(ชมคลิป)พช.นครพนม นำเครือข่ายองค์ความรู้ KBO จังหวัด พัฒนาขีดความสามารถผู้ผลิต สินค้า OTOP ในพื้นที่


วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ห้องประชุมหนองบึก 3 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพเครือข่ายองค์ความรู้ KBO จังหวัด ที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนมจัดขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนภาค และประชาชนในพื้นที่ร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการผลิต การพัฒนามาตรฐาน คุณภาพ บรรจุภัณฑ์ของสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค การบริหารจัดการด้านการตลาด เพื่อรวบรวมเป็นองค์ความรู้และนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศได้ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้มีการส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนให้มีส่วนสนับสนุนในการสร้างความเข้มแข็งแก่ภาคประชาชน และการส่งเสริมบทบาทของสถาบันการศึกษาในพื้นที่ให้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP เป็นการผนึกกำลังของทุกภาคส่วนในชุมชน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อน OTOP สู่ความเข้มแข็งและยั่งยืน ในรูปแบบของเครือข่ายองค์ความรู้ หรือ knowledge -Based OTOP : KBO
โดยก่อนหน้านี้จังหวัดนครพนม ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา และมีการลงพื้นที่ถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ทั้ง 12 อำเภอ และในวันนี้ได้มีการเชิญตัวแทนผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP ในพื้นที่ จำนวน 20 ผลิตภัณฑ์ ประกอบไปด้วย ย่ามไทแสก กุ๊บ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าขาวม้า ผ้าพันคอ กระเป๋าเอนกประสงค์ เกลือสปา มะเขือเทศแช่อิ่ม กระปุกออมสินไม้ไผ่ กาละแมโบราณ กระติบข้าว/ถาด/ตะกร้าและกระเป๋าจากไม้ไผ่ ผ้าคลุมไหล่ลายขิด ผ้าคลุมไหล่หมักน้ำมันยางนา ปิ่นโตกระติบข้าวและกล่องเอนกประสงค์ เตาอั้งโล่ประหยัดพลังงาน ให้นำผลิตภัณฑ์ของตนเองมานำเสนอเพื่อให้เครือข่ายองค์ความรู้ KBO จังหวัด ได้ร่วมกันพิจารณาให้คำแนะนำ คำปรึกษา ตลอดจนเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย สร้างแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเอง สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ เช่น การเพิ่มเรื่องราวที่สร้างสรรค์ น่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์ การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพิ่มเติม โดยการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุกต์ร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมถึงการวางแผนการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด โดยหลังจากนี้ทุกคนจะนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปปรับปรุงพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองก่อนที่จะมีการคัดเลือกเพียง 1 เดียวเป็นตัวแทนของจังหวัดเข้าร่วมประกวดและเผยแพร่ผลงานในระดับประเทศต่อไป