ขอนแก่น (ชมคลิป) ลูกสาวฝันแม่น หลังพ่อป่วยอัลไซเมอร์ หายจากบ้าน 3 เดือน พบกระดูกบนเขาสวนกวาง

ลูกสาวฝันแม่น หลังพ่อ 80 ปีป่วยอัลไซเมอร์ หายจากบ้าน 3 เดือน พบกระดูกบนเขา ยืนยันเป็นพ่อ ไม่ติดใจการตาย ในฝันเห็นพ่อมากับผู้หญิงคนหนึ่งมั่นใจว่าเป็นย่าบอกจะพาพ่อไปปฏิบัติธรรมในถ้ำ 3 เดือนแล้วจะกลับมาบ้าน

เมื่อเวลา 10.00 น.ที่คณะนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น นางเกษร ศรีวัด อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ม.11 บ้านดงเย็น ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น  บุตรสาวของนายสม  เถาเบา อายุ 80 ปี คนที่หายตัวไปเมื่อคืนวันที่ 28 ธันวาคม 2564 แล้วมีชาวบ้านไปพบกระดูกชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะ ขากรรไกรล่าง กระดูกเชิงกราน กระดูกต้นขา กระดูกแขนบางส่วน บนเขาสวนกวาง พื้นที่ตำบลพังทุย อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.น้ำพอง ได้ส่งชิ้นส่วนกระดูกให้แพทย์นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ ตรวจอัตลักษณ์และตรวจสอบว่าโครงการดูกต่างๆนั้นมีบาดแผลถูกทำร้ายหรือไม่ นางเกษร ในฐานะบุตรสาวของนายสม จึงต้องเดินทางเข้าพบแพทย์นิติเวช เพื่อตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับกระดูกดังกล่าว

นางเกษร ศรีวัด อายุ 50 ปี กล่าวว่า พ่อเป็นคนร่างกายแข็งแรง แต่มีอาการอัลไซเมอร์มาหลายปีแล้ว หลงๆลืมๆ เคยหายออกจากบ้านหลายครั้ง แต่ลูกหลานตามหาจนเจอตัวก็พากลับบ้าน  แต่ในช่วงใกล้สิ้นปี เป็นช่วงตัดอ้อย บิดาได้ไปเฝ้าลานมันให้หลานชาย  และก่อนที่จะหายตัวไป เป็นช่วงที่ลานมันเลี้ยงสุรา อาหารคนงาน ซึ่งบิดาก็มีการดื่มสุราด้วย  จนถึงเวลา 4 ทุ่มของคืนวันที่ 29 ธันวาคม มีชาวบ้านเห็นบิดาเดินอยู่ที่ลานมัน กระทั่งเช้าวันที่ 30 ธันวาคม ก็หาตัวไม่พบ ลูกหลานญาติพี่น้องช่วยกันออกตามหาก็ไม่เจอตัว  จึงแจ้งความคนหายไว้ที่สภ.น้ำพอง ซึ่งช่วงที่ผ่านมา ลูกหลานไม่เคยหยุดตามหาตัวบิดา แต่ก็ไม่พบ ไม่มีเบาะแสใดๆเลย กระทั่งเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา มีชาวบ้านพังทุยไปพบชิ้นส่วนกระดูกที่เชิงเขา เมื่อไปดูก็พบบัตรประชาชนของบิดา และเสื้อผ้าชุดที่ใส่ออกจากบ้านก่อนจะหายตัวไป

นางเกษร  กล่าวต่ออีกว่า หลังจากพบกระดูกและเสื้อผ้าของพ่อ จึงยืนยันกับตำรวจสภ.น้ำพองว่า กระดูกที่พบนั้นแม้ว่าจะไม่ครบทุกชิ้นส่วน เชื่อว่า อาจเป็นเพราะถูกสุนัขและสัตว์ป่าคาบไป  แต่ลูกหลาน ญาติพี่น้องไม่ติดใจการตาย ขอรับกระดูกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี  แต่ตำรวจบอกว่า การพบกระดูก คือคำตอบว่า คนที่หายไปนั้นเสียชีวิตแล้ว  แต่เป็นการเสียชีวิตที่ผิดธรรมชาติ จึงส่งกระดูกมาให้แพทย์นิติเวช ทำการตรวจพิสูจน์ตามขั้นตอนของแพทย์   ซึ่งลูกๆต้องตรวจดีเอ็นเอ เพื่อเทียบกับกระดูกที่ยืนยันว่าเป็นบิดา  โดยเมื่อพบแพทย์แล้ว แพทย์แจ้งว่าตามขั้นตอนต้องตรวจดีเอ็นเอ ผลดีเอ็นเอจะออกใน 90 วัน ซึ่งลูกหลานเห็นว่าใช้เวลานาน เพราะ ลูกหลานยืนยันว่าไม่ติดใจการตาย เพราะบิดาป่วยอัลไซเมอร์ ก่อนหายตัวไปก็ดื่มสุราและเมา เดินหลงบ้าน เข้าไปในป่าบนเขาสวนกวาง ไกลจากบ้านไปร่วม 4 กม.ซึ่งไม่มีใครติดใจการตาย จึงขอรับกระดูกกลับบ้าน ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี  ซึ่งแพทย์แนะนำว่า ต้องให้ตำรวจทำเรื่องส่งถึงแพทย์นิติเวช จึงจะรับกระดูกออกไปได้

ขณะที่นางสาว อรพิมพ์  เถาเบา อายุ 45 ปี   ลูกสาวนายสม เถาเบา  กล่าวว่า หลังจากพ่อหายตัวไปแล้วหาไม่เจอ คืนวันที่ 30 ธันวาคม 2564 ฝันเห็นพ่อ เดินมากับหญิงชรา จึงถามว่า จะพาพ่อไปไหน หญิงชราบอกว่า จะพาพ่อไปปฏิบัติธรรมในถ้ำ 3 เดือนแล้วพ่อก็จะกลับมา ซึ่งในความฝันนั้น พ่อไม่มองหน้า ไม่พูดสักคำ  จึงนำความฝัน และลักษณะคนในฝันมาเล่าให้มารดา เล่าให้ญาติพี่น้องฟัง ทุกคนเลยบอกว่า พ่อน่าจะตายแล้วเพราะถ้าฝันเห็นแล้วไม่พูดแปลว่าตาย ส่วนหญิงชราในฝันน่าจะเป็นย่า หรือมารดาของพ่อ  กระทั่งวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา พบกระดูกบนภูเขา ซึ่งเป็นเวลา 3 เดือนพอดี ที่พบกระดูกและเสื้อผ้าของพ่อ

ส่วนนางเกสร ศรีวัด อายุ 50 ปี  กล่าวว่า ตนเองได้ไปทำบุญที่วัดเมื่อวันที่27 มีนาคม ที่ผ่านมา ถวายเงิน 1,000บาท เพื่ออุทิศส่วนบุญให้พ่อ ที่หายไป และเชื่อว่าพ่อตายแล้ว  โดยอธิษฐานว่า เงินจำนวน 1,000บาทที่ทำไปขอส่งบุญถึงพ่อขอให้พ่อรับไว้ด้วย  ต่อมาคืนวันที่ 29 มีนาคม ก็ฝันว่า พ่อมาหาที่บ้าน แต่มาในรูปของพระสงฆ์  ในฝันถามพ่อว่า หายตัวไปทำงาน กลับมาบ้านได้เงินมาให้แม่หรือไม่ พ่อไม่พูดไม่ตอบ แต่ยืนเงินให้ 1,000บาท  เมื่อรับมา ปร่ากฎว่าเป็นใบไม้ และในช่วงสายวันที่ 30 มีนาคม ก็รับแจ้งเรื่องพบกระดูก เมื่อไปดูก็พบเสื้อผ้าชุดที่พ่อใส่ออกจากบ้าน พร้อมกระดูก

ทางด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ งามดี ผกก.สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า กระดูกที่พบนั้น ลูกๆยืนยันว่าเป็นของนายสม เถาเบา อายุ 80 ปี  แต่การตายลักษณะนี้ ผิดธรรมชาติ จึงต้องส่งกระดูกให้แพทย์นิติเวชชันสูตร เผื่อญาติพี่น้องติดใจภายหลัง  แต่หากว่าลูกไปพบแพทย์แล้ว ยังยืนยันว่าไม่ติดใจ ไม่อยากตรวจดีเอ็นเอ  ก็จะให้พนักงานสอบสวน ทำเรื่องประสานไปยังนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ ให้ลูกรับกระดูกบิดา นำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป