ขอนแก่น(ชมคลิป)ตำรวจล็อคล้อรถทั้งที่มีคนอยู่ข้างใน ข้องใจถูกล็อคแล้วจะไปจ่ายค่าปรับได้ไง

ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ข้องใจกรณี ตำรวจจราจร สภ.เมืองขอนแก่น ล็อคล้อ ทั้งที่เปิดไฟเลี้ยวซ้าย  แถมมีคนนั่งในรถเพราะกลัวโควิดให้หลานสาวลงไปซื้อน้ำไม่นาน  เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สน ให้นำใบสั่งไปเสียค่าปรับที่โรงพัก  คู่กรณี ย้อน รถล็อคล้อ จะไปเสียค่าปรับได้อย่างไร

         วันที่ 27 เม.ย 64 ที่บริเวณริมฟุตบาท ถนนศรีจันทร์ ตรงข้าม โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น เทศบาลนครขอนแก่น บรรดาพ่อค้าแม่ค้าตลาดเช้าต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติงานของตำรวจจราจรที่ไม่ให้ความเป็นธรรมกับประชาชนผู้ขับขี่รถยนต์รายหนึ่งที่จอดรถริมถนนและได้เปิดไฟกระพริบไว้แล้วมีคนในรถลงไปซื้อน้ำปั่นร้านที่ตั้งอยู่ริมฟุตบาธ แต่ภายในรถก็ยังมีคนขับติดเครื่องรออยู่ แต่จู่ๆก็มีตำรวจราจรนำที่ล็อคล้อมาล็อคทันทีพร้อมกับเขียนใบสั่ง ระบุความผิดจอดซ้อนคัน ให้ไปจ่ายค่าปรับที่ สภ.เมืองขอนแก่น   แม้หญิงคนขับที่นั่งอยู่ในรถจะร้องขอความเห็นใจว่าไม่ได้จอดนาน ได้ของก็จะรีบไปแล้ว ไม่จอดกีดความจราจรแต่อย่างใด หรือหากจะให้ไปจ่ายค่าปรับที่โรงพักก็ช่วยปลดล็อคล้อให้ด้วย ถ้าไม่ปลดที่ล็อคล้อแล้วตัวเธอกับหลานจะเดินทางไปโรงพักได้อย่างไร แต่ปรากฏว่าตำรวจจราจรคนดังกล่าวไม่รับฟังเหตุผล ไม่ยอมปลดล็อคล้อและยืนกรานว่าเธอต้องไปจ่ายค่าปรับที่โรงพักเท่านั้น  จะไปด้วยวิธีการใดก็ ไม่ใช่ธุระของตำรวจ

ต่อมานางวัชราภรณ์  ผ่องใส หญิงที่เป็นคนขับรถยนต์คันดังกล่าวได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า การปฏิบัติงานของตำรวจจราจรโดยไม่ฟังเหตุผลความจำเป็นลักษณะนี้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก  เธอติดใจทำไมแค่ปลดล็อคล้อแล้วให้เธอขับรถไปจ่ายค่าปรับที่โรงพักไม่ได้เชียวหรือ  ทำไมไม่ทำงานด้วยเหตุด้วยผล เธอเองก็ยอมรับว่ากระทำผิดจริง คือจอดในที่ห้ามจอดพร้อมจะเสียค่าปรับตามกฎหมายทุกประการ  แค่ขอปลดล็อคล้อรถเพื่อจะได้ขับไปโรงพักทำไมถึงทำให้ประชาชนไม่ได้ เชื่อว่าไม่ใช่แค่เธอเท่านั้นที่เจอกรณีอย่างนี้ ทำไมต้องให้ชาวบ้านเสียเงินเหมารถ จ้างรถไปจ่ายค่าปรับที่โรงพัก จ่ายเสร็จก็ต้องเสียเงินค่ารถแท็กซี่ย้อนกลับมาขับรถในจุดเดิมอีกหรือ

     นางวัชราภรณ์บอกอีกว่า  ตนเองติดเครื่องนั่งอยู่ในรถแล้วเปิดไฟกระพริบ  ให้หลานรีบลงไปซื้ออาหาร เห็นตำรวจเดินมาจะล็อคล้อรถ เลยลงไปบอกว่าอย่าล็อคเลย เพราะมีคนอยู่บนรถและก็เปิดไฟกระพริบให้สัญญาณอยู่ เดี๋ยวก็จะรีบไปแล้ว  แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ฟัง ล็อคล้อแล้วเขียนใบสั่งให้ไปจ่ายโรงพัก  แล้วจะให้ไปยังไง ขอให้ช่วยปลดล็อคก็ไม่ฟัง  ซึ่งรถคันที่จอดอยู่ข้างหน้ารถก็ถูกล็อกเหมือนกัน  เขามาซื้อกับข้าวให้แม่ที่นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลขอนแก่น ตำรวจนายนี้ก็ไม่ยอมฟังคำขอร้องของใคร  ยืนกรานให้ไปจ่ายค่าปรับที่โรงพักอย่างเดียวแล้วค่อยกลับมาขับรถออกไป     ตนมองว่ากรณีที่เกิดขึ้นกับตัว  ตำรวจจราจรนายนี้ควรเป่านกหวีดให้สัญญานกับตนก่อนว่า  บริเวณนี้จอดรถไม่ได้ เพราะเธอไม่ใช่คนแถวนี้  แค่ขับรถผ่านไปทำธุระแค่นั้น หากเป่านกหวีดแจ้งเตือนแต่แรกก็จะไม่จอด  แต่สิ่งที่ตำรวจนายนี้ทำคือตั้งใจจะปรับไหมอย่างเดียว ไม่ฟังเหตุผลใดใดทั้งนั้น  ถือว่าซ้ำเติมความทุกข์ยากของประชาชนในยามวิกฤตตกต่ำโรคภัยโควิด-19 อยากให้ผู้บังคับบัญชาช่วยกวดขันการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจระดับปฏิบัติการให้เข้มงวด ใช้เหตุผลในการทำงานมากกว่านี้ ไม่ผลักภาระให้ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ.