เลย-ติดเพิ่มอีก 7 ราย ผู้ว่าฯย้ำ ให้ทุกคนร่วมมือปฏิบัติตนตามมาตรการจังหวัด

เลยติดเพิ่มอีก 7 ราย ผู้ว่าฯย้ำ ให้ทุกคนร่วมมือปฏิบัติตนตามมาตรการจังหวัด ลุ้นตัวเลขผู้ป่วยลด หลัง 26 เม.ย.นี้ เชื่อจะคุมสถานการณ์ได้
วันที่ 23 เมษายน 2564 เวลา 16.00 น. ที่ห้องประชุมภูหลวงชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดเลย. นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วย นพ.สมชาย ชมภูคำ รองนพ.สสจเลย ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19จังหวัดเลย นพ.สมชาย ชมภูคำ รองนพ.สสจ.เลย เปิดเผยว่า สถานการณ์จังหวัดเลย มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 7 ราย เป็นรายที่ 25-3 ทำให้มีผู้ป่วยโควิด-19 ของช่วงเดือนเมษายนจำนวน 31ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ 27 ราย ส่วนใหญ่อาการปกติ มี 3 ราย ที่ใช้ยาต้านไวรัส
สำหรับผู้ป่วย 7 ราย มีดังนี้ รายที่ 25 เป็นเพศหญิง อายุ 54 ปี ชาวอำเภอวังสะพุง มีประวัติสัมผัสกับบุตรสาว ซึ่งเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ที่กรุงเทพมหานคร ที่กลับมาเยี่ยมบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 17 เมษายน 2564 และตรวจพบเชื้อในวันที่ 22 เมษายน 2564
รายที่ 26-27 สองสามีภรรยา อยู่ในอำเภอเมืองเลย มีประวัติไปเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน โดยกลับเข้าจังหวัดเลยเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 15 เมษายน 2564 ก่อนตรวจพบเช้อในวันที่ 22 เมษายน 2564
รายที่ 28 เพศหญิง อายุ 3 ปี 7 เดือน เป็นบุคคลในครอบครัว และเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของรายที่ 24 (เด็กชายอายุ 4 เดือน) ที่อำเภอภูหลวง ไม่มีอาการ
รายที่ 29 เพศหญิง อายุ 16 ปี เป็นบุคคลในครอบครัว และเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของรายที่ 24 (เด็กชายอายุ 4 เดือน) ที่อำเภอภูหลวง ไม่มีอาการ
รายที่ 30 เพศหญิงอายุ 17 ปี อยู่ที่อำเภอภูหลวง มีประวัติพูดคุยกับยายของรายที่ 24 (เด็กชาย 4 เดือน)ซึ่งเป็นผู้ป่วยในกรุงเทพมหานคร นานเกิน 5 นาทีโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย รายนี้ไม่มีอาการ
รายที่ 31 เพศหญิง อายุ 89 ปี อยู่ที่อำเภอภูหลวง มีประวัตินั่งรถยนตฺส่วนบุคคล ไปกับยายของรายที่ 24 (เด็กชาย 4 เดือน)ซึ่งเป็นผู้ป่วยในกรุงเทพมหานคร และไม่สวมหน้ากากอนามัย รายนี้ไม่มีไข้ มีเพียงอาการไอเท่านั้น
นพ.สมชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีเคสที่ ต.ภูหอ อ.ภูหลวงนั้น มีลักษณะจะเป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหลายราย โดยล่าสุด ส่งตรวจไป 21 ราย พบเชื้อ 5 ราย ยังรอผลตรวจอีก 24 ราย โดยขณะนี้ ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ และค้นหาผู้ที่อาจจะมีความเสี่ยงเพิ่มเติมแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการบังคับใช้มาตรการอย่างเข้มข้น โดยการปิดบางส่วนของหมู่บ้าน โดยรอบบ้านของผู้ป่วย และตั้งด่านแสกนคนเข้าออกหมู่บ้านแล้วเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ขณะที่เตียงรองรับผู้ป่วยขณะนี้ ยังคงมีเพียงพอ ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 199 เตียง เหลือเตียงว่าง 149 เตียง ซึ่งอยากให้ทุกภาคส่วนสบายใจ เพราะทางการแพทย์ สามารถรองรับสถานการณ์ได้ และมีทรัพยากรที่เพียงพอ
ด้านนายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ระบุว่า จากการพูดคุยหารือกับทางทีมแพทย์ ขณะนี้สถานการณ์จังหวัดเลยยยังสามารถบริหารจัดการได้ แต่ต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เพราะจากการคาดการณ์พบว่า หลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 16 เมษายน 2564 ไป 10 วัน ซึ่งจะครบกำหนด 26 เมษายน 2564 ถ้าสถานการณ์จะดีขึ้น ตัวเลขผู้ป่วยลดลง แสดงให้เห็นว่าเราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และจากตัวเลขผู้ป่วยขณะนี้จังหวัดเลยยังเป็นพื้นที่สีส้มยังไม่เป็นพื้นที่สีแดง เพราะผู้ป่วยยังเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ย้ำว่า ยังไม่มีมาตรการปิดจังหวัด แต่จะใช้มาตรการค้นหาผู้ติดเชื้อให้ได้มากที่สุดเพื่อให้ควบคุมสถานการณ์ได้ นอกจากนี้ ย้ำว่าให้ชาวจังหวัดเลยปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข โดยเฉพาะมาตรการการสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะตาม ถ้าไม่สวมใส่อาจะขัดคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรค รวมถึงมาตรการรายงานตัว กรณีผู้ที่มาจากต่างจังหวัดต้องรายงานตัว ทั้งนี้ ยอมรับ อาจมีบางรายไม่รายงานตัว ดังนั้นหลังจากนี้อาจจะมีการหารือวางมาตรการลงโทษผู้ไม่เข้ามารายงานตัว อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในระบบราชการที่จะพาทุกคนผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้
โดยช่วงเช้า ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเลย นพ.ปรีดา วรหาร สาธารณสุขจังหวัดเลย พร้อมผู้บริหาร ร่วมกันรับมอบเตียงกระดาษจำนวน 40 เตียง จากมูลนิธิเอสซีจี เพื่อไว้ใช้ในโรงพยาบาลสนาม ซึ่งเตรียมสำหรับรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรงนัก ที่มณฑลทหารบกที่ 28 ต.นาอ้อ อ.เมืองเลย และช่วงบ่าย นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของทางจังหวัด และขอให้อดทน มาตรการเป็นเพียงระยะสั้น เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น จะเร่งผ่อนคลายในเร็ววันนี้
นอกจากนี้ทางจังหวัดออกหนังสือเวียนลงวันที่ 23 เมษายน 2564 ถึงหัวหน้าส่วนราชการทุกส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย นายกเทศมนตรีเมืองเลย นายกเทศมนตรีเมืองวังสะพุง และนายอำเภอทุก
อำเภอ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) และ
เพื่อให้การปฏิบัติราชการของจังหวัดเลย เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อาศัยอำนาจตามความในข้อ 7 (1) และ
ข้อ 13 ของข้อกำหนดซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์
ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1 ) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 และมาตรา57 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
บริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2543 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงกำหนดมาตรการ ดังนี้
1. ห้ามข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานของรัฐ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ตลอดจน
บุคลากรในสังกัด เดินทางออกนอกเขตพื้นที่จังหวัดเลย
2. กรณีจำเป็นต้องออกนอกพื้นที่จังหวัดเลย ให้ขออนุญาตหัวหน้าส่วนราชการ
หัวหน้าหน่วยงาน นายอำเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่กำกับดูแล แล้วแต่กรณี
3. กรณีหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานประจำจังหวัด นายอำเภอ และผู้บริหาร
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้แจ้งเหตุผลความจำเป็นและขออนุญาตต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเลย โดยตรง
4. กรณีได้รับอนุญาตให้ออกนอกพื้นที่ ฯ เมื่อเดินทางกลับเข้ามาในพื้นที่ฯ แล้ว
ให้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานสอบสวนโรคติดต่อในพื้นที่ เพื่อรับการสอบสวนและประเมินความเสี่ยง


ดำรงค์ รักษ์จรรยาวงศ์ / ขตว.เลย