อุดรธานี – หนุ่มเมียนมา ‘กำลังเรียนโทร’ ข้างทางรถไฟถูกทับดับใกล้แคมป์ที่พักกลางเมือง

 

เมื่อเวลา21.30น.วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 พ.ต.ท.พีระ ราศรี สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้แจ้งเหตุรถไฟชนคนเสียชีวิต ที่บริเวณริมทางรถไฟ ข้างแคมป์คนงานก่อสร้าง ติดกับคลองระบายน้ำ ตรงข้ามกับโรงเรียนบ้านหนองบัว ต.หมากแข้ง อ.เมืองจ.อุดรธานี จึงได้รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน


ที่เกิดเหตุอยู่ข้างแคมป์ที่พักคนงานก่อสร้างโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ริมทางรถไฟก่อนถึงสถานีรถไฟอุดรธานีประมาณ 800 เมตร บริเวณด้านหน้าทางเข้าแคมป์ที่พักคนงาน พบศพนายเมีย วิน อายุ 28 ปี สัญชาติพม่า นอนคว่ำหน้าอยู่ในพงหญ้าติดกับรั้วสังกะสีแคมป์ สวมเสื้อกล้ามสีเหลือง สวมโสร่งลายตารางหมากรุกสีเข้ม รองเท้าเตะกระเด็นไปคนละทิศละทาง คอหัก กะโหลกศีรษะแตกมันสมองกระจาย โดยรถไฟคู่กรณี เป็นขบวนรถท้องถิ่น 417 นครราชสีมา-อุดรธานี ขาขึ้น หลังเกิดเหตุได้เคลื่อนขบวนไปส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟอุดรธานี
นายอุดร เหล่าป้อม อายุ 28 ปี คนงานชาว จ.หนองคาย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นผู้ตายออกมานั่งคุยโทรศัพท์เหมือนทุกวัน แต่วันนี้เห็นผู้ตายนอนนอนคุยโทรศัพท์ โดยใช้หัวพาดกับรางรถไฟ โดยไม่รู้ว่าผู้ตายใช้หูฟังหรือไม่ หลังจากนั้นตนเองได้เข้าไปอาบน้ำ และออกานั่งสังสรรค์กับเพื่อนคนงาน ไม่นานได้มีพนักงานรถไฟเดินมาบอกว่า เพื่อนคนงานถูกรถไฟทับเสียชีวิตแล้ว


นายสยาม สิริลาภ อายุ 46 ปี หัวหน้าคนงาน เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นแรงงานชาวเมียนมา ได้ค่าจ้างรายวัน อยู่ส่วนงานติดตั้งสุขภัณฑ์ มาทำงานคนเดียว ไม่มีครอบครัวมาด้วย ย้ายมาจากไซต์งานที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้ประมาณ 1 ปีที่แล้ว จุดเกิดเหตุเป็นบริเวณหน้าทางเข้าแคมป์ เป็นจุดที่คนงานชอบออกมานั่งพักผ่อน เนื่องจากภายในแคมป์มีพื้นที่จำกัด อากาศไม่ค่อยถ่ายเททำให้ภายในมีความร้อนอบอ้าว จุดนี้อากาศถ่ายเท แต่ไม่มีแสงสว่างเท่าที่ควร
ส่วนคนงานด้วยกัน น.ส.ดาว อายุ 23 ปี ชาวพิษณุโลก บอกวา เพื่อนตาย เป็นชาวพม่า เป็นคนไม่ชอบพูด แต่เห็นชอบคุยโทรศัพท์ตอนเลิกงานเป็นประจำทุกวันซึ่งวันนี้ผู้ตายได้ทักทายสวัสดี ทุกคน ที่มาทำงาน แต่ก็ไม่ทราบว่าผู้ตายมีปัญหาอะไรไหม ปกติผู้ตายมักจะมานั่งคุยโทรศัพท์บนรางรถไฟประจำ เพราะข้างนอกลมมันเย็นด้วยสัญญาณมือถือจะดีด้วยเพราะเป็นที่โล่งแจ้ง


พ.ต.ท.พีระ ราศรี สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้ และห้องพักภายในแคมป์ที่พักไม่มีร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด จากการสอบถามเพื่อนคนงานต่างให้ปากคำไปในทิศทางเดียวกันว่า ผู้ตายชอบดื่มสุราเป็นประจำ และมักจะออกมาคุยโทรศัพท์อยู่จุดเกิดเหตุเป็นประจำ คาดว่าคงจะออกมาโทรศัพท์จนเพลินแล้วถูกรถไฟทับเสียชีวิต เบื้องต้นได้ประสานหัวหน้างานไว้แล้ว ทราบว่าผู้ตายเข้ามาทำงานอย่างถูกต้อง ก่อนส่งศพไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ซึ่งจะได้ประสานไปยัง สนง.จัดหางาน จ.อุดรธานี เพื่อตรวจสอบข้อมูลการช่วยเหลือ และติดต่อญาตินำศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป