หนุ่มอดีตพนักงานส่งเฟอร์นิเจอร์ทำทีเข้าไปขอเงินยายวัย 74 ปี อ้างรถน้ำมันหมด ก่อนใช้ขวดฟาดหัวเลือดอาบได้รับบาดเจ็บหางคิ้วและกระดูกเบ้าตาแตกแล้วฉกทรัพย์สินหน้าบ้านพักหนี ด้านตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ตามรวบทันควัน พร้อมนำตัวไปแผนหวิดถูกประชาทัณฑ์ อ้างตกงานไม่มีเงินใช้
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใต้การอำนวยการโดย พ.ต.อ.ปริญญา คำเจริญ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.เอกกฤต กัลยาสนธ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ สั่งการให้ พ.ต.ท.สีหนาท จันทร์เหลือง สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ร.ต.อ.ธวัชชัย ทับธานี รอง สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์จับกุมตัวนายฐาปกรณ์ หรือน็อต ภูพันนา อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 162 ม. 10 ต.หัวนาคำ อ. ยางตลาด จ. กาฬสินธุ์ พร้อมของเสื้อยืดคอกลมสีขาวมีรอยคราบเลือด กางเกงขาสั้น สีดำ มีลายแถบสีขาว แถบสีฟ้า หลังก่อเหตุใช้ขวดตีศีรษะนางโจม ดีแป้น อายุ 74 ปี ขณะที่กำลังนั่งพักอยู่หน้าของตนเองเลขที่ 92 ชุมชนหนองเรือ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ติดกับศูนย์ราชการ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อช่วงเวลา 09.00 วันที่ 18 กันยายน 2563ที่ผ่านมา ก่อนที่จะนำเอากระเป๋าของผู้เสียหาย ซึ่งข้างในมีเงินสดจำนวน3,000 บาท สร้อยคำทองคำ 1 เส้น หนัก 50 สตางค์ สร้อยข้อมือทอง 1 เส้น หนัก 50 สตางค์ แหวนทอง 2 วง วงละ 25 สตางค์ จี้เพชร จำนวน 1 ชิ้น มูลค่าประมาณ 30,000 บาท จี้ล็อกเก็ตทอง จำนวน 1 ชิ้น กุญแจรถฟอร์จูนเนอร์ จำนวน 1 อัน สมุดบัญชีธนาคาร และเอกสารต่างๆหลบหนีไป
โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ได้เร่งติดตามจนทราบตัวคนร้ายและกดดัน ญาติพาเข้ามามอบตัวในช่วงเย็นบ่ายของของวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา พร้อมกับของกลางเบื้องต้นที่ได้คืนสร้อยข้อมือทองคำ 1 เส้นหนัก 50 สตางค์ และแหวนนำหนัก 25 สตางค์จำนวน 2 วง ที่ยึดได้ในบ้านพักบ้านเลขที่ 453/1 ถ.อรรฆนาคต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ส่วนทรัพย์สินที่เหลืออยู่ระหว่างการติดตาม
ทั้งนี้ ร.ต.อ.พิชัย กงทิพย์ ร้อยเวรเจ้าของคดีและชุดสืบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ได้คุมตัวนายฐาปกรณ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งหลังจากทำแผนเสร็จกำลังนำตัวกลับได้มีญาติของผู้เสียหายเดินเข้ามาชกที่ใบ้หน้าผู้ต้องหา 1 ครั้ง เจ้าหน้าที่จึงห้ามไว้และรีบพาตัวชี้จุดที่ทิ้งกระเป๋าของกลางริมถนนเลี่ยงเมืองห่างจากหน้าศูนย์ราชการ จ.กาฬสินธุ์
โดยนายฐาปกรณ์ รับสารภาพ และอ้างว่า ก่อนหน้านี้ตนเป็นพนักงานส่งของที่ร้านจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่งในตัวเมืองกาฬสินธุ์ ก่อนจะถูกนายจ้างให้ออก จึงตกงาน ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าบ้านผู้เสียหาย แต่น้ำมันหมด และทราบว่าผู้เสียหายมีทรัพย์สินและน่าจะอยู่บ้านคนเดียว เนื่องจากเคยมาส่งตู้เสื้อผ้าแล้วครั้งหนึ่ง จึงเข้าไปขอจำนวน 20 บาท เพื่อไปเติมน้ำมัน โดยผู้เสียหายนอนอยู่บนเปลหน้าบ้าน และบอกว่ามีแต่เงินแบงค์พัน ขอโทรหาลูกก่อน ตนจึงเดินเข้าไปหยิบขวดแก้วที่วางอยู่บนตีเข้าที่ศีรษะนางโจมอย่างแรงจนล้มลงกับพื้นเลือดอาบเต็มหน้า แล้วหยิบเอากระเป๋าของนางโจมวิ่งออกมาขี่รถจักรยนต์ค้นเอาทรัพย์แล้วหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน พร้อมแจ้งข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นการจับกุม ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย
ด้านนายพรพิชิต ธารพรศรี อายุ 48 ปี ลูกชายผู้เสียหาย กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนกำลังอาบน้ำอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงโทรศัพท์และเสียงร้องของแม่ให้ช่วยเหลือ จึงรีบวิ่งออกมาดูก็พบว่าแม่นอนอยู่ที่พื้นมีเลือดเต็มหน้า จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ
สำหรับอาการของนางโจม เบื้องต้นมีแผลแตกที่บริเวณเหนือคิ้ว ขมับด้านซ้าย และกระดูกบริเวณเบ้าตาแตก ซึ่งแพทย์ได้ทำการักษาอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังรอการผ่าตัดอีกครั้ง และรักษาตัวที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์