ขอนแก่น(ชมคลิป)’คันดินริมน้ำพองร้าว’ ชาวบ้านท่ากระเสริมลุ้นรายชั่วโมงหลังเขื่อนอุบลรัตน์เพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันได

อุบลรัตน์ระบายน้ำเพิ่มทุกวัน ล้นฝายกั้นน้ำ พนังทรุด ชาวน้ำพองป้องกันเต็มที่ ด้านกำนันเผยหากระบายแบบนี้ ไม่ป้องกันดีกว่า
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 24 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์น้ำ ในพื้นที่ ตำบลท่ากระเสริม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น หลังจากที่เขื่อนอุบลรัตน์ ระบายน้ำจากวันละ 25 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน เป็น 35 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน หลังมีความเสี่ยงสูงที่จะส่งผลกระทบต่อคันดินอำเภอโนนสัง จ.หนองบัวลำภู พร้อมเตรียมพิจารณาปรับเพิ่มการระบายน้ำอย่างน้อยวันละ 54 ล้าน ลบ.ม. หากสถานการณ์น้ำไหลเข้าเขื่อนยังคงเพิ่มปริมาณสูงต่อเนื่อง

จากการตรวจสอบจุดเสี่ยงคันดินกั้นลำน้ำพอง ที่บ้านท่าโพธิ์หมู่ที่ 4 ต.ท่ากระเสริม พบนางมุงคูล รัตพลที อายุ 54 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าโพธิ์ พร้อมบ้านชาวบ้าน เข้าเวรยาม เฝ้าระวังดูการทรุดตัวของพนังกั้นลำน้ำพอง ที่ขณะนี้พนังกำลังทรุดและแตกเป็นรอยลึกและยาวกว่า 20 เมตร

นอกจากนี้ยังพบว่าเจ้าหน้าที่ ชลประทานขอนแก่น ได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 2 เครื่องตั้งสูบน้ำออกจากลำห้วยใหญ่ดี 9 ระบายลงไปที่ลำน้ำพอง โดยมี นายชัยยา วงษ์วอน กำนันตำบลท่ากระเสริมพร้อมด้วยชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ชลประชานเข้าเวรยามอยู่ตลอด 24 ชม.

โดยอีกจุดที่คาดว่าน้ำจากลำน้ำพองจะเอ่อขึ้นมาล้นที่ฝายน้ำล้นทางด้านทิศใต้ของบ้านบึงเป่ง ม.9 ซึ่งปริมาณน้ำพองที่ไหลย้อนกลับฝายนั้นล้นประตูระบายน้ำและล้นตลิ่ง ไหลลงสู่ห้วยอีตื๋อ ซึ่งอยู่ด้านล่าง และที่บริเวณห้วยอีตื๋อชาวบ้านชาวยกันนำกระสอบทราย ผ้าใบทำคันคูกั้นน้ำเอาไว้มี่ให้ไหลลงไปได้ แต่ก้ันไม่อยู่ เพราะปริมาณน้ำมากและไหลแรง

นายชัยยา วงษ์วอน กำนันตำบลท่ากระเสริม กล่าวว่า มวลน้ที่ไหลเข้ามาท่วมพื้นที่การเกษตรของประชาชนในพื้นที่นั้น เป็นมวลน้ำที่มาจากการระบายน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์ ที่มีการเพิ่มการระบายน้ำมากขึ้นทุกวัน ซึ่งขณะนี้พนังดินที่กั้นลำน้ำพองในพื้นที่บ้านท่าโพธ์ก็ทรุดหนัก หากไม่มีการซ่อมหรือทำพนังกั้นที่แข็งแรงกว่าเดิม น้ำพองก็จะทะลักท่วมในพื้นที่ตำบลท่ากระเสริมกว่า 10 หมู่บ้านและท่วมตำบลทรายมูล และบางส่วนของอำเภอเมืองขอนแก่น อีกด้วย นอกจากนี้สำนักงานชลประทานขอนแก่น ยังได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 2 เครื่องตั้งสูบน้ำออกจากลำห้วยใหญ่ดี 9 ระบายลงไปที่ลำน้ำพอง เนื่องจากปริมาณน้ำสะสมที่หนองแม่ซัด ซึ่งเป็นหนองน้ำสาธารณะครอบคลุมพื้นที่ 3 ตำบลคือตำบลท่ากระเสนิม ทรายมูล และบัวใหญ่มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นเกรงว่าจะเอ่อท่วมที่นาของประชาชน จึงต้องสูบน้ำลงมาที่ลำน้ำพอง

ส่วนการนำกระสอบทราย ทำคันกั้นน้ำที่ห้วยอีตื๋อนั้น เพราะไม่อยากให้น้ำพองที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวันไหลลงไปที่หนองส้มกุ้ง เพราะจะทำให้น้ำท่วมที่นาของประชาชน ขณะนี้คันกั้นน้ำที่ทำขึ้นมา ไม่สามารถกั้นน้ำไว้ได้ จึงประสาน ปภ.ขอนแก่น เพื่อขอบิ๊กแบ๊คมากั้นน้ำเอาไว้ แต่ถ้าไม่ได้ หรือไม่มีหน่วยงานใดมาช่วยเหลือ และถ้าเขื่อนอุบลรัตน์ยังระบายน้ำเพิ่มทุกวันแบบขั้นบันได หรือระบายถึง 40 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ก็คงไม่ทำอะไรแล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำมาก คงป้องกันน้ำไม่ได้ และคงต้องปล่อยให้น้ำท่วมในพื้นที่ทั้งหมดเหมือนปี 2560

ทางด้าน นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์นั้นสรุปได้ว่า มีการระบายน้ำวันละ 25 ล้าน ลบ.ม. แต่ระดับน้ำยังมีความเสี่ยงสูง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อคันดินโนนสัง จ.หนองบัวลำภู จึงปรับการระบายเพิ่มเป็น 35 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน และในช่วงวันที่ 28-30 ตค. 2564 อาจจะได้รับผลกระทบจากหย่อมความกดอากาศต่ำ อาจมีพายุ ส่งผลให้มีฝนตกหนักในพื้นที่รับน้ำของเขื่อนอุบลรัตน์เพิ่ม ซึ่งอาจจะพิจารณาปรับเพิ่มการระบายน้ำ อย่างน้อยวันละ 54 ล้าน ลบ.ม. โดยเริ่มจากวันที่ 25 ต.ค. 64 ระบายที่ 34 ล้าน ลบ.ม.จากนั้นมีแผนจะระบายวันละ 35 ล้าน ลบ.ม.

#อีสานเดลี่ออนไลน์