นครพนม(ชมคลิป)ฉีดวัคซีนโควิดให้บุคลากรด่านหน้า ล๊อตที่ 2


วันที่ 21 เมษายน 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายแพทย์มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า สำหรับการฉีดวัคซีนของจังหวัดนครพนมในล๊อตที่ 2 วันนี้กำลังฉีดอยู่ โดยวัคซีนของนครพนมได้ล็อตแรก 1,800 dose ล็อตที่ 2 ประมาณ 4,360 dose ซึ่งทั้ง 2 ล็อต จะเป็นการฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์และบุคคลากรด่านหน้าเป็นหลัก ซึ่งแต่ละล็อตจะแบ่งเป็นการฉีด 2 ครั้ง ห่างกันประมาณ 3 สัปดาห์ สำหรับตัวเลขบุคลากรทางการแพทย์มีอยู่ประมาณ 3,775 ราย นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ อสม. บุคลากรด่านหน้า ตำรวจ ทหาร คนที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วย covid โดยล๊อตที่ 3 คาดว่าจะมาในช่วงประมาณปลายเดือนเมษายน ซึ่งรัฐบาลกำลังบริหารวัคซีนภายใต้สถานการณ์ที่มีวัคซีนจำนวนจำกัด เพราะฉะนั้นจะมีการส่งให้ในส่วนของจังหวัดต่าง ๆ ตามจำนวนความจำเป็น จำนวนของผู้ป่วย จำนวนของบุคลากรและประชาชนเป็นหลัก ซึ่งจะมีการจัดส่งมาให้เรื่อยๆ โดยเป้าหมายกลุ่มบุคลากรด่านหน้าคาดว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนครบภายในกลางเดือนพฤษภาคม จากนั้นก็จะเป็นการฉีดให้ประชาชนทั่วไป
ด้านนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ประชาชนทุกคนต้องเข้าใจให้ตรงกันว่าการฉีดวัคซีนแล้วก็สามารถติดเชื้อไวรัสโควิดได้ วัคซีนไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อเพียงแต่ว่าเมื่อฉีดแล้วถ้าเป็นหรือติดเชื้อจะบรรเทาความรุนแรงและลดอัตราการเสียชีวิตลงได้ แต่สิ่งที่ดีกว่าวัคซีนก็คือการระมัดระวังป้องกันไว้ก่อน ที่ติดกันอยู่เพราะตั้งอยู่บนความประมาท ชอบไปในที่อโคจร จึงมักจะพบกับอันตรายที่แอบแฝงอยู่ เวลามีอะไรเกิดขึ้นผลเสียก็จะอยู่ในนั้น ซึ่งหลักการที่ดีก็คือปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะโรคนี้มากับคน เพราะฉะนั้นเราก็ต้องระวังคน โดยเฉพาะคนที่มาจากพื้นที่เสี่ยง อย่าไปคิดว่าไว้ใจเพราะเขาเป็นลูก เป็นหลาน เป็นคนที่เรารัก สนิท ชอบพอ เพราะบางทีเจ้ากรรมนายเวรอาจจะมาในรูปของการนำเชื้อมาฝากแทน และขอความกรุณาอย่ารังเกียจคนที่ติดเชื้อ วันนี้จังหวัดนครพนมพุ่งเป้าไปที่คนมาจากพื้นที่เสี่ยง เพราะสถานการณ์เท่าที่ฟังจากบุคคลรอบข้าง จากสื่อออนไลน์ จากการแถลงที่เป็นทางการของรัฐบาล รู้สึกว่าทุกจังหวัดหนักเหมือนกันหมด แต่ก็ยังคิดว่าจังหวัดนครพนมค่อนข้างที่จะมาถูกทางแล้ว ในแง่ของการควานหาก่อนที่จะหลุดไปเป็นตัวแพร่เชื้อในชุมชน หมู่บ้าน ไปสร้างความลำบากให้กับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่อยากให้ระวังคือผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว เพราะจะเป็นปัจจัยที่เพิ่มการเสียชีวิตหากติดเชื้อ จึงอยากประชาสัมพันธ์และย้ำเตือนไปยังพี่น้องประชาชนทุกคน