อุดรธานี-โควิด คร่าชีวิตอีก1ราย เป็นข้าราชการบำนาญ ว่าที่ สท.

โควิด จ.อุดรคร่าชีวิตอีก1ราย เป็นข้าราชการบำนาญ ว่าที่สท.เทศบาลแห่งหนึ่งติดเชื้อเพิ่ม 4 แนวโน้มลดลงผู้ว่าคลายล็อคนั่งร้านอาหารถึง3ทุ่ม

เมื่อเวลา14.00น.วันที่ 1 พฤษภาคม 2564นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี ,นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์ สสจ.อุดรธานี ,นพ.สุมน ตั้งสุทรวิรัตน์ รอง ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี ร่วมกันรายงาน สถานการณ์ของโควิด-19 ของ จ.อุดรธานี ผ่านโปรแกรม Zoom meeting โดยมีสื่อมวลชน จ.อุดรานี ร่วมรับฟังการแถลง และไลฟ์สดผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊คต่างๆ เพื่อกระจายข่าวสารและสถานการณ์ประจำวันไปยังพี่น้องประชาชนชาว จ.อุดรธานี ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 4 ราย สะสม358 ราย รักษาตัวที่โรงพยาล 187 ราย กลับบ้านแล้ว 168 ราย แต่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย อายุ 64 ปี เสียชีวิตรวม 2 ราย
นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี กล่าวว่า วันนี้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเพียงแค่ 4 ราย เป็นยอดจาก 24.00 น. ถึง 08.00 น. เมื่อวานนี้ และปัจจุบันจนถึง 08.00 น. วันนี้ยังไม่มีตัวเลขเพิ่มแต่อย่างใด ลดลงแตะเลขตัวเดียวอีกครั้ง เป็นสัญญาณที่ดีว่ามาตรการต่างๆเริ่มได้ผล ยอดผู้ป่วยสะสมเริ่มชะลอตัว กราฟไม่สูงชันเหมือนช่วงที่ผ่านมา เมื่อวานทำการตรวจหาเชื้อไปทั้งสิ้น 1,868 ราย แบ่งเป็นตรวจแบบ rapid test 1,429 ราย ตรวจเชิงรุกในชุมชน 107 ราย ตรวจในโรงพยาบาล 332 ราย พบเชื้อ 4 ราย
ตามโครงการ 14 วันแห่งความปลอดภัย จะต้องมีการเก็บกวาดและค้นหาเชิงรุกในชุมชนแบบ rapid test ซึ่งได้เร่งดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมาทั้ง 20 อำเภอ ตรวจไปทั้ง 2,802 คน พบผู้ติเชื้อ 3 ราย (อ.เมือง อ.หนองหาน อ.กุมภวาปี) ถือว่าคุ้มค่าในการตรวจค้นหาในครั้งนี้ เพราะถ้าตรวจไม่พบจะเป็นการแพร่เชื้อแก่บุคคลใกล้ชิดและบุคคลต่างๆ หรือแพร่เชื้อในสถานที่อื่นๆได้ โดยโครงการ 14 วันแห่งความปลอดภัย เริ่มในวันที่ 1 – 14 พฤษภาคมนี้”
นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี กล่าวอีกว่า จะดำเนินการตรวจในกลุ่มเสี่ยง 11 ประเภท หรือผู้เดินทางกลับจากสถานที่แออัดหรือไปร่วมงานในต่างจังหวัด (จังหวัดเสี่ยง 50 จังหวัด) เช่น งานบุญ งานบวช งานศพ งานรื่นเริง และในห้วงจะเร่งตรวจกลุ่มเสี่ยงจาก ตลาดสด,ครอบครัวและกลุ่มเสี่ยง ,ผับ บาร์ สนามมวย สนามไก่ชน ,ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้า ,โรงงานสถานกระกอบการ ,สถานีขนส่ง สนามบิน เส้นทางทางบก ,สถานที่ราชการ ,แรงงานต่างด้าว ,ศาสนสถาน โรงเรียน สถานที่ท่องเที่ยว และกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง

“ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ รายที่ 348 – 356 1.ผู้สัมผัสในคณะวงดนตรีหมอลำที่บ้านดุง (รายที่ 330 332 333 348 349 350 ) 2.ผู้สัมผัสร่วมบ้าน พ่อมาจากกรุงเทพมหานคร (รายที่ 351 352) 3.เพื่อน คนใกล้ชิด รับประทานอาหารด้วยกันไม่สวมหน้ากาก 4.ผู้เดินทางมาจากจังหวัดที่ประกาศเป็นจังหวัดสีแดง (ตามประกาศจังหวัดอุดรธานี 22 จังหวัด) และ 5.เดินทางไปหลายจังหวัด ซึ่งจังหวัดอุดรธานีไม่ได้ประกาศเป็นจังหวัดสีแดง (จ.ชัยภูมิ) ส่วนผู้เสียชีวิต รายที่ 2 จ.อุดรธานี เป็นรายที่ 166 เพศชาย อายุ 64 ปี ข้าราชการบำนาญ อยู่ตำบลบ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี ไม่มีโรคประจำตัว วันที่ 17 เม.ย. หลังจากทราบผลตรวจของภรรยา (ผู้ป่วยยืนยัน รายที่ 134) จึงเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด- 19 วันที่ 18 เม.ย. เวลา 02.10 น. ตรวจพบเชื้อ COVID- 19 รับการรักษาที่รพ.อุดรธานี และวันที่ 30 เม.ย. เสียชีวิต เมื่อเวลา 21.45 น.”
นพ.สุมน ตั้งสุทรวิรัตน์ รอง ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตรายที่ 2 รับเข้ารักษาเมื่อวันที่ 18 เม.ย. วันที่ 22 เม.ย. เริ่มมีอาการเหนื่อยต้องให้ออกซิเจน 26 เม.ย.ต้องใช้ออกซิเจนแรงดันสูง มีอาการปอดอักเสบมากขึ้น 27 เม.ย.ต้องใส่ท่อช่วยหายใจเนื่องจากมีภาวะหายใจล้มเหลว 28 เม.ย.มีภาวะเลือดเป็นกรด ภาวะไตวายเฉียบผลันต้องฟอกเลือดล้างไต เก็บเลือดไปเพาะเชื้อพบว่าติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือดแทรกซ้อน 30 เม.ย.อาการทรุดหนักมากขึ้น ความดันลดต่ำลง ปัสสาวะไม่ออก และเสียชีวิตในที่สุดเมื่อเวลา 21.45 น. และได้ทำการฌาปนกิจศพในช่วงเช้าของวันที่ 1 พ.ค.ที่วัดโพธิสมภรณ์ เพื่อลดการสัมผัส ทำพิธีการเผาศพอย่างเรียบง่าย
นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี กล่าวว่า จากมาตรการป้องกันโรคที่ออกมาก่อนหน้านี้ พี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี จนเป็นผลทำให้ตัวเลขการติดเชื้อลดลงตามลำดับ แต่อย่างไรก็ตามเรายังขอเวลาท่านอีก 14 วัน เพื่อจะเร่งรัดและเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการ เชื่อว่าหลังจากนั้นจะมีการประเมิน และทิศทางการควบคุมป้องกันจะมีความชัดเจนขึ้น และมาตรการเรื่องของร้านอาหารเราเห็นว่าร้านต่างๆนั้นได้รับผลกระทบ จึงเห็นควรให้สามารถนั่งทานที่ร้านได้ถึง 21.00 น. ซื้อกลับไปรับประทานที่บ้านและให้ปิดในเวลา 23.00 น. โดยให้เริ่มในวันที่ 2 พ.ค.นี้
“แต่ยังคงขอความร่วมมือร้านค้าร้านอาหารให้เน้นมาตรการควบคุมโรคติดต่อให้เข้มงวด รักษาระยะห่าง ไม่รวมโต๊ะ ไม่นั่งจนหนาแน่นจนเกินไป กินเสร็จแล้วให้รีบกลับบ้านอย่านั่นแช่นานจนเกินไป ยังคงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้ปฏิบัติรักษาความปลอดภัยส่วนตัวอยู่ ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถขายได้แต่ห้ามนั่งดื่มที่ร้าน ยังคงขอความร่วมมืองดจัดงานเลี้ยงงานสังสรรค์รื่นเริง และมาตรการควบคุมอื่นๆยังคงเข้มงวดเหมือนเดิม