนสาเหตุที่ไปก่อเหตุนั้นตนเองไม่รู้เรื่อง ก่อนหน้านี้ลูกเคยไปลักรถจักรยานยนต์ของร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ เจ้าของร้านได้แจ้งตำรวจมาจับโดนตำรวจซ้อม ตอนนั้นกำลังเริ่มป่วยประมาณ 10 กว่าปีมาแล้ว
ด้านนางสาวอัญชลี กะวันทา น้องสาวผู้ตายกล่าวว่าพี่ชายทำงานอยู่ที่โรงงาน จ.ระยอง เป็นคนที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใครชอบอยู่คนเดียว วันที่กลับมาบ้านก็ไม่มีใครรู้ เราก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ ไม่เคยทำความเดือดร้อนให้พ่อ แม่ ที่บ้านก็เป็นเสาหลักของพ่อ แม่ ไม่รู้ว่ามีอาการกำเหริบหรือเปล่า ทางบ้านก็ไม่รู้ มารู้ตอนเกิดเหตุแล้ว อยากจะดูกล้องวงจรปิดของ สภ.น้ำยืน ตอนเกิดเหตุ ทำไมกล้องวงจรถึงพังตอนนี้
รายงานข่าวแจ้งว่าขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำยืนส่วนใหญ่เดินทางมาเตะและเชียร์ฟุตบอลอยู่ที่ในตัวเมือง จ.อุบลฯ หากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่มากอาจจะใช้ยุทธวิธีไม้ง่ามสยบอาการคุ้มคลั่งได้ แต่มีเจ้าหน้าที่น้อยจึงต้องใช้ปืนยิง จากนั้น สภ.น้ำยืนมีความพยายามสั่งห้ามให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจ เผยแพร่ข้อมูลทั้งหมด
ยงยุทธ ผูกพันธ์ อุบลราชธานี